ฟันผิด! หลวงพี่โรยตะปูเรือใบสกัดโจ๋ผ่านทางกวนสมาธิ ชาวบ้านลงมติเลิกผ่านทาง (คลิป)

จากกรณีนายโซเฟีย อยู่บุรี อายุ 28 ปี ชาวบ้านบ้านหญ้าคา หมู่ที่ 6 ต.ขุนทอง อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ได้เข้าร้องเรียนกับสื่อ หลังตัวเองและคนในหมู่บ้าน ได้ขับรถขี่สัญจรผ่านเส้นทางของสำนักปฏิบัติธรรมป่าช้า บ้านหญ้าคา แล้วโดนตะปูจำนวนมากที่วางไว้เต็มพื้นถนน จนยางรั่วไปจำนวนหลายคัน ส่งผลให้ชาวบ้านไม่กล้าขับผ่านเส้นทางดังกล่าว และเส้นทางนี้ยังเป็นเส้นทางในการสัญจรไปมาต่าง ๆ ในหมู่บ้านได้ วอนหน่วยงานเข้าตรวจสอบอย่างเร่งด่วน

วันที่ 18 ม.ค. 64 นายโซเฟีย อยู่บุรี อายุ 28 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตอนแรกตนได้ทราบข่าวมาจากเพื่อนบ้านว่าขับรถผ่านทางสำนักสงฆ์แล้วโดนตะปูจำนวนมากอยู่บนพื้นทิ่มยางรั่วหลายคัน จนกะทั่งตนก็ได้ออกไปดูเอง พบว่ามีตะปูจำนวนมากที่วางอยู่ที่พื้น ตนจึงได้เก็บมาไว้ก่อน

หลังจากนั้นตนได้สืบทราบมาว่าเจ้าของตะปูน่าจะเป็นพระสงฆ์ที่อยู่ในสำนักเป็นคนมาวางไว้ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก เพราะเส้นทางนี้เป็นทางผ่านชาวบ้านที่ใกล้ที่สุด ซึ่งถ้าไปเส้นทางอื่น ก็อ้อมไกล ตนจึงอยากวอนให้หน่วยงานช่วยเหลือ พูดคุยเจรจาด้วย ชาวบ้านจะได้ใช้เส้นทางได้อย่างปกติ

ด้านพระลีดอ ปัญญาพระโล พระในสำนักสงฆ์ เปิดเผยว่า ตนได้มาจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้มา 3 พรรษาแล้ว ซึ่งปกติที่ดินแห่งนี้เป็นที่สาธารณะ ที่ชาวบ้านตั้งให้เป็นสำนักสงฆ์ เพื่อให้พระสงฆ์มาปฏิบัติธรรม

แต่ด้วยเส้นทางเส้นนี้ รถเข้าออกประจำ ตอนแรกทางพระในสำนักเองก็ได้เอาไม้ไปกั้นไว้ เพื่อไม่ให้รถผ่าน แต่ก็มีคนมารื้อออกไปเหมือนเดิม ซึ่งการที่รถผ่านไปมานั้น รบกวนความสงบของพระสงฆ์เวลาจะปฏิบัติธรรมหรือทำกิจวัตรส่วนตัว

จากนั้น พระจึงตัดสินใจเอาตะปูไปโรยไว้ เพื่อกันรถเข้าออก แต่ตะปูนั้นไม่มีอันตรายรถ เหยียบยางก็ไม่รั่ว ตนขอยืนยันได้ว่าที่ทำไปเพราะอยากเตือนเท่านั้ นไม่ได้เจตนาไม่ดีกับชาวบ้าน

ล่าสุด สำนักพุทธศาสนาจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าคณะตำบลขุนทอง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรมป่าช้า บ้านหญ้าคาแล้ว พระที่กระทำผิดวินัยจริง ได้ลงโทษปลงอาบัติว่ากล่าวตักเตือน และห้ามกระทำซ้ำ ด้านผู้ใหญ่บ้านทำประชามติกับชาวบ้าน สรุปว่าเสียงเกินครึ่ง ให้ห้ามผ่านเส้นทางวัดอีก

นายสุวัช สุดาวงศ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 บ้านหนองหญ้าคา เปิดเผยว่า เส้นทางนี้ ก่อนหน้าตนก็เคยได้ประชามติไปแล้วกับชาวบ้านส่วนใหญ่ว่าห้ามผ่านเส้นทางนี้ จะให้ผ่านได้ต่อเมื่อทางที่เลี่ยงนั้นในช่วงหน้าฝนมีโคลนหรือสัญจรลำบาก

โดยที่ผ่านมาได้มีกลุ่มวัยรุ่นมามั่วสุมและสร้างความรำคาญให้กับพระ ขับรถเข้าออกเป็นว่าเล่น ส่วนตัวผู้ร้องตนคิดว่าน่าจะไม่รู้ในการประชามติที่ผ่านมา ส่วนพระก็คงคิดว่าน่าจะเป็นต่างถิ่นที่ขับเข้ามา โดยไม่รู้จึงได้วางตะปูไว้ และเหยียบเข้าในที่สุด สำหรับวันนี้ตนก็ได้นำชาวบ้านมาพูดคุยรับฟังและประชามติอีกรอบแล้ว

ด้านนายวินัย ปุณยรัชตปรีดา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกับเจ้าคณะตำบลขุนทอง เปิดเผยว่า ตนได้ตรวจสอบแล้ว พบว่าการกระทำของพระภิกษุนั้นเป็นการกระทำผิดจริง ทางคณะสงฆ์จึงได้ลงโทษทางวินัยสงฆ์ ด้วยการให้ปลงอาบัติ และว่ากล่าวตักเตือน ขออย่าทำซ้ำอีก ส่วนเรื่องของที่พระภิกษุอยู่ก็ต้องมอบให้เป็นทางท้องถิ่นดูแลจัดการเอง และขึ้นอยู่กับประชามติของชาวบ้าน และผู้นำชุมชนว่าจะตัดสินใจอย่างไรต่อไป