จากกรณีวันที่ 17 ม.ค. 64 นายทรงวุฒิ แบ่งเรือน อายุ 30 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ว่าเมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา บุตรชายชื่อ ด.ช.ธนโชค หรือ บ๊อปบี้ อายุ 7 ขวบ ได้หายออกไปจากบ้าน
ก่อนญาติช่วยกันออกค้นหาบริเวณรอบบ้านแล้วไม่พบตัว จึงเกรงว่าจะเป็นอันตราย จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบและช่วยออกติดตามด้วย กระทั่งพบเป็นศพในดงกล้วย พื้นที่หมู่ 9 ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พิรุธ! “บ๊อบบี้ เด็ก 7 ขวบ” ศพโผล่ดงกล้วยไกลบ้าน 3 กม. พ่อเชื่อถูกฆ่า อาเด็กปัดทำร้าย
วันที่ 19 ม.ค. 64 นายหลี (นามสมมติ) อาของเด็ก กล่าวว่า ตนดูแลน้องบ๊อปบี้และหลาน ๆ ซึ่งเป็นลูกของนายทรงวุฒิรวม 3 คน ในบ้านหลังดังกล่าวมานาน 3 ปีแล้ วเพราะพ่อแม่ของเด็ก ๆ จะต้องออกไปรับจ้างกรีดยางนอกพื้นที่ครั้งละหลายวัน
และที่ผ่านมาก็ไม่เคยพบเห็นสิ่งผิดปกติ มักจะมีกลุ่มเพื่อน ๆ ของน้องบ๊อปบี้ขี่จักรยานมารับน้องและออกไปเล่นกันภายในหมู่บ้านเป็นประจำ กระทั่งวันเกิดเหตุในช่วงบ่าย ตนได้จุดไฟในห้องครัวเพื่อต้มน้ำ จากนั้นได้ออกไปเปลี่ยนแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือที่ตลาด ใน อ.เวียงเชียงรุ้ง และกำชับไม่ให้หลานออกไปเล่นนอกบ้าน เมื่อเสร็จธุระในเวลาเย็นจึงกลับบ้านก็พบว่าเหลือหลานเพียง 2 คน ส่วนน้องบ๊อปบี้ไม่อยู่แล้ว
ทีมข่าวเดินทางไปยังร้านซ่อมและจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย นายมนัส (นามสมมติ) เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า วันที่ 16 ม.ค. 64 เวลาประมาณ 16.50 น. นายหลีได้ขับรถมอเตอร์ไซค์มาซ่อมโทรศัพท์ที่ร้านของตนจริง
โดยวันนั้นตนเองได้ซ่อมโทรศัพท์ให้นายหลีจนเสร็จ จากนั้นเวลา 17.10 น. นายหลีก็ได้เดินทางกลับไปด้วยรถคันเดิม
ขณะที่เวลา 14.00 น. พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 พร้อมชุดสืบสวนภูธรภาาค 5 ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม
ที่ สภ.เวียงเชียงรุ้ง อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายณัฐพล นัยติ๊บ หรือ พ่อหลวงเกตุ เจ้าของเถียงนาที่อยู่ห่างจากจุดพบศพน้องบ๊อบบี้ ประมาณ 150 เมตร สอบปากคำจนถึงเวลา 13.00 น. ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังเรียกเด็กกลุ่มเพื่อนของผู้ตายไปสอบปากคำด้วย 4 คน
นายณัฐพล นัยติ๊บ หรือ พ่อหลวงเกตุ เจ้าของเถียงนา เปิดเผยว่า กรณีข้างศพน้องบ๊อบบี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบจอบ 1 อัน และไม้ฟืน 1 อันนั้น ตนเองยอมรับว่าจอบและฟืนเป็นของตนจริง แต่ตนขอปฏิเสธว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องบ๊อบบี้
โดยวันที่ 16 ม.ค. 64 ที่น้องบ๊อบบี้หายตัวไป ตนเองและภรรยาก็ไม่ได้ไปที่ไร่ ตนทำงานไถดินละแวกหมู่บ้านทั้งวัน ส่วนวันที่ 17 ม.ค. 64 วันที่เจอศพ ตนทำงานที่บ้านทั้งวัน ภรรยาตนเองได้ไปที่สวนยางพาราห่างจากเถียงนาประมาณ 200 เมตร เวลา 09.00-10.00 น. เท่านั้น ก็ไม่ได้ยินเสียงผิดปกติ ส่วนนายฉลวย เจ้าของที่ดินจุดพบศพ ตนเองก็คาดว่าเขาน่าจะไม่ได้ไปที่ไร่ของเขา เนื่องจากเขาทำงานเช่นกัน
สำหรับบ่อน้ำที่อยู่ใกล้เถียงนาตนมีจำนวน 2 บ่อ ซึ่งตนเลี้ยงปลาทั้ง 2 บ่อ ที่ผ่านมาก็ไม่มีเด็กไปเล่นน้ำหรือไปจับปลาในบ่อน้ำของตนแต่อย่างใด ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าขุมชนมีเรื่องยาเสพติด แต่ตนไม่รู้ว่าปมนี้จะเกี่ยวข้องกับการตายของน้องบ๊อบบี้หรือไม่
โดยช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวตนเองไปสอบปากคำ ตนก็ไม่เครียดหรือกดดัน คิดว่าคนร้ายน่าจะทำร้ายน้องบ๊อบบี้มาจากที่อื่น และมาทิ้งศพอำพรางที่กอกล้วย และส่วนไม้ฟืนกับจอบ น่าจะหยิบจากเถียงนาของตนไปทิ้งข้างศพ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ และโยนความผิดมาให้ตน
ด้านนายทรงวุฒิ แบ่งเรือน พ่อของน้องบ๊อบบี้ ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงเชียงรุ้ง ได้เชิญตัวตนไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่โรงพัก ซักถามถึงวันเกิดเหตุ ตนและภรรยาอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ ซึ่งใช้เวลาพูดคุยประมาณ 2 ชั่วโมง
ทั้งนี้ สำหรับน้องบ๊อบบี้ ที่ผ่านมาน้องเคยไปจับปลาละแวกรอบหมู่บ้านเท่านั้น แต่ไม่เคยไปจับปลาไกลถึงบ่อน้ำพ่อหลวงเกตุ ที่อยู่ใกล้จุดพบศพ ส่วนตัวตนเองก็ยังไม่ได้ระบุว่าสงสัยเจ้าของที่ดินที่พบศพลูกชาย คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการทำงาน สำหรับวันนี้มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่ลงพื้นที่มาดูคดีลูกชาย ตนก็มีกำลังใจมากยิ่งขึ้นที่ตำรวจจะสามารถจับคนร้ายได้โดยเร็ว สำหรับไม้ฟืนและจอบที่พบข้างศพลูกชาย ตนคาดว่าน่าจะมีส่วนที่คนร้ายใช้ทำร้างร่างกายลุกชายตนจนเสียชีวิต
นอกจากนี้ ถ้าคนร้ายมายอมรับผิดในสิ่งที่เขาทำ ตนก็จะอภัยให้ ในตอนทำแผนฯ ตนก็อยากจะไปดูหน้าคนร้ายเหมือนกัน ซึ่งตนมีคำพูดที่อยากจะพูดกับเขา แต่ตนขอเก็บคำพูดนั้นไว้ก่อน
ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปวันที่พบศพลูกชาย ตนได้เห็นศพลูกชายอยู่ระยะไกล เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้เข้าใกล้พื้นที่ ตนเห็นเท้าลูกชายมีรอยบอบช้ำสีดำ แต่ตนไม่แน่ใจว่าเป็นรอยไหม้หรือรอยเขม่าไฟหรือไม่ สำหรับศพของน้องบ๊อบบี้ยังอยู่ระหว่างชันสูตรที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ตนก็ยืนยันว่าถ้ายังจับคนร้ายไม่ได้ ก็ไม่มีทางที่จะฝังศพลูกชาย ตนคิดว่าคนร้ายเขาทำเกินกว่าเหตุ ลูกตนอายุแค่ 7 ขวบ ถ้าทำผิดทำไมไม่มาเรียกตนและภรรยาไปเจรจา ทำไมต้องทำร้ายลูกตนเองจนถึงตายด้วย