ถึงกับต้องตั้งโต๊ะแถลงเพื่อเคลียร์ให้ขาเมาท์รับทราบพร้อมๆกัน สำหรับประเด็นที่ชาวเน็ตพากันจับตาความสัมพันธ์ของนักแสดงกล้ามแน่น “อ้น-สราวุธ มาตรทอง” หลังหนุ่มปริศนาที่ใช้ไอจีชื่อ “Ohm_sirakitt” ออกมาโพสต์ภาพคู่กับเจ้าตัวถี่ๆ ทั้งในสถานที่เที่ยว ในบ้านหรือจะเป็นมุมที่ดูสนิทสนมกันมากๆ
ซึ่งวันนี้ 20 มกราคม 2564 ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า DEEP by Aon Sarawut “พี่อ้น” ก็ขอเปิดอกชี้แจงแบบชัดว่าๆ ผู้ชายคนนี้คือ “น้องโอม-ศิรกิตต์ ปัญญาเกิด” ซึ่งน้องชายคนสนิทของเจ้าตัวที่เลี้ยงดูกันมาตั้งแต่เด็ก มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ จนสามารถเรียกน้องคนนี้เป็นลูกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ไม่ใช้หนุ่มรู้ใจอย่างที่หลายคนคิดแน่นอน
พร้อมกันนี้ “พี่อ้น” ก็ยอมรับว่าก่อนหน้านี้มีคนเข้าใจผิดอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะฝั่งที่เข้ามาถามน้องชายถึงความสัมพันธ์กับตนเป็นอะไรกันแน่ ซึ่งบางทีก็ยากที่จะตอบให้ทุกคนเข้าใจ แต่สำหรับ “พี่อ้น” แล้วไม่ได้ซีเรียส เนื่องจากเชื่อว่าคนที่สนิทกับตนจะรู้ดี ไม่กังวลหากจะมีคนเข้าใจผิด เพราะรู้ตัวดีว่าตนเองทำอะไรกันอยู่ เลือกแคร์เฉพาะคนที่รักและเข้าใจตน
นอกจากนี้เจ้าตัวยังเล่าถึงชีวิตในวัย 44 ปีที่หลายคนต่างพากันใช้สรรพนามว่า “ลุงอ้น” แทนไปแล้วว่าไม่เคยแคร์เลย เพราะแม้อายุจะ 44 ปี แต่ยังคงฟิตและแข็งแรงสุดๆ เห็นได้ชัดจากภาพแซ่บๆในไอจี ที่ยิ่งดูก็ยิ้งซี๊ดไปตามๆกัน ซึ่งส่วนตัวแล้วมองว่าในเมื่อชีวิตเป็นของเรา หากทำอะไรแล้วมีความสุขก็ควรทำ
ส่วนกับคำแซวต่างๆถึงเรื่องฉาวในอดีตของตน ตัวเองก็ต้องยอมรับว่าตอนนั้นเครียดจนคิดฆ่าตัวตาย เพราะถือเป็นความผิดพลาดที่เกิดจากความไม่เข้าใจจริงๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็เลือกที่จะปล่อยให้มันเป็นเรื่องตลกมากกว่า ก่อนที่จะยืนยันว่าหลังจากนี้จะไม่รับงานแก้ผ้าอีกแล้ว เพราะหลายปีให้หลังมานี้เจ้าตัวเริ่มโฟกัสที่คุณภาพงานมากกว่าการขายรูปร่างเหมือนแต่ก่อนแล้ว เว้นแต่ว่างานชิ้นนั้นจะให้คุณค่าทางศิลปะและถูกสร้างสรรค์ด้วยช่างภาพมืออาชีพจริงๆ
หรือจะเป็นเรื่องที่มีคนส่งข้อความมาในเชิงคุกคาม ส่วนตัวก็ยอมรับว่าเซอร์ไพรส์มากกับการกระทำของคนสมัยนี้ แต่ก็มองเป็นเรื่องน่ารักๆไปอีกแบบ เพราะส่วนใหญ่จะตอบกลับเฉพาะคนที่คุยเรื่องงานหรือคนที่เข้ามาขอความช่วยเหลือ ถือว่าเป็นกำลังใจให้กันมากกว่า
ก่อนที่จะทิ้งท้ายเรื่องของการคิดสร้างครอบครัว เจ้าตัวก็เอ่ยปากบอกชัดเจนว่ามีคนที่คุยแล้วรู้สึกดีด้วยอยู่ แต่ตอนนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้น้อยมาก เพราะยังไม่คิดจะแต่งงาน เนื่องจากมองแล้วว่าตัวเองยังไม่พร้อมจะสร้างอนาคตกับใคร อีกอย่างก็มองว่าด้วยสถานการณ์ปัจจุบันทำให้โลกน่าอยู่น้อยลงนั่นเอง