"ทนายตั้ม ษิทรา" เตรียมลงพื้นที่ช่วย "ลุงพล" สู้คดีชมพู่ ชี้หลักฐานเครื่องจับเท็จไร้น้ำหนักในชั้นศาลฯ ลั่นต่อให้ต่อยนักข่าวก็ไม่ได้แปลว่าเป็นฆาตกร
จากกรณีเมื่อวานนี้ (20 ม.ค. 64) นายไชย์พล วิภา หรือ "ลุงพล" ลุงเขยของน้องชมพู่ ให้สัมภาษณ์เปิดใจผ่านรายการทุบโต๊ะข่าว ทางอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 ในหลายประเด็นร้อน โดยในช่วงหนึ่ง ลุงพล ระบุว่า หากถ้าหมายจับมาออกที่ตน ก็คงจะใช้สิทธิ์ต่อสู้ตามขั้นตอนและกระบวนการยุติธรรม เช่น การประกันตัวออกมาสู้คดี โดยตนเองได้ติดต่อไปที่ "ทนายตั้ม" หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เพราะเชื่อว่าทนายตั้ม มีความสามารถ และคงจะเข้ามาดูแลคดีน้องชมพู่ เพราะเป็นคดีใหญ่ ซึ่งการเปิดเผยของลุงพลสร้างความแปลกใจเพราะประเด็นนี้ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พรุ่งนี้รู้เรื่อง! ผลจับเท็จพยาน "คดีชมพู่" จ่อออกหมายจับผู้ต้องสงสัย 15 ก.พ.
- เปิดโปงคดีชมพู่! จอมขมังเวทย์จ้าง 10 ล้านหาเด็กตัดเหล็กไหล กูรูย้ำคนทำได้ต้องมีศีล (คลิป)
- เปิดเส้นทางลับชายปริศนาโยงอุ้มชมพู่ "พ่อแบม" ชี้มีไม่กี่คนที่แอบขึ้นได้ (คลิป)
- ผบ.ตร.ฝากถึงคนร้ายคดี "ชมพู่" นึกถึงบาปบุญ เหนื่อยจะหนีก็มาคุยกัน
- "ลุงพล" จำแม่นไทม์ไลน์วัน "ชมพู่" หาย ยันนอนหลับสบายดีเพราะไม่ใช่คนร้าย
ล่าสุดวันนี้ (21 ธ.ค. 64) "ทนายตั้ม- ษิทรา เบี้ยบังเกิด" โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ระบุว่า "สัปดาห์หน้าผมจะลงไปบ้านกกกอกนะครับ เนื่องจากลุงพลติดต่อมาหลายครั้ง ขอให้ผมลงไปช่วยคดีน้องชมพู่ เนื่องจากมีข่าวลือมาว่า ตำรวจอาจใช้เครื่องจับเท็จเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ในฐานะทนายผมยืนยันเลยนะครับ ว่าในศาล เครื่องจับเท็จไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีในการใช้เป็นหลักฐาน เนื่องจากมีความคลาดเคลื่อนเยอะ
ผมก็เหมือนกับทุกคน ที่อยากรู้ว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุทำให้น้องชมพู่เสียชีวิต อ่านตามหลักฐานนิติเวชก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าน้องจะหลงป่าจนเกิดความสูญเสีย ที่สำคัญถ้าไม่มีหลักฐานชัดเจน มีแต่ความระแวงสงสัย เราอาจกำลังสร้างเหยื่ออีกคนในการใส่ร้ายผู้อื่นว่าเป็นฆาตกร
หลักในการทำคดีของผมคือ ไม่มีใครสมควรได้รับโทษในความผิดที่ไม่ได้ทำ ผมรู้ว่าทุกคนเบื่อกับคดีนี้มาก แต่ผมไม่อาจปล่อยผ่านได้จริงๆ เดี๋ยวจะลงพื้นที่และตรวจสอบดู ค่อยตัดสินใจอีกครั้งว่าจะรับทำคดีหรือไม่อย่างไรครับ"
อย่างไรก็ตาม ทนายษิทธา ยังมองว่า นิสัยของลุงพลไม่เกี่ยวอะไรกับความจริงที่เกิดขึ้นในคดีนะครับ ต่อให้ลุงพลน็อตหลุดต่อยนักข่าว หรือมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ก็ไม่ได้แปลว่าเขาเป็นฆาตกร ความรัก ความชื่นชม ของแฟนคลับและแอนตี้ไม่มีผลอะไรกับคดีทั้งนั้น อยากให้แยกแยะตรงนี้กันก่อน ผมจะเชื่อว่าลุงพลทำ เมื่อเจ้าหน้าที่พบหลักฐานที่น่าเชื่อถือมาเอาผิดแกครับ