เป็นเรื่อง! เจอศพน้องกั้งจมบ่อ ญาติหวั่นถูกฆ่าเจอท่อนไม้ ชี้เด็กเดิน 1 กม.ไม่ได้ (คลิป)

จากกรณี ด.ช.กั้ง อายุ 2 ขวบ 6 เดือน หายจากบ้านพัก หมู่ 8 ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ช่วงเวลา 11.00 น. ของวันที่ 20 ม.ค. 64 หลังเดินตามยายทวดออกไปเก็บมะนาว จากนั้นคลาดสายตากับยายทวด 10 นาที พบว่าน้องหายไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ซ้ำรอยชมพู่! ค้นระทึก 2 ขวบหายปริศนาละสายตา 10 นาที ร่างทรงโผล่ชี้อยู่ใต้น้ำ

ล่าสุด วันที่ 21 ม.ค. 64 เวลา 11.30 น. ทีมกู้ภัยพบน้องกั้งแล้ว แต่อยู่ในสภาพจมน้ำเสียชีวิต ในบ่อน้ำห่างไปราว 1 กม. หลังจากหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ ได้นำกำลังรวมกับชาวบ้านกว่า 60 คน ระดมค้นหาตามบ้านญาติ และทุกจุดที่คาดว่าน้องกั้งจะหลงไป

ต่อมาได้มีการนิมนต์พระ 4 รูป ทำพิธีเปิดทางให้เจอน้องกั้ง พร้อมกับชี้ไปจุดที่น้องกั้งน่าจะอยู่ในสระน้ำ ทางทิศตะวันออก โดยพบตัวก่อนเที่ยงวัน ระหว่างทำพิธีพ่อและแม่น้องกั้งได้แต่ร่ำไห้เรียกชื่อลูกอยู่ตลอดเวลา

ส่วนสาเหตุที่น้องกั้งเดินไปไกลถึง 1 กม. คาดว่าน่าจะเดินตาม "เจ้าต้า" สุนัขเพศผู้ ซึ่งเป็นสุนัขข้างบ้านน้องกั้งที่มักจะเล่นด้วยกันเป็นประจำ จากการสอบถามกู้ภัยทราบว่าเห็นเจ้าต้าลุกลี้ลุกลน จึงบอกเจ้าต้าว่าให้พาไปหาน้องกั้ง

จากนั้นสุนัขวิ่งนำหน้าหน่วยกู้ภัยไปจนกระทั่งพบร่างดังกล่าว พร้อมกับท่อนไม้เปื้อนเลือดใกล้เคียง

ขณะที่ น.ส.จรรยา จีนบุตร แม่น้องกั้ง บอกว่า ตนเป็นห่วงลูกมาก เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ป้อนข้าวอาบน้ำให้ทุกวัน ตนทำใจไม่ได้ที่ลูกเสียชีวิต ซึ่งหลังจากลูกหายไป ทางครอบครัวก็ได้ทำทุกอย่างเพื่อตามหาลูก ส่วนที่พระบอกว่าน้องยังมีชีวิต แต่ถูกพญางูรัดเอาไว้ในน้ำ ตนก็เสียใจ แต่ตอนนี้หากน้องไม่มีชีวิตแล้วก็ขอให้เห็นศพน้อง

ทั้งนี้ แม้ยากที่จะทำใจก็ตาม ยังดีกว่าไม่รู้ว่าน้องอยู่ไหน ส่วนที่ว่าน้องจะถูกลักพาตัวไปนั้น ตนก็ไม่ทราบ แต่ไม่สงสัยญาติหรือคนใกล้ชิดแน่นอน แต่หากมีคนพาน้องไปจริงก็อยากวิงวอนว่าให้เอาน้องมาคืน เพราะตอนนี้พ่อแม่ห่วงน้องมาก

นายจรัญ แมลงทับ ตาทวดของผู้เสียชีวิต อายุ 82 ปี พื้นที่ด้านหน้าเป็นลานดิน สวนมะนาว และบ้านพักอยู่ด้านในสุด หากย้อนจุดที่ตาเห็นเหลนครั้งสุดท้าย จุดแรกคือต้นมะนาวที่ตายืนเก็บผลมะนาวกับยายทวด

นายจรัญ เปิดเผยว่า ตนเองมาเก็บมะนาวช่วง 10.00 น. หลานชายอยู่ในบ้านกับยายทวด ซึ่งแม่ผู้ตายพา ด.ช.กั้ง มาฝากไว้ช่วงเช้า เนื่องจากต้องไปทำงาน เมื่อตนเองเก็บมะนาวอยู่ระยะหนึ่ง ยายทวดเห็นว่าตนเก็บไม่เสร็จเสียที จึงเดินมาช่วย เมื่อเดินมาเก็บได้ราว 1 นาที ก็ได้ยินเสียงเหลนร้องเรียก "ยายทวด ๆ" ตนเองก็มองไปที่เหลน เห็นเดินเล่นในสวน จึงไม่ได้กังวลว่าจะเดินออกถนน

จากนั้น ตนเองก็เก็บมะนาวต่ออีกเพียง 1 ลูก ตนก็ยังเห็นเหลนหมุดสแลนสีดำที่กั้นพื้นที่สวนไว้ ตนตักน้ำไว้ที่ยางรถที่ดัดแปลงเป็นอ่างน้ำไว้ เข้าใจว่าเหลนคงไปเล่นที่จุดดังกล่าว ตนเองจึงจัดมะนาวอีกนิดหน่อยราว 4 นาที จึงเดินไปตามเหลนเพราะมองไปไม่เห็นเหลนแล้ว เมื่อตนเดินลอยสวนมะนาวไปห่างจากตนเพียง 20 เมตร ตนเดินเข้าไปหลังสแลนสีดำปรากฎไม่พบใครแล้ว ตนเองมองไปทั่วก็ไม่พบหลานงเดินต่อมาอีกราว 20 เมตร เป็นปลายสวนที่ติดกับสวนของยายเอาะ ซึ่งได้ยินเสียงหลานตนเดินคุยคนเดียว แต่ไม่ได้เห็นตัว พบว่ายังมีรอยปัสสาวะของหลานอยู่ ซึ่งเป็นรอยใหม่ ๆ ตนสอบถามยายเอาะก็บอกว่าไม่เห็นหลาน ได้ยินแต่เสียง ตนเองมองไปทางออกสวนตน ซึ่งจะมีช่องลอดออกไปที่ลานดินหน้าบ้าน เป็นส่วนที่ติดถนน ตนก็เดินตามออกมา ซึ่งก็ไม่พบหลานอีก

ตนเองหาอยู่ระยะหนึ่ง จึงเรียกชาวบ้านและกู้ภัยให้มาช่วยค้นหา ส่วนตัวไม่คาดคิดว่าเหลนจะเดินไปถึงจุดที่เป็นบ่อน้ำที่พบศพได้ เพราะต้องข้ามถนนไป อีกอย่างจุดนั้นก็ไม่เคยมีใครพาเหลนไป ส่วนเนื่องการตายตนเองก็ตอบไม่ได้ว่าเหลนไปได้อย่างไร

ขณะที่นางอุไร ประยงค์รัมย์ หรือ ยายเอาะ เจ้าของสวนข้างบ้านเด็ก เปิดเผยว่า ตนเองยอมรับว่าช่วงก่อนน้องกั้งหาย ตนเองอยู่ที่สวนจริง ตนไปทำงานที่สวนตั้งแต่ 06.00 น. จนช่วงเกิดเหตุ ตนเองนั่งกินข้าวในสวน ได้ยินเสียงผู้ตายอยู่หลังสวนตน เหมือนพูดคนเดียว ฟังใจความไม่ได้ พูดราว 5 นาที ก่อนเสียงเงียบไป จากนั้นไม่นานก็พบว่าตาทวดของเด็กก็เดินมาสอบถามตนว่าเห็นน้องกั้งหรือไม่ ซึ่งตนก็ระบุไปว่าได้ยินแค่เสียง แล้วเสียงก็เงียบไป

ทั้งนี้ ส่วนเด็กตนเองไม่เห็นว่าเดินผ่านหน้าสวนตนหรือไม่ ยอมรับว่าแปลกใจที่เด็กเดินไปถึงจึดที่พบศพได้ ตนมองว่ามันไกลเกินไป เด็กไม่น่ามีปัญญาเดินไปเอง ส่วนตัวไม่รู้เด็กเดินไปได้อย่างไร จะเดินไปเองตนก็มองว่าลำบาก เพราะทางที่ต้องเดินไปเป็นทุ่งนามีหลุมบ่อ เด็กเดินไปเองได้ยากมาก

ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านของเด็ก ศพเคลื่อนมาถึงที่บ้านช่วง 18.30 น. จากนั้นเริ่มมีการแต่งตัวให้กับศพ และมีแม่กับยายทวด ญาติ ๆ ดูอยู่อย่างใกล้ชิด บางคนถึงขั้นกลั้น้ำตาไม่อยู่ ร้องไห้ออกมาตลอดเวลา ยายทวด และแม่ไห้แทบขาดใจ สำหรับแม่เป็นการกอดร่างลูกชายครั้งสุดท้าย แม่น้องกั้งได้หอมเข้าที่หน้าผากน้องหลายครั้ง และกอดรัดน้องไว้แน่นก่อนจะส่งคืนกู้ภัยเพื่อบรรจุเข้าโลงเย็น

นอกจากนี้ มีคดีที่ผ่านมาลักษณะเด็กหายคล้ายกันก่อนพบเป็นศพ คดีของน้องซูลุยผิวอายุ 2 ปี ซึ่งหายไปในป่าที่มีคูน้ำจุดพบศพ ส่วนสูงของน้องซูลุยผิว 60 ซม. หนัก 7-8 กก. ลักษณะผอม เสียชีวิตห่างบ้านเพียง 840 เมตร ส่วนน้องกั้งวัย 2 ขวบ ส่วนสูง 79 ซม. หนัก 10 กก. ลักษณะผอมเช่นเดียวกัน ศพห่างจากบ้านกว่า 1 กม.