ถ้าพูดถึง "วงเฉลียง" หลายๆ คนจะร้องรู้จักและร้องเพลงตามได้อย่างแน่นอน ด้วยดนตรีที่มีความแตกต่าง มีเนื้อเพลงที่ไม่เหมือนใคร เน้นการให้ข้อคิด มีปรัชญาแฝงอยู่ในเนื้อหา เฉียบคม ผสมผสานดนตรีเบาๆ สไตล์สวิงแจ๊ส ทำให้ "เฉลียง" กลายเป็นวงดนตรีขวัญใจยุค 80 ซึ่งล่าสุดสมาชิกรุ่นบุกเบิกวงเฉลียง อย่าง "เจี๊ยบ วัชระ ปานเอี่ยม" ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เล่าย้อนไปถึงการรวมตัวของนิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนมีวงเฉลียง! พร้อมเปิดใจหลังโดนพิษโควิด-19 กลายเป็นคนตกงานร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีรายได้สักบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "กิ๊บซี่ วนิดา" เปิดความลับ "เกิร์ลลี่เบอร์รี่" อยู่ด้วยกันเป็น 10 ปี เต้นไม่เคยพร้อมกันสักครั้ง!
- "ฝน ธนสุนธร" ชีวิตรักแฮปปี้ คบสาวหล่อ "พี่เอ" แต่ไม่ขอจัดงานแต่ง!
- "มิว ศุภศิษฏ์" ไม่อยากเอาเปรียบแฟนคลับ คอยพัฒนาตัวเองตอบแทนความรัก
- "ตุ๊ก เดือนเต็ม" เผยเหตุผลที่ครองโสด ไม่เปิดใจทั้งๆ ที่มีคนจีบเยอะ!
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม วงเฉลียง ตอนนั้นคือมีเพลงที่แตกต่างจากวงอื่นๆ โดยสิ้นเชิง
เจี๊ยบ : เพราะว่าไม่ใช่เป็นนักร้องอาชีพ ทุกคนทำงาน เรียนสถาปัตยกรรม แล้วทำดนตรีด้วย เราไม่รู้เรื่องห้องอัด ก็ไปปรึกษาพี่เต๋อ เลยได้ออกเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ตอนนั้นที่ทำเพลงกันออกมาคือเรียนอยู่ปี 5 พอดี มี จิก ประภาส เขาเป็นคนแต่งเพลง ดี้ นิติพงษ์ แต่งเพลง แล้วก็ตัวเราเอง แล้วก็มีพี่เล็ก สมชายมาร่วมด้วย ชุดแรกร้องอยู่สองคน ไม่มีวงดนตรี ไม่มีอะไร ก็ไม่ประสบความสำเร็จด้านการขาย เพราะแม้แต่คนในวงเองยังพูดเลยว่ามันคือเพลงอะไร ไม่ต้องทำอีกแล้วนะ เพลงแบบนี้ แต่ตอนนั้นก็ใช้ชื่อวงเฉลียงมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว หน้าปกก็เป็นรูปวาด เป็นรูปเฉลียง หน้าคนร้องก็ไม่มี ไม่รู้เลย แต่พอออกมา เพลงดันติดอันดับคู่กับพี่เบิร์ดเลย ตอนนั้นพี่เบิร์ดเพลงติดอับดับ 1 ส่วนของเรามาอันดับสอง แล้วก็ลงมาเรื่อยๆ (หัวเราะ) แล้วหลังจากนั้น 4 ปี เราถึงกลับมาทำอีกครั้งด้วยคุณศุ บุญเลี้ยง เราก็ไม่ได้จะตั้งใจเป็นนักร้องอะไรกันเลย เพราะตอนนั้นเป็นพิธีกร มีอาชีพกันอยู่แล้ว แต่พอศุมาถามว่าพี่เอาอีกไหม เราก็ได้ เราก็ทำเพลงกัน และย้ายไปอยู่อีกค่ายที่ตอนนี้ไม่มีแล้ว คือค่ายครีเอเทีย ในค่ายนี้ก็มีนักร้องดังเยอะนะครับ พี่ปั่น พี่อุ้ย ในยุคนั้น เราก็ประสบความสำเร็จ ตอนนั้นวงก็มี 5 คนแล้ว
ถาม ซึ่งสไตล์การเป็นศิลปินของพี่เจี๊ยบแตกต่างจากคนอื่นมาก มีฉายาว่าปากหมาด่าทุกคน
เจี๊ยบ : มันไม่ได้ด่าหรอกนะ แต่ว่าพอเราขึ้นเวทีไป ผู้ชมเขาก็จะปรบมือให้เรา เป็นการต้อนรับ แต่ก็น่าจะมีลิมิต ไม่ใช่กรี๊ด ปรบมือตลอดเวลาจนเราไม่มีจังหวะจะพูดหรือแนะนำตัว เราเลยแซวเขาแบบขำๆ ไป เพื่อให้ได้หยุด เราจะได้พูด เพราะเราเป็นคนชอบแซวแซวทุกคนในวง นักดนตรี จนเราไม่รู้ว่าจะแซวใครแล้ว เราเลยไปแซวแฟนๆ
ถาม สิ่งหนึ่งที่ทำให้เฉลียงยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ แล้วยังมีความเท่อยู่ก็คือไม่ได้เป็นเพลงรักธรรมดา แต่ในเพลงมีข้อคิดแฝงอยู่เยอะมาก
เจี๊ยบ : คิดทีหลังมากกว่า จริงๆ ทุกเพลงเกิดจากความสุขของพวกเราก่อน สนุกที่จะทำและสื่อสาร อย่างเพลง กล้วยไข่ คือเพลงกล่อมลูกตามต่างจังหวัด
ถาม แต่เพลงของวงเฉลียงเหมือนเป็นเพลงอินดี้ของสมัยนั้น
เจี๊ยบ : ใช่ครับ ประมาณนั้น แต่ดนตรีเป็นแนวที่เก่ามาก เป็นอเมริกันยุค 50 ปีที่แล้ว เป็นสวิงแจ๊ส
ถาม พี่เจี๊ยบนับว่าเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่ผ่านงานเบื้องหน้าเบื้องหลังมาเยอะ แต่ทำไมตอนนี้ถึงบอกว่าตัวเองเป็นคนที่ตกงานร้อยเปอร์เซ็นต์
เจี๊ยบ : เราไปยึดอาชีพนักแสดง นักดนตรี ถ้าเราไม่มีคอนเสิร์ตใหญ่ เราก็จะไปเล่นเล็กๆ ตามร้านอาหารหรือร้านกาแฟ สวนเปิดๆ ไปนั่งกินลมชมดาว แต่พอโควิดมาตั้งแต่ปีที่แล้ว รายได้ที่เราเคยได้รับคือศูนย์บาท นั่งนิ่งๆ อยู่กับบ้าน ซ้อมดนตรี ก็คือตกงาน 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนงานแสดงคือเรารับจ้าง ไม่เสร็จ ไม่ได้ปิดกล้อง เงินไม่ออก
ถาม ตอนนี้โควิดก็ยังคงอยู่ พี่ประคองตัวยังไงที่เป็นคนตกงานร้อยเปอร์เซ็นต์
เจี๊ยบ : เราก็จะมีเงินบางก้อน เงินที่เหลืออยู่บ้าง เราก็รัดเข็มขัดกันสุดๆ โชคดีที่ลูกชายทำงานแล้ว แต่ก็ยังมีลูกสาวอีกคนที่ยังเรียนไม่จบ ตอนนี้เรียนปีสุดท้าย ส่วนคุณแม่ก็บอกท่านว่าเก็บค่าเช่าสวนไปก่อนนะ ช่วงนี้ลูกไม่ได้เลี้ยงนะ (หัวเราะ) แม่ก็เข้าใจ ส่วนภรรยาเขาก็สนุกสนานกับงาน DIY เย็บหน้ากากอนามัย ทำขนม ขายออนไลน์
ถาม พี่เจี๊ยบเป็นคนที่สอนลูกทั้งสองคนเลยนะว่าไม่อยากให้มีอาชีพเป็นเหมือนพ่อ เพราะเป็นอาชีพที่หิวคือยังไง
เจี๊ยบ : ที่บอกว่าหิว เพราะเราทำอาชีพนี้มา เราบอกได้เลยว่าเราไม่สามารถเป็นอาชีพที่อิสระ ตั้งว่าฉันจะทำอันนี้ ตรงนี้ จัดคอนเสิร์ตแล้วมาดูฉัน มันต้องมีผู้จัด ผู้จ้าง ถ้าไม่มีคนจัด เราก็หิว ตอนที่ลูกจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ลูกชายเขาก็อยากเล่นดนตรี อยากเรียนดนตรี ผมก็รู้จักเพื่อนๆ น้องๆ ที่ทำอยู่ในวงการดนตรี แล้วก็เป็นมืออาชีพ เราก็เชิญเขามาที่บ้าน โอ๋ ซีเปียก็มาเลย มาเล่าให้ฟังว่าเล่นกีตาร์ได้เงินชั่วโมงละ 500 บาทนะ แต่ลูกชายเขาก็เดินทางสายดนตรีครับ แต่เขาไปเรียนดนตรีเชิงพาณิชย์ เอาดนตรีไปสร้างเงิน
ถาม พี่เจี๊ยบมีตั้งโปรเจกต์ว่าจะทำไลฟ์สด
เจี๊ยบ : น้องๆ ในวงที่เล่นกับเราก็บอกให้เราทำเถอะ เพราะเวลาที่มีช่องของตัวเอง มีคอนเทนท์ก็มีคนดูในกลุ่มที่เป็นของเรานะ ก็น่าสนใจ แต่อีกมุมที่เราอยากทำคืออายุขนาดนี้แล้ว มันผ่านโลกมาหลายมุม เราก็น่าจะพอแนะนำ อธิบายอะไรได้ ก็อยากเล่าเรื่องบันทึกเสียงให้ฟัง เพราะเราสัมผัสมาด้วยตัวเอง เล่าเรื่องเขาถ่ายหนังยังไงสมัยก่อน กำกับยังไง แสดงยังไง ตัดต่อยังไง สามารถติดตามสิ่งที่ผมอยากทำได้ทางเฟสบุ๊ค JEAB เฉลียง