"ดีเจมะตูม" เผยอาการล่าสุด รับรู้สึกแย่ถูกมองเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์วงการบันเทิง ลั่นไม่ได้กลัวการเป็นโควิด แต่กลัวการเป็นจำเลยสังคม

ภายหลังจากที่ "ดีเจมะตูม - เตชินท์ พลอยเพชร" ประกาศผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวยอมรับติดเชื้อโควิด COVID-19 และต่อมาได้เข้ารักการรักษาตัวเป็นที่เรียบร้อย โดยวันนี้ 22 มกราคม ดีเจ "มะตูม" เปิดใจผ่านรายการคุยแซ่บโชว์ อัพเดตอาการหลังเข้ารับการรักษาโควิด-19 เข้าสู่วันที่ 3 ว่า เมื่อเช้าตื่นมามีอาการเจ็บหน้าอกนิดหน่อยเมื่อหายใจเข้าไปลึกๆ ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะนอนผิดท่า และไม่มีไข้ ไอ หรือแทรกซ้อนใดๆ แล้ว ส่วนจมูกกับลิ้นยังคงรับรส และกลิ่นได้ตามปกติ ซึ่งวานนี้ (21 ม.ค.) ได้ทำการเอ็กซเรย์ปอดแล้ว ผลเป็นที่น่าพอใจคือ ไม่พบเชื้อ ไม่มีจุดด่างที่ปอด

เมื่อถามว่า ก่อนที่จะทราบผลว่าเป็นโควิดมีอาการบ่งชี้ไหม มะตูม บอกว่า
เคสของตูมถือว่าพิศวง เพราะอาการต่างๆ ไม่ออกเลย มีเพียงเสมหะนิดหน่อย ซึ่งตูมเป็นคนแพ้อากาศอยู่แล้ว อาการที่ควรจะเป็นเมื่อรับเชื้อไม่มีเลยแต่ผลกลับออกมาเป็นบวก อย่างเพื่อนที่เป็นโควิดก่อนหน้า เขาจะไม่ได้กลิ่นน้ำหอม

ซึ่งแนวทางการรักษา มะตูม บอกว่า คุณหมอให้รอดูอาการ 14 วัน ก็ยังต้องเฝ้าระวังกันไปก่อน เพราะยังมีเชื้ออยู่ในร่างการสามารถแพร่ระบาด ห้ามสัมผัสผู้อื่น หากครบ 14 วันแล้ว ก็ต้องอยู่ต่ออีก 10 วัน ต่อให้ไม่มีไข้ก็ต้องตรวจหาเชื้ออีกครั้ง ซึ่งวานนี้ไปเจาะเลือดมา ต้องกักตัวจนกว่าจะเป็นลบ

ส่วนคุณแม่ มะตูม บอกว่า ตอนนี้กักตัวอยู่แม้ว่าผลจะเป็นลบ ก็ต้องกักตัวให้ครบ 14 วัน ซึ่งวันเสาร์นี้ (23 ม.ค.) คุณแม่ก็ต้องไปตรวจอีกครั้ง ถามว่าวันนั้นตูมใกล้ชิดคุณแม่มากไหม ตอบเลยว่ามาก แต่ไม่เท่ากับเพื่อนที่มีเชื้อ คนนั้นเรามีการโอบกอดหอมแก้ม แต่กับคุณแม่แค่ถ่ายรูป ซึ่งวันที่เพื่อนมาบอกว่าติดโควิดเราห่วงคุณแม่มากกว่าตัวเราเองอีก

เมื่อถามว่า ได้เห็นคลิปที่คุณพ่อส่งมาให้ไหม มะตูม บอกว่า ได้เห็นครับ มันก็ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจที่ทำให้ใครหลายๆ คนเป็นห่วง มีคนได้รับผลกระทบจากเรา ตูมรู้สึกสำนึกผิดในความละลวมของตัวเอง ไม่ได้อยากให้เกิดขึ้นเลย แม้ว่าที่ผ่านมาตูมจะบอกว่า ตูมไม่ได้กลัวการเป็นโควิดนะ เพราะการได้รับเชื้อไม่ได้น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือ เป็นแล้วแพร่ให้กับคนอื่นๆ ทั้งที่ตัวเองไม่รู้ตัว

เมื่อถามว่า มะตูมคือซูเปอร์สเปรดเดอร์ให้คนในวงการบันเทิง มะตูม บอกว่า ตูมไม่ได้เป็นคนแรกที่ติด แค่เป็นคนในวงการคนแรกของปีนี้ ก็โชคดีที่มาตรวจแล้วเจอ หากถามว่า จะไปตรวจทำไมทั้งที่ไม่มีอาการบ่งชี้ ก็เพราะคนใกล้ชิดตูมไปตรวจแล้วเจอจึงต้องไปตรวจ เพราะตูมมีความเสี่ยง ที่บอกว่าเราเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ ก็รู้สึกแย่ไม่ได้มีใครอยากเป็น ตูมไม่ได้กลัวการเป็นโควิด แต่กลัวการเป็นจำเลยสังคม อย่างไรก็ดี ถ้าภายใน 2 อาทิตย์นี้ มีคนติดเชื้อมากขึ้นจากงานที่ตูมออกไปทำ ก็ขอโทษอย่างไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ส่วนใครที่สัมผัสตูมโดยตรง พวกคุณมีความเสี่ยงสูง ควรไปตรวจ ส่วนคนที่แค่อยู่ในพื้นที่เดียวกับตูม คุณมีความเสี่ยงต่ำ เฝ้าดูอาการตัวเองก่อน

ส่วนกรณีที่มีชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมใบเฟิร์น พัสกร พลบูรณ์ ถึงไม่กักตัวเองทั้งที่มีภาพอยู่ในงานวันเกิดนั้น มะตูม กล่าวว่า กับใบเฟิร์น เจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ส่วนในวันเกิดมะตูมนั้น ใบเฟิร์นแค่ส่งเค้กมาอวยพรเท่านั้น เจ้าตัวไม่ได้มา จึงอาจทำให้ใครหลายคนเข้าใจผิด.