กรณีวันที่ 17 ม.ค. 2564 นายทรงวุฒิ แปงเรือน อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 397 หมู่ 7 ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ว่าเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 64 ที่ผ่านมา บุตรชายของตนเองมีชื่อว่า ด.ช.ธนโชต หรือ น้องบ๊อบบี้ อายุ 7 ขวบ ได้หายออกไปจากบ้าน กระทั่งเจอน้องบ๊อบบี้กลายเป็นศพในดงกล้วยนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ส่อวุ่น! เด็ก 7 ขวบตายในดงกล้วย ตำรวจยึดรองเท้าบูทเทียบรอยบนดิน เจ้าของโต้ไม่ฆ่า
- ระทึกล่าฆาตกรฆ่าเด็ก 7 ขวบ เจอความจริงถูกชายแก่ไล่ ก่อนเป็นศพในดงกล้วย
ล่าสุด วันที่ 22 ม.ค. 64 เวลาประมาณ 09.00 น. พล.ต.อ. สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้ลงพื้นที่มายังจุดพบศพ โดยเดินทางมาที่เถียงนาของพ่อหลวงเกตุเป็นจุดแรก และได้ขอดูกองฟืนที่ใต้เถียงนา
จากนั้น รอง ผบ.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้เดินต่อไปยังจุดพบศพที่บริเวณกอกล้วย ซึ่งอยู่ห่างจากเถียงนาพ่อหลวงเกตุประมาณ 150 เมตร ซึ่งในระหว่างที่ตรวจพื้นที่จุดพบศพ ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงเชียงรุ้ง ว่าพบหลักฐานอะไรข้างศพบ้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงเชียงรุ้งได้ให้ข้อมูลว่า พบจอบ ไม้ฟืนหัก 1 ท่อน และพบเศษพลาสติก 2 ชิ้น สีแดงและสีน้ำเงิน ใกล้รองเท้า ส่วนของเด็กเล่นไม่พบในที่พบศพ แต่สามารถตรวจยึดได้ที่บ้านของอาเด็ก จากนั้น รองผบ.ตร.ได้ใช้เวลาประชุมกับชุดสืบสวนในที่เกิดเหตุประมาณ 10 นาที
ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้ร่วมประชุมเพื่อคลี่คลายคดีน้องบ๊อบบี้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย โดยในการประชุมครั้งนี้มีนายสุพล เกษตรโสภาพันธ์ และนางเยีย เกษตรโสภาพันธ์ พี่ชายและแม่ของนายสินชัย ผู้ต้องสงสัย รอง ผบ.ตร. ได้ซักถามแม่และพี่ชายของผู้ต้องสงสัยด้วยตัวเองประมาณ 1 ชั่วโมง
หลังประชุมคลี่คลายคดีเสร็จ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ตนเองได้ประชุมคลี่คลายคดีพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงเชียงรุ้ง โดยมีนายเยีย นายสุพล ซึ่งเป็นพยานบ้านอยู่ใกล้บ้านน้องบ๊อบบี้ โดยพยานทั้ง 2 รายนี้ ยังไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา หรือผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด
วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานพอสมควรแล้วที่จะรู้ตัวผู้ต้องสงสัย จากการสอบปากคำพยานทั้ง 2 คน ก็มีข้อมูลบางอย่างที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และวันนี้เจ้าน่าที่น่าจะสามารถออกหมายจับได้ จะสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสัยในสัปดาห์นี้ได้หรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายก็ทำงานกันอย่างเต็มที่ และจะดำเนินการให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ ยืนยันว่าตำรวจพอจะรู้ตัวผู้กระทำผิด แต่ยังตอบไม่ได้ว่าผู้กระทำความผิดนั้นมีกี่คน ซึ่งอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ทำงาน และเจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่ามีหลักฐานที่สามารถควบคุมตัวคนร้ายได้ จากการรวบรวมพยานหลักฐาน เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุ ต้องรอการสอบสวนอีกครั้ง และคิดว่าคดีน้องบ๊อบบี้จะสามารถปิดคดีได้
ส่วนหลักฐานทางนิติวิทยาศาตร์ ได้ออกมาเบื้องต้นแล้ว แต่ยังไม่เป็นทางการ สาเหตุการตายน้องบ๊อบบี้ ผลชันสูตรเบื้องต้นระบุว่า เสียชีวิตจากตับแตก โดยการถูกทำร้ายจากของแข็ง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของแข็งชนิดใด ต้องดูหลักฐานอื่น ๆ ประกอบ ซึ่งเบื้องต้นคนร้ายได้หลบหนีออกจากพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. 64 ที่ผ่านมา อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี
นายสุพล พี่ชายของผู้ต้องสงสัย เปิดเผยว่า วันที่ 16 ม.ค. 64 นายสินชัย น้องชายตนเองอยู่บ้านตามปกติ อยู่ห่างจากบ้านน้องบ๊อบบี้ประมาณ 40 เมตร ซึ่งช่วงเวลา 17.00-18.00 น. น้องชายตนก็ยังอยู่บ้าน ขอยืนยันว่าตนเห็นน้องชายอยู่ในสายตาตลอด ส่วนตัวแล้วตนเองไม่เชื่อว่านายสินชัย น้องชายตนจะไปก่อเหตุทำร้ายน้องบ๊อบบี้จนเสียชีวิต
สำหรับสิ่งที่ตำรวจสงสัยและพุ่งเป้าไปที่นายสินชัย น้องชายตน เพราะว่าตอนนี้น้องชายตนไม่กลับเข้าบ้าน ซึ่งนายสินชัย ตำรวจได้เชิญตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เวียงเชียงรุ้ง ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ของวันที่ 18 ม.ค. 564 ที่ผ่านมา หลังเจอศพน้องบ๊อบบี้ 1 วัน แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบปากคำนายสินชัยได้ปล่อยตัวน้องชายตนกลับ โดยมีเพื่อนที่รู้จักกันคนหนึ่งมารับ จนถึงขณะนี้น้องชายตนก็ยังกลับไม่ถึงบ้าน ตนไม่รู้ว่าน้องชายตนไปอยู่ที่ไหน เพราะติดต่อน้องชายไม่ได้ โทรศัพท์น้องชายก็อยู่ที่บ้าน
ทั้งนี้ ตอนที่น้องบ๊อบบี้หายตัวไป นายสินชัยก็ได้ออกไปตามหาน้องบ๊อบบี้พร้อมกับตน เดินหาตามหมู่บ้านพร้อมกับชาวบ้าน และตนก็เชื่อว่าที่ตำรวจสงสัยน้องชาย มาจากการที่น้องชายตนไม่กลับบ้านเท่านั้น
สำหรับครอบครัวของนายสินชัย ผู้ต้องสงสัยอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 คน คือนางเยีย แม่, นายสุพล พี่ชาย, นายสินชัย ผู้ต้องสงสัย, นายบอส (นามสมมติ) น้องชายของนายสินชัย
นางแวว (นามสมมติ) ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุ 16.00-17.00 น. ตนเองอยู่บ้านกับลูก ๆ อีก 3 คน สำหรับช่วงเวลาดังกล่าวตนไม่เจอน้องบ๊อบบี้เดินผ่านมาทางบ้านตน ซึ่งติดกับทุ่งนาหลังบ้าน เนื่องจากตนทำธุระอยู่หลังบ้าน และตนก็ไม่ได้ยินเสียงความผิดปกติแต่อย่างใด
สำหรับน้องบ๊อบบี้ถ้าเขามาบ้านตน จะมากับพี่สาวของเขา ซึ่งเขาก็ได้มาเล่นกับลูกสาวตน หรือบางครั้งเขาก็ข้ามฝั่งไปเล่นกับเพื่อน ๆ ที่อยู่ถัดจากบ้านตนไป ตนยืนยันว่าตนไม่เคยน้องเห็นบ๊อบบี้เดินไปเล่นทุ่งนาคนเดียวมาก่อน ส่วนครอบครัวของน้องบ๊อบบี้ ที่ผ่านมาตนเองก็ไม่เคยเห็นเขามีปัญหากับใคร ตนไม่เห็นเหตุการณ์ ตนจึงระบุไม่ได้ว่าน้องบ๊อบบี้เดินออกจากบ้านไปเองหรือมีคนร้ายมาอุ้มถึงในบ้าน
ด้านนายทรงวุฒิ แปงเรือน พ่อของน้องบ๊อบบี้ เปิดเผยว่า วันนี้ทาง รอง ผบ.ตร. มาติดตามคดีลูกชายตน ทำให้คดีมีความคืบหน้าขึ้นมา ตนก็รู้สึกดีใจ กรณีที่ตำรวจให้ข้อมูลว่ามีชาวบ้านในหมู่บ้านตนคนหนึ่งหายตัวไปหลังสอบปากคำ ตนก็พอทราบอยู่ แต่ตนก็ไม่รู้จะคิดเห็นอย่างไร คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนตัวแล้วตนไม่เคยรู้จักชายต้องสงสัยรายนี้เป็นการส่วนตัว ไม่เคยพูดคุยกับเขา แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมา น้องบ๊อบบี้เคยไปเล่นแถวบ้านนายสินชัย เนื่องจากเป็นละแวกบ้านตน
การหายตัวไปของผู้ต้องสงสัยรายนี้ ตนคิดว่าถ้าเขาไม่ผิดเขาก็ไม่ควรหนี การหนีของใครก็ตาม ทำให้ตนคิดมาก ส่วนประวัติของผู้ต้องสงสัยรายนี้ ที่เคยทำร้ายเด็กมาก่อนนั้น ตนก็เพิ่งทราบและรู้สึกตกใจ ตนยืนยันคำเดิมว่าถ้ายังจับคนร้ายไม่ได้ ก็จะไม่ฝังศพลูกชาย