จากกรณีเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 64 พ.ต.อ.อนันต์ อุตรศาสตร์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเวียงเก่า เข้าตรวจสอบภายในบ้านเลขที่ 76 หมู่ 10 บ้านโคกสูง อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น หลังได้รับแจ้งว่าพบกลิ่นเหม็นคล้ายศพภายในส้วม
จากนั้น หน่วยกู้ชีพได้ทำการเปิดถังส้วมออกมา พบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายมีเดช ผลเจริญ อายุ 63 ปี ซึ่งผู้ก่อเหตุฆาตกรรมในครั้งนี้คือนายวีระพล ผลเจริญ อายุ 50 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต
ล่าสุด วันที่ 22 ม.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบว่าเป็นบ้านไม้ยกพื้น สภาพผุผัง พื้นที่บ้านประมาณ 100 ตารางวา ส่วนบ่อเกรอะที่ฝังผู้ตายอยู่หลังห้องน้ำ ตรงข้ามบ้าน ห่างออกมาประมาณ 10 เมตร ยังคงส่งกลิ่นเหม็นและมีแมลงวันบินอยู่เต็มหลุม
โดยนายวีระพล ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุจริง ลงมือในช่วงเวลา 03.00 น. ของวันที่ 13 ม.ค. 64 ขณะที่ผู้เสียชีวิตลงจากบ้านไปเข้าห้องน้ำ
โดยอาศัยจังหวะในช่วงที่ผู้เสียชีวิตยืนปัสสาวะอยู่ ก็ใช้ท่อนไม้ตีที่ท้ายทอย 2 ครั้ง จนล้มลงขาดใจ จากนั้นก็ลากร่างไปทิ้งบ่อเกรอะ และขุดดินฝัง
จากนั้น รุ่งเช้าก็ไปขอปูนขอทรายจากญาติมาทำการฝังศพ ปิดปากบ่อเกรอะเพื่อซ่อนเร้นอำพราง และอาศัยอยู่ในบ้านตามปกติ กระทั่งถูกตำรวจจับกุมตัว ส่วนสาเหตุนั้นสารภาพว่าน้อยใจพี่ชายที่ไม่ดูแล ตนติดคุกคดีเกี่ยวการใช้อาวุธปืนออกไปล่าสัตว์ก็ไม่เคยไปเยี่ยม จึงลงมือก่อเหตุ เพราะไม่อยากเห็นหน้า และไม่อยากอยู่ร่วมกันอีกต่อไป
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวไปยังบ้านที่เกิดเเหตุ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ชี้จุดเกิดเหตุบริเวณที่ก่อให้ในห้องน้ำ และจุดที่มีการลากร่างผู้เสียชีวิตมาที่บ่อเกรอะ เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้แจ้ง 2 ข้อกล่าวหาหนัก คือฆ่าคนตายโดยเจตนา และทำลายและซ่อนเร้นศพ
นางบังอร เจริญผล อายุ 60 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต และพี่สาวของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้นายมีเดช ได้หายตัวไปจากบ้านในวันที่ 13 ม.ค. 64 ซึ่งญาติก็คิดสงสัยและได้สอบถามนายวีระพล แต่เจ้าตัวอ้างว่าได้นำตัวนายมีเดชไปส่งที่ท่ารถ เพราะนายมีเดชจะเดินทางไป อ.หนองเรือ เพื่อเยี่ยมพ่อ แต่ตนก็ไม่ได้เชื่อคำของน้องชายทั้งหมด เพราะเห็นมอเตอร์ไซค์ของพี่ชายยังจอดอยู่ที่บ้าน และคิดแล้วว่าต้องเกิดอะไรกับพี่ชายแน่นอน
ตนและลูกสาวจึงได้ออกตามหาไปตามสถานที่ต่าง ๆ แต่ก็ไม่เจอตัว จึงได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความในวันที่ 19 ม.ค. 64 ตำรวจจึงได้เชิญนายวีระพลซึ่งอยู่บ้านหลังเดียวกันกับพี่ชายไปสอบปากคำ นายวีระพลทนความกดดันไม่ไหว จึงรับสารภาพว่าลงมือพี่ชายด้วยเหล็กปล้องอ้อย ในช่วงตี 3 ของวันที่ 13 ม.ค. 64 หลังจากนั้นก็เอาพี่ชายไปใส่ไว้ในบ่อเกรอะข้างห้องน้ำ และได้โบกปูนทับในตอนเช้า
ก่อนหน้านี้ตนเคยมีลางสังหรณ์ คือช่วงที่ตนออกไปทำงานตัดอ้อยกับนายมีเดช ตนได้กลิ่นธูปลอยมาตามลมหลายครั้ง ซึ่งตามความเชื่อนั้นเชื่อว่าจะต้องสูญเสียคนในครอบครัวในปีนี้ และตนก็ยังนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับนายมีเดช แต่ก็ไม่คิดว่าเป็นนายมีเดชจะต้องตาย สำหรับนายวีระพลนั้นเป็นคนขี้โมโห ไม่ค่อยพูด จิตใจโหดเหี้ยม ตนยืนยันว่าญาติพี่น้องจะไม่ประกันตัวน้องชายคนนี้แน่นอน เพราะญาติต่างรับไม่ได้กับการกระทำของเขา และจะปล่อยให้ไปตามกระบวนการ ไม่อยากให้เขากลับมาในพื้นที่อีก