กรณีพนักงานสอบสวน สภ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี ได้รับแจ้งเหตุคนจมน้ำสูญหายภายในเขื่อนแม่ประจันต์ หมู่ 6 บ้านพุไทร ต.หนองหญ้าปล้อง อ.หนองหญ้าปล้อง
ทราบชื่อผู้สูญหายทั้ง 2 ราย คือ จ.ส.ต.มนตรี เย็นใจ อายุ 29 ปี เป็นทหารสังกัด กองพัน 52 ช.1 รอ. จ.ราชบุรี และส.ต.อ.สมบัติ บัวงาม อายุ 29 ปี เป็นตำรวจสังกัดกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรยะลา
นอกจากนี้ยังพบรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโว่ ตอนครึ่ง สีดำ ทะเบียน บบ 1328 เพชรบุรี ของผู้สูญหายจอดอยู่ในบริเวณริมฝั่ง ซึ่งวานนี้ (21 ม.ค.64) ช่วงค่ำ พบรองเท้าแตะ 1 ข้าง ซึ่งเป็นของจ.ส.ต.มนตรี และหมวกของ ส.ต.อ.สมบัติ ตามที่นำเสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุดวันที่ 22 ม.ค.64 เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน จ.เพชรบุรี กว่า 40 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจพลร่วมค่ายนเรศวรจำนวน 10 คน แบ่งกำลังค้นหา ทั้งผิวน้ำซึ่งใช้เรือท้องแบน จำนวน 2 ลำ ขับวนโดยรอบให้น้ำเป็นคลื่น รวมถึงขับเจ็ตสกีวนรอบจุดที่เป็นกิ่งไม้ หากว่าร่างติดอยู่บริเวณดังกล่าวจะได้ลอยขึ้นมา
ส่วนใต้น้ำใช้วิธีการดำน้ำวนรอบจุดที่เจอเรือ ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยแบ่งกำลังครั้งละ 8 คน แบบเรียงต่อกันวนรอบหมุด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพลร่วมค่ายนเรศวร ลงดำครั้งละ 2 คนเป็นคู่บัดดี้ สแกนในรัศมี 50 เมตรจากจุดพบเรือ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จำนวน 8 นายใช้เรือท้องแบนสแกนรอบเขื่อนรัศมี 3 กิโลเมตร
ในเวลา 13.30 น. พบไม้พายเรือของผู้สูญหายจมอยู่ในน้ำ ห่างจากจุดพบเรือประมาณ 10 เมตร หลังจากนั้นพบรองเท้าแตะ 1 ข้างของ จ.ส.ต.มนตรี และรองเท้าแตะ 1 คู่ของส.ต.อ.สมบัติ อยู่บริเวณริมสันเขื่อน ห่างจุดพบเรือประมาณ 1 กิโลเมตร
กระทั่งเวลา 13.45 น. นางยุพิน เย็นใจ แม่จ.ส.ต.มนตรี เย็นใจ หรือ แต และนางสีดา บัวงาม แม่ของส.ต.อ.สมบัติ หรือ เอ็ม ได้ทำพิธีเซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ นำอาหารคาวหวานวางริ่มตลิ่ง พร้อมจุดธูป 39 ดอก และอธิษฐานให้เจอลูกชายทั้ง 2 คนโดยเร็ว โดยมีหญิงใส่ชุดขาวห่มขาวมากำกับการประกอบพิธีในครั้งนี้
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายดิศกร บัวงาม อายุ 33 ปี พี่ชาย ส.ต.อ.สมบัติ หรือเอ็ม กล่าวว่า ตอนนี้เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นอุบัติเหตุ เป็นไปได้ว่าช่วงที่น้องชายกับเพื่อนช่วยกันเทเหยื่อปลา ซึ่งใส่กระสอบปุ๋ยลงน้ำ เรืออาจจะเอียงจนพลิกคว่ำ แล้วเชือกอาจจะพันขาหรือน้องเกิดเป็นตะคริว ทำให้ไม่สามารถขึ้นมาจากน้ำได้ เพราะหากไม่มีสิ่งกีดขวาง น้องชายน่าจะสามารถดีดตัวขึ้นมาจากน้ำได้อย่างแน่นอน เพราะฝึกประดาน้ำเป็นประจำ ล่าสุดทราบว่าเพิ่งฝึกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ต้องช่วยเหลือตัวเองได้
นอกจากนี้ ก็ยังมีหวังว่าน้องชายอาจจะยังมีชีวิตรอด แต่เปอร์เซ็นต์น้อยมาก เพราะยังไม่พบร่าง โดยน้องชายกับนายแต เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนประถม เป็นเพื่อนที่รักกัน ไม่เคยมีปัญหาความขัดแย้ง เชื่อว่าช่วงที่จมลงไปต่างคนต่างช่วยกัน เพราะน้องชายไม่มีทางทิ้งเพื่อนแน่นอน
นอกจากนี้ จุดที่เจอรองเท้าของน้องชายในวันนี้ ห่างจากจุดพบเรือเกือบ 1 กิโลเมตร ตนก็ตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่น้องลอยไปติดที่บริเวณดังกล่าว แต่จากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ผู้มีความเชี่ยวชาญ ระบุว่า ปกติร่างมนุษย์จะลอยไปไม่ไกลจากจุดที่พบเรือ ตอนนี้จึงปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทำงานตามแผนไปก่อน
ส่วนที่มีคนเข้ามาช่วยทำพิธีกรรม คิดว่าทำเพื่อความสบายใจ เพราะที่ผ่านมาพ่อแม่นอนร้องไห้ กินข้าวไม่ลงด้วยความเสียใจ โดยน้องชายถือเป็นความหวัง เป็นที่รักของพ่อแม่ เพราะเป็นลูกคนเล็ก ตอนนี้แม้ความหวังจะริบหรี่ก็อยากเจอน้องในสภาพที่มีชีวิต
ด้านนางเจือง ฤทธิ์ล้ำ อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 กล่าวว่า เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว เคยมีชายสูงอายุพายเรือมาหาผักบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ แล้วเกิดจมน้ำสูญหาย ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังค้นหาเป็นวัน กว่าจะเจอร่าง ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชาวบ้านบางส่วนมองว่าอาจจะเป็นเรื่องตัวตายตัวแทนทำให้ จ.ส.ต.มนตรี เย็นใจ และส.ต.อ.สมบัติ บัวงาม หายสาปสูญ โดยจุดเกิดเหตุเป็นจุดที่มีคนมาตกปลา และกางเต็นท์พักผ่อนเป็นประจำ แต่ช่วงนี้น้ำเยอะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
จากนั้นเวลา 18.00 น. นายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา เดินทางมายังจุดค้นหาเขื่อนแม่ประจันต์ โดยได้ลงเรือพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปยังจุดที่พบเรือของผู้สูญหาย ซึ่งหมอปลามีอาการหาว น้ำตาไหล และเชื่อว่าผู้สูญหายอยู่ใต้น้ำในจุดที่พบเรือ จึงจุดธูป 1 ดอก สวดมนต์พร้อมให้คนในเรือเรียกชื่อผู้สูญหายทั้ง 2 ก่อน หลังจากนั้นให้นักประดาน้ำนำธูปปักหัวลงไปปักในน้ำจุดที่พบเรือ
หมอปลา ระบุว่า เมื่อไปถึงจุดที่พบเรือ ตนเกิดความรู้สึกต่อต้าน จึงเชื่อว่าผู้สูญหายอยู่ที่บริเวณดังกล่าว แต่อาจจะยังไม่ลอยขึ้นมา เพราะช่วงนี้เป็นหน้าหนาว เซลล์ของมนุษย์ตายช้ากว่าหน้าร้อน ร่างจึงยังไม่ลอยขึ้นมา แต่มั่นใจว่าภายในคืนนี้ร่างจะลอยขึ้นมาเอง
ส่วนที่ตนทำพิธีใช้ธูปปักหัวลงไปปักในน้ำ เนื่องจากมีความเชื่อว่าหากมีสิ่งลี้ลับจริง การปักธูปกลับหัวจะเป็นการแก้ ให้ร่างลอยขึ้นมาได้ ซึ่งตนเชื่อว่าไม่ได้มีสิ่งลี้ลับ แต่ทำเพื่อให้ครอบครัวผู้สูญหายเกิดความสบายใจเท่านั้น ทั้งนี้เรื่องนางตะเคียน หรือตัวตายตัวแทนก็เชื่อว่าไม่มี แต่เกิดจากความประมาทของมนุษย์เท่านั้น
นายอังคาร เจียมตัว ชุดเฉพาะกิจค้นหาและกู้ภัยมูลสว่างสรรเพชญ ระบุว่า ส่วนของเจ้าหน้าที่กู้ภัยแบ่งเป็น 2 ชุด คือชุดค้นหาผิวน้ำ และชุดประดาน้ำ โดยชุดค้นหาผิวน้ำใช้เรือ 2 ลำ ขับวนรอบจุดที่ปักเป็นทุ่นเอาไว้บริเวณที่พบเรือ เพื่อทำให้น้ำเกิดคลื่น ให้ร่างที่อาจจะจมอยู่ลอยขึ้นมา เพราะวันนี้เป็นวันที่ 2 ที่ออกตามหา หากผู้สูญหายจมน้ำจริง ร่างจะเริ่มลอยขึ้นมาได้
ส่วนทีมประดาน้ำจำนวน 15 คน จะดำน้ำจากจุดที่พบเรือ ซึ่งน้ำลึกประมาณ 6-8 เมตร โดยวนเป็นวงกลมรอบทุ่น ครั้งละ 8 คน รัศมีในการค้นหาประมาณ 200 เมตร
อุปสรรค คือ ไม่รู้จุดที่แน่ชัด เพราะจุดที่พบเรืออาจไม่ใช่จุดที่จม เนื่องจากเรือไฟเบอร์น้ำหนักเบาอาจจะถูกพัดมาไกลจากจุดที่จม ประกอบกับน้ำค่อนข้างเย็น ใต้น้ำมีหลุม เนิน ต้นไม้เล็ก ๆ ทำให้ระยะในการมองเห็นมีแค่ 1 เมตรเท่านั้น ส่วนจุดที่พบรองเท้าและหมวกซึ่งลอยไปติดฝั่ง ทางทีมไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก เนื่องจากวัตถุทั้ง 2 อย่างเบา ย่อมจะลอยไปติดฝั่งเป็นธรรมดา