กรณีคดีลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท ที่ จ.กาญจนบุรี หลังจากเมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) มีผู้เผยแพร่คลิปเสียงจำนวน 2 คลิป โดยคลิปแรกเป็นการสนทนานัดแนะกันไปออกรายการโทรทัศน์ ซึ่งมีการพูดถึงส่วนแบ่งเงินคนละ 1 ล้านบาท ส่วนคลิปที่สองเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องชู้สาว ว่ามีแม่ค้าลอตเตอรี่รายหนึ่งอยากได้สามีเป็นครู และเรียกร้องให้ครูมาเลี้ยงดู ซึ่งฝ่ายครูอ้างรับปากตกลงไปก่อน เพื่อเป็นการล่อเสือออกจากถ้ำ
วันนี้ (14 พ.ค.) ที่ตลาดนัดเรดซิตี้ จ.กาญจนบุรี
นางสาวปณัชญา สุขพูล หรือ
เจ๊เกียว เปิดเผยว่า กรณีที่บอกว่าท่านผู้การฯ สุทธิ เป็นคนอยากให้ไปออกรายการ ตนไม่ขอตอบว่าจริงหรือไม่ เพราะตนไม่รู้จักกับผู้การฯ สำหรับเสียงในคลิปที่มีการพูดคุยในลักษณะที่ให้นำสคริปต์การตอบคำถามไปด้วยนั้น
เจ๊เกียว ระบุว่า พวกแม่ค้าอาจจะคิดว่ามีบทแต่ละคนว่าต้องพูดแบบไหน เพื่อจะได้มีการใช้คำพูดที่ดีหรือสุภาพในการตอบคำถาม
ส่วนกรณีเรื่องแบ่งเงินคนละ 1 ล้านบาท
เจ๊เกียว ตอบว่า แผงตนมีสลากรางวัลที่ 1 ถึง 3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่มีลูกค้าคนใดกล้าให้ขนาดนั้น แต่ยอมรับว่าลูกค้าที่เคยถูกรางวัล 16-18 ล้านบาท เคยให้ค่าตอบแทนตนหลักแสนบาท และส่วนตัวมองว่าเรื่องส่วนแบ่ง อาจจะเป็นการที่ลูกค้าคนดังกล่าวถูกรางวัลจริง จึงแบ่งเงินให้แม่ค้าด้วย แต่สำหรับตนมองว่า 1 ล้าน อาจจะมากเกินไป ทั้งนี้แต่ละงวด ตนเองทำกำไรได้มากกว่า 1 ล้าน จึงไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินจนต้องมีคนมาเสนอส่วนแบ่งให้
ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามต่อว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าเงินที่ถูกเสนอ เพื่อจะให้แม่ค้าไปยืนยันว่า ขายหวยให้กับบุคคลนั้น
เจ๊เกียว กล่าวว่า ก็อาจจะใช่ เพราะแม่ค้าเป็นคนนำรางวัลใหญ่มาให้ จึงตอบแทนกันด้วยสินน้ำใจ แต่ตนไม่คิดว่าจะเป็นการจ้างเพื่อให้ไปขึ้นศาลด้วยกัน ซึ่งตอนนี้เรื่องเป็นคดีความแล้ว
ส่วนคลิปที่ 2 ที่มีลักษณะการพูดคุยกันเรื่องประเด็นชู้สาว ว่าแม่ค้าหวยหน้าธนาคารมาชอบพอแล้วอยากได้ครูเป็นสามีนั้น
เจ๊เกียว กล่าวว่า การมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมันเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหวย 30 ล้านบาท และในส่วนคลิปเสียงที่คุยกันว่าลอตเตอรี่ยังอยู่ในมือแม่ค้า ตนมองว่าอาจจะหมายถึงรางวัลอื่น ไม่น่าใช่หวย 30 ล้านบาท เพราะหากเป็นเสียงครูปรีชาจริง ครูปรีชาก็เป็นคนถูกหวยบ่อย อาจจะมี 2-3 ตัว ซึ่งลอตเตอรี่บางชุดจึงอาจจะยังอยู่ที่แม่ค้าและไม่ได้มารับก็เป็นไปได้
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงเรื่องที่คนในคลิปเสียง มองว่าแม่ค้าหวยใฝ่สูงอยากได้ครูเป็นสามี
เจ๊เกียว กล่าวว่า จะเป็นแม่ค้าหรือข้าราชการ ศักดิ์ศรีของความเป็นคน คุณเอาอะไรมาวัด ตนเองไม่เคยแบ่งค่าของคน เพราะค่าของคนไม่ใช่ว่าจะมาใช้ตลับเมตรวัดได้ ตนมองว่าการจะชอบพอกัน คงไม่เอาอาชีพมาวัดได้ แต่หากใครมาคบกับตนแล้วพูดอย่างนี้ลับหลัง การพูดแบบนี้คงวัดใจได้เลยว่าเขาเป็นคนอย่างไร และหากจะมองว่าเป็นเจ๊บ้าบิ่นกับครูปรีชามีความสัมพันธ์กัน ตนมองว่าอดีตสามีของเจ๊บ้าบิ่นก็เป็นคนขาว หล่อ อย่างครูไม่น่าใช่สเป็กของเจ๊บ้าบิ่น อย่างไรก็ตาม เจ๊เกียว ได้ตอบโต้กรณีข่าวเรื่องเกลือเป็นหนอนด้วยว่า ตนเองไม่ใช่ปลาร้า ถึงจะมีหนอน
ด้าน
นางสาวรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ
เจ๊บ้าบิ่น กล่าวถึงกรณีการเสนอตัวเป็นเมียครูว่า มันไม่มี แต่เสียงคุยที่ออกมา ตนก็ไม่รู้ว่ามาได้อย่างไร ซึ่งในคลิปมีแทนตัวเองว่า หนูอย่างนั้น หนูอย่างนี้ ตนยืนยันว่า ไม่เคยเรียกตัวเองแบบนั้น และก็ไม่เคยอยากเป็นเมียครูปรีชา เพราะไม่ชอบและไม่ใช่สเป็กของตน ตนเองเป็นแม่ค้ากับลูกค้ากัน การพูดคุยกันก็เพียงพูดคุยในฐานะที่แม่ค้าอยากขายของให้ ไม่ใช่เรื่องชู้สาว แล้วก็ไม่เคยไปบาดหมางอะไรให้เขาไม่สบายใจด้วย และตนเองไม่เคยพูดว่าจะไปคุยกับภรรยาของครูด้วย สำหรับเรื่องส่วนแบ่งเงินล้าน ตนยืนยันสั้นๆ ว่า "ไม่มี" หากมี ก็คงไม่เหลือมาถึงตนหรอก และสำหรับแม่ค้าหวยหน้าธนาคาร มีกันอยู่ 4 คน ไม่มีใครมีสามีสักคน แล้วก็ไม่มีใครใฝ่สูงอยากได้ครูปรีชาเป็นสามีด้วย
ทั้งนี้
เจ๊บ้าบิ่น ยังได้กล่าวถึงเรื่องในคลิปเสียง ที่บอกว่าเป็นการล่อเสือออกจากถ้ำว่า จะมีเสือมีสิงห์ที่ไหน ตัวคนปล่อยคลิปนั่นแหละคือเสือ