จากกรณีจ่าสิบตรีมนตรี เย็นใจ หรือ แต อายุ 29 ปี กองพัน 52 ช.1 รอ.ราชบุรี และสิบตำรวจเอกสมบัติ บัวงาม หรือ เอ็ม อายุ 29 ปี กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรยะลา สูญหายไป ขณะล่องเรือบริเวณเขื่อนแม่ประจันต์ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 64 และมีการค้นหาไปแล้ว 2 วัน แต่ยังไม่พบ
ล่าสุด วันที่ 23 ม.ค. 64 เมื่อเช้าที่ผ่านมา เวลาประมาณ 06.00 น. ศูนย์วิทยุกู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานฯ ได้รับแจ้งจาก สภ.หนองหญ้าปล้อง พบร่างของผู้สูญหายทั้ง 2 ราย สภาพศพทั้คว่ำหน้าขึ้นอืด โดยจ่าสิบตรีมนตรี มือซ้ายจับที่บริเวณคอเสื้อ ของสิบตำรวจเอกสมบัติ ลอยขึ้นจากน้ำติดอยู่ในบริเวณภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่ประจันต์ ห่างจากฝั่งประมาณ 20 เมตร
อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานฯ ได้นำเรือกู้ภัยเพื่อไปรับร่างของผู้เสียชีวิตกลับขึ้นฝั่ง นำส่งโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเพื่อผ่าพิสูจน์ ในวันจันทร์ที่ 25 ม.ค. 64 และญาติจะนำศพของผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหนองหญ้าปล้องตั้งศพคู่กัน ทำพิธีบำเพ็ญกุศลต่อไป
ที่พบศพผู้เสียชีวิต บริเวณตลิ่ง ริมเขื่อนแม่ประจันต์ มีกิ่งไม้อยู่ในน้ำส่วนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้ออกจากพื้นที่ทั้งหมดแล้ว หลังจากนำศพส่งโรงพยาบาล ยังพบชิ้นส่วนถุงมือบางส่วนวางอยู่บริเวณริมตลิ่งที่มีการนำศพขึ้นมาบนฝั่งด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “หมอปลา” หาวกลางเขื่อนปักธูปกลับหัวหาร่าง 2 หนุ่มหาย เชื่อน้ำเย็นทำศพอืดช้า
นายดิศกร บัวงาม อายุ 30 ปี พี่ชายของสิบตำรวจเอกสมบัติ บัวงาม เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ตนเองอยู่บริเวณจุดที่น้องชายสูญหาย เฝ้ารอจนกระทั่งเที่ยงคืนจึงเดินทางกลับบ้าน และมาทราบช่วงเช้าทางโทรศัพท์ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โทรมาแจ้งให้ทราบ จึงเดินทางไปยังจุดที่พบศพ พบว่าเป็นศพคู่เป็นภาพที่คล้ายการช่วยเหลือกัน และคล้ายว่าทั้งคู่เกือบจะถึงฝั่งแล้ว แต่ไปไม่ถึงเสียชีวิตก่อน
ทางครอบครัวไม่ติดใจประเด็นการเสียชีวิตใด ๆ เพราะเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิด เมื่อวานนี้ช่วงที่พบของใช้ส่วนตัวของผู้เสียชีวิต ตนเองคิดว่าประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ น้องชายน่าจะประสบอุบัติเหตุทางน้ำ เหลือไม่กี่เปอร์เซนต์ที่ยังหวังว่าน้องชายอาจจะรอด แต่พอมาวันนี้ก็มาเจอสภาพศพและรู้สึกเสียใจและหดหู่มาก ตนเองยอมใจน้องชายและเพื่อน้องชายอีกคนด้วยที่เป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่อนุบาล จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ทั้งสองคนต่างคนต่างทำงานอยู่คนละที่ แต่เมื่อกลับมาที่บ้านก็จะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด น้องชายเป็นคนซื่อ ไม่ขัดใจใคร เพื่อนรัก พูดน้อย
การไปหาปลาครั้งนี้ เป็นการไปหาปลาครั้งแรกที่นำเรือไปด้วย เพราะปกติทั้งคู่จะนั่งตกปลาริมเขื่อน คาดว่าอุบัติเหตุครั้งนี้อาจเกิดมาจากเรือไม่ได้มาตรฐาน และเกิดพลิกคว่ำ ประกอบกับความมืด จึงทำให้ตกใจและพลาดพลั้งเสียชีวิต ที่ผ่านมาทางครอบครัวไม่เคยไปหาหมอดูหรือผู้เชี่ยวชาญให้ดูดวงชะตาน้องชาย รวมทั้งน้องชายก็ไม่เคยมาเข้าเฝ้าด้วย คงจะถึงฆาตของน้องชายจริง ๆ ตนขอฝากไปยังหน่วยงานทุกหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือ และเพื่อน ๆ ของทั้งสองคนที่มาช่วยเหลือ อยากบอกน้องชายว่าให้ไปสู่สุคติ ตนจะดูแลพ่อแม่ให้ดีที่สุด
นายสุธรรม นุ้ยสุวรรณ อายุ 50 ปี อาสาสมัครกู้ภัย มูลนิธิสว่างสรรเพชรญ จุดแก่งกระจาน เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้าน และเดินทางไปจุดที่พบศพเวลาประมาณ 06.00 น. ห่างจากฝั่งประมาณ 20 เมตร ที่ก่อนหน้านี้ทีมกู้ภัยมีการนำเรือขับวนรอบบริเวณดังกล่าวแล้วแต่ยังไม่พบ ทางทีมงานจึงมีการประสานหน่วยกู้ภัยสว่างสรรเพชรญมากกว่า 30 คน เข้ามาช่วยกู้ศพผู้เสียชีวิตขึ้นฝั่ง ใช้เรือท้องแบนพายออกจากฝั่ง และลากศพของผู้เสียชีวิตขึ้น ลักษณะศพผู้เสียชีวิตทั้งสองศพ นอนคว่ำ และศพทหารใช้มือซ้ายกำลังกุมเสื้อของศพตำรวจอยู่แน่น ความคิดส่วนตัวศพของทั้งคู่คล้ายกำลังจะช่วยเหลือเพื่อนอยู่ ซึ่งอากาศหนาวเย็น ก็มีผลต่อร่างกายอาจจะเป็นตะคริวได้ หรืออาจจะเป็นตะคริวทั้งคู่หรือไม่
ก่อนหน้านี้ บริเวณเขื่อนแม่ประจันต์ เคยมีคนจมน้ำเสียชีวิตมาแล้ว 3 ศพ เท่าที่ตนเองทราบเคสล่าสุดเมื่อประมาณปี 2563 สาเหตุก็มีจากการนั่งเรือหาปลาเช่นเดียวกัน แต่ที่ผ่านมาศพก็ลอยขึ้นมาปกติภายใน 24 ชั่วโมง แต่กรณีดังกล่าวที่เพิ่งเกิดขึ้น
สาเหตุที่ศพลอยขึ้นจากน้ำช้าน่าจะมาจากสภาพอากาศหนาว และอุณหภูมิต่ำ การจะขึ้นจากผิวน้ำก็ต้องใช้ระยะเวลานาน ส่วนมาตรการในการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะมีการแจ้งเตือนให้ประชาชนระมัดระวังในการไปท่องเที่ยว หรือหาปลาบริเวณเขื่อนดังกล่าวมากขึ้น ตนคิดว่าเป็นอุบัติเหตุมากกว่าเรื่องอาถรรพ์
นางต้อย น้าของจ่าสิบตรีมนตรี เย็นใจ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางญาติทราบว่าพบศพ ก็ดีใจเล็กน้อยที่ศพของหลานชายลอยขึ้นมาแต่เสียใจมากที่หลานต้องเสียชีวิต ไม่มีใครคิดว่าหลานจะมาจบชีวิตแบบนี้ เพราะทั้งคู่ไม่ได้ตั้งใจจะมาหาปลา แค่จะมาอ่อยเหยื่อ หว่านเหยื่อให้ปลามาชุกชุมบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อจะให้เพื่อน ๆ มาตกปลากันเท่านั้น แต่มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตก่อน โดยก่อนหน้านี้หลานชายไปตกปลาที่บริเวณเขื่อนบ่อยครั้งหลังจากเลิกงาน หรือช่วยงานแม่เสร็จก็จะไปบ่อยครั้ง วันหยุดก็มักจะไปที่เขื่อนบ่อย เป็นคนขยัน ซึ่งทางครอบครัวก็ไม่ติดใจการเสียชีวิตแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ทั้งคู่เกิดปีเดียวกัน และสนิทกันมาตั้งแต่อนุบาล ตนเองไม่ค่อยได้คุยกับหลานมากนัก แต่ก็มีการทักทายกันเป็นประจำทุกวัน เพราะบ้านอยู่ข้างกัน เมื่อหลานเจอก็จะยกมือไหว้ตลอด ยืนยันว่าหลานชายนิสัยดี ไม่มีนิสัยเกเร ส่วนลางบอกเหตุทางครอบครัวไม่มีใครพบ เพราะวันที่หลานชายไปที่เขื่อนก็กลับเข้าบ้านและเปลี่ยนกางเกง จากนั้นยกเรือขึ้นรถ ก่อนจะออกจากบ้านไปกัน 2 คน กระทั่งแม่ของหลานก็ไม่พบลางบอกเหตุใด ๆ แต่ก็มีคนในครอบครัวพบเหตุการณ์แปลก ๆ เมื่อคืนนี้มีลูกพี่ลูกน้องของผู้เสียชีวิตกำลังเดินอยู่ในบ้าน และสัมผัสได้ว่าน้องชายมาหา ได้กลิ่นคล้ายกลิ่นตัวของผู้เสียชีวิต น้องชายน่าจะพยายามบอกอะไรกับตนเองบางอย่าง ทั้งนี้ ตนอยากบอกว่าตนเองรักทั้งสองคน ทั้งหลานและเพื่อนหลาน เพราะทั้งสองคนเป็นเด็กดี เมื่อเรียกใช้งาน และจะไหว้วานไปไหนมาไหนก็มักจะทำให้ตลอด ไม่เคยเกี่ยง ขอให้หลานไปสู่ภพภูมิที่ดี ไม่ต้องเป็นห่วงคนที่บ้าน