กรณีนายทรงวุฒิ แปงเรือน อายุ 30 ปี ชาวอ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค.64 ที่ผ่านมา บุตรชายชื่อว่า ด.ช.ธนโชต หรือ น้องบ๊อบบี้ อายุ 7 ขวบ ได้หายออกไปจากบ้าน และไปเจอน้องบ๊อบบี้ กลายเป็นศพในดงกล้วย กระทั่งตำรวจสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 24 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังบ้านน้องบ๊อบบี้ ในพื้นที่ หมู่ 7 ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย ซึ่งเมื่อทีมข่าวมาถึงที่บ้านน้องบ๊อบบี้ ทางครอบครัวเพิ่งไปรับศพน้องบ๊อบบี้ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ขณะที่นายทรงวุฒิ พ่อน้องบ๊อบบี้ มีสีหน้าที่เสียใจ และยืนปลอบภรรยา ที่นั่งร้องห่มร้องไห้บนเก้าอี้ โดยมีชาวบ้านมาคอยดูแลแม่น้องบ๊อบบี้จำนวนมาก
โดยหีบศพน้องบ๊อบบี้ ได้ตั้งอยู่ในบ้าน มีชาวบ้านแวะเวียนมาดูศพ ซึ่งก็มีชาวบ้านรายหนึ่งเป็นผู้หญิงเสื้อขาว ได้ยืนร้องไห้ และใช้มือจับสัมผัสรูปภาพของน้องบ๊อบบี้ ที่บริเวณหน้าโลงศพ ทีมข่าวได้ขอสัมภาษณ์ผู้หญิงคนดังกล่าว แต่เจ้าตัวไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ให้เป็นข้อมูลเพียงว่า สิ่งที่ทำนั้นเป็นพิธีการสื่อสารน้องบ๊อบบี้อย่างหนึ่งทางศาสนาคริสต์ และเป็นการสื่อสารการแสดงความเสียใจ ที่ต้องการบอกน้องบ๊อบบี้อีกด้วย
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายทรงวุฒิ แปงเรือน พ่อน้องบ๊อบบี้ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนยังรู้สึกเสียใจไม่หายกับการจากไปของลูกชาย วันนี้หลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพลูกมาส่งที่บ้าน ตนได้เจอหน้าลูกในหีบศพ ตนได้บอกลูกชายว่า จับคนร้ายได้แล้วนะลูก โดยใบหน้าน้องบ๊อบบี้ในหีบศพก็ไม่เหมือนเดิม เพราะลูกชายถูกนายสินชัยตีทำร้าย
ตั้งแต่วันแรกที่ลูกเสียชีวิตจนถึงวันนี้ ตนก็ไม่ฝันเห็นลูกชายแต่อย่างใด ส่วนภรรยาตนหลังจากเห็นศพบ๊อบบี้วันนี้ เขาก็ร้องไห้เสียใจไม่ต่างจากตน ตนและภรรยาเลี้ยงลูกมาตั้งแต่เขาเด็ก ๆ พอลูกชายมาจากไปแบบนี้ พวกตนทั้งสองคนเสียใจมาก หลังจากนี้ตนจะประกอบพิธีศพลูกทางศาสนาคริสต์ เป็นเวลา 3 วัน และจะฝังศพลูกชายในวันที่ 27 ม.ค.64
หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพไปเมื่อวานนี้ ครอบครัวของนายสินชัย คนก่อเหตุ ก็ยังไม่ได้มาแสดงความเสียใจที่บ้านตน ซึ่งตนก็ยินดี หากครอบครัวของนายสินชัยจะมาขอขมาศพลูกชายตน สำหรับน้องบ๊อบบี้ ก่อนเสียชีวิต เขาเคยบอกกับตนว่า ถ้าเขาโตขึ้นเขาอยากเป็นนักกีฬาฟุตบอล ตนตั้งใจว่าจะทำงานเก็บเงินซื้อชุดกีฬาฟุตบอลให้กับลูกชาย แต่ยังไม่ทันซื้อให้ ลูกชายกลับมาเสียชีวิตก่อน
อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวตน และครอบครัวนายสินชัย หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อ ตนต้องใช้เวลา และรอให้ญาติทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยกันก่อน ตนคิดถึงลูกมาก เขามาเกิดเป็นลูกของตน แต่ตนก็ดูและเขาไม่ได้
หลังจากให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวเสร็จ พ่อน้องบ๊อบบี้ ได้เดินไปที่หีบศพ เพื่อดูหน้าน้องบ๊อบบี้อีกครั้ง โดยนายทรงวุฒิ ได้ก้มตัว ส่องกระจกของหีบศพลูกชาย พร้อมกับร้องไห้แสดงความเสียใจออกมาจนเข่าทรุด ล้มทั้งยืน จากนั้นแม่น้องบ๊อบบี้ ก็เดินเข้ามากอดนายทรงวุฒิ และทั้งสองก็กอดกันร้องไห้
ด้านนายสุพล พี่ชายของนายสินชัย ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า เมื่อเช้าของวันนี้ตนได้ไปเยี่ยมน้องชาย ที่ สภ.เวียงเชียงรุ้ง โดยเอาข้าวผัด 1 กล่อง และน้ำดื่มไปเยี่ยมน้องด้วย ขณะที่เยี่ยมตนได้บอกน้องชายว่า "ไม่ต้องกลัวอะไร ทำผิดแล้วต้องยอมรับผิด ไม่ต้องกลัว พ้นโทษเดี๋ยวก็ได้ออกมา" ซึ่งสีหน้าของน้องชายก็ปกติ หลังจากฟังตนพูด
ส่วนนางเยีย แม่ของตนได้บอกกับนายสินชัยว่า "ไปทำแบบนั้นกับเด็กทำไม เด็กมันตัวเล็ก" โดยน้องชายตนก็ฟังแม่ตามปกติ ไม่ได้พูดอะไร วันนี้ตนก็พอทราบข่าวว่าศพของน้องบ๊อบบี้มาถึงที่บ้านแล้ว หลังจากนี้ตนและขอครอบครัวก็จะเดินทางไปแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องบ๊อบบี้ และไปขอโทษศพแทนน้องชายอีกด้วย ส่วนเรื่องการเยียวยารับผิดชอบ ตนและครอบครัวก็ยังไม่ได้พูดคุยกันถึงเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยังคงรู้สึกเสียใจกับการกระทำน้องชาย ที่ไปก่อเหตุ ชาวบ้านบางคนก็จับกลุ่มนินทรา ตนและครอบครัวก็ต้องช่วยกันให้ครอบครัวดีขึ้น ตนไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว
หลังให้สัมภาษณ์เสร็จ นายสุพล นางเยีย พี่ชายและแม่ของผู้ต้องหา ได้เดินทางไปที่บ้านน้องบ๊อบบี้ เพื่อแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องบ๊อบบี้ โดยนายสุพล พี่ชายผู้ต้องหา ได้เดินเข้าไปดูหีบศพน้องบ๊อบบี้ อยู่ประมาณ 1 นาที และมีสีหน้าที่เสียใจ ส่วนทางด้านนางเยีย แม่ผู้ก่อเหตุ ได้ไปให้กำลังใจแม่ของน้องบ๊อบบี้ ที่นั่งร้องไห้เสียใจอยู่ในบ้าน
นายสุพล ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า หลังจากได้มาแสดงรวามเสียใจกับครอบครัวน้องบ๊อบบี้แล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้น โดยเบื้องต้นยังไม่ได้พูดคุยกับพ่อของน้องบ๊อบบี้ อย่างเป็นทางการ เนื่องจากพ่อน้องบ๊อบบี้ ให้ข้อมูลว่าจะเจรจากับครอบครัวนายสุพลในภายหลัง