หนุ่ม 25 ตายตาไม่หลับร่างไม่ไหม้ แค้นช่างเอารถลูกค้าพุ่งชน เจ้าตัวเมินจ่ายเงินค่าซ่อม (คลิป)

จากกรณี น.ส.ภานุชนาฏ ทิพย์กระโทก อายุ 26 ปี สาวแคดดี้สนามกอล์ฟ หอบเอกสารและรูปถ่ายรถเก๋ง โตโยต้า วีออส สีบรอนด์ทอง ทะเบียน ศน 8490 กรุงเทพฯ มีร่องรอยถูกชนบริเวณประตูหลังขวา ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่าหลังจากตนนำรถคันดังกล่าวไปทำสีที่อู่แห่งหนึ่งย่านแพรกษา จ.สมุทรปราการ

ต่อมาทราบข่าวร้ายว่าเจ้าของอู่นำรถของตนออกไปใช้ จนเกิดอุบัติเหตุ ถูกรถจักรยายนต์พุ่งชนกลางประตู จนคนขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิต ซ้ำร้ายเจ้าของอู่ยังปัดความรับผิดชอบ จนทราบภายหลังว่า นายณัฐการ กระตุดเงิน อายุ 25 ปี คนขี่รถจักรยายนต์ชนรถตนนั้นเสียชีวิตแล้ว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อู่แสบขับรถลูกค้าชนคนตายอ้างชดใช้ช้าห่วงผู้สูญเสีย - ผีเฮี้ยนศพไม่ไหม้เลขโผล่

ที่วัดบ่อแก้ว ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี จากการสอบถามชาวบ้าน ทราบว่า ที่วัดแห่งนี้มีพระสงฆ์จำนวน 2 รูป ส่วนสัปเหร่อไม่ได้ประจำอยู่ที่วัด พระรูปหนึ่งซึ่งเป็นญาติกับผู้ตาย ให้ข้อมูลว่าวันที่เผาศพต้องเผาศพถึง 2 ครั้ง เพราะอากาศเย็น ทำให้ศพไม่ยอมไหม้

ทีมข่าวยังได้เดินทางมาที่บ้านของญาติผู้ตาย หมู่ 6 บ้านบ่อแก้ว ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี นางสาวสมควร กระตุดเงิน อายุ 62 ปี ย่าของผู้ตาย เปิดเผยว่า วันที่ 24 ม.ค. 64 เวลาประมาณ 16.00 น. เป็นวันที่จัดพิธีฌาปนกิจศพ หลังจากที่เผาศพ ทางครอบครัวได้โทรมาบอกว่าศพเผาไม่ไหม้ จากที่สัปเหร่อเปิดสภาพศพให้ดู พบว่าผิวหนังตามลำตัวไม่ยุบลง ทั้งที่ใช้ถ่านหมดไป 2 กระสอบแล้ว จึงขอให้ทางครอบครัวเข้ามาจุดธูปบอกผู้ตาย

ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านของญาติผู้ตาย หมู่ 6 บ้านบ่อแก้ว ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี นางสาวสมควร กระตุดเงิน อายุ 62 ปี ย่าของผู้ตาย เปิดเผยว่า วันที่ 24 ม.ค. 64 เวลาประมาณ 16.00 น. เป็นวันที่จัดพิธีฌาปนกิจศพ หลังจากที่เผาศพ ทางครอบครัวได้โทรมาบอกว่าศพเผาไม่ไหม้ จากที่สัปเหร่อเปิดสภาพศพให้ดู พบว่าผิวหนังตามลำตัวไม่ยุบลง ทั้งที่ใช้ถ่านหมดไป 2 กระสอบแล้ว จึงขอให้ทางครอบครัวเข้ามาจุดธูปบอกผู้ตาย

โดยตนได้นำเสื้อผ้าพ่อกับแม่ของผู้ตายไปคนละ 1 ชุดใส่ไปในโลงศพ แล้วเผาพร้อมไปด้วย เพราะตามความเชื่อผู้ตายอาจจะยังรู้สึกเป็นห่วงพ่อแม่ และญาติพี่น้อง จากนั้นพ่อกับแม่ได้เข้าไปจุดธูปที่หน้าบอกว่าไม่ต้องห่วงใคร ทุกคนดูแลตัวเองได้ ซึ่งหลังจากที่จุดธูปเสร็จ ศพเผาไหม้ทันที

หลังจากที่เกิดเรื่องมีเพียงยายของผู้ตายซึ่งอาศัยอยู่ จ.ศรีสะเกษ ที่ฝันว่าผู้ตายไปหา และเคาะประตูห้อง 3 ครั้ง ยายจึงกล่าวในฝันว่า "ไม่ต้องมาที่นี่หรอก ยายรู้แล้วว่าหลานเสียชีวิต ขอให้มาหาปู่กับย่า เพื่อไปรับบุญกุศลที่ปู่ย่าทำให้" ส่วนกรณีที่ไฟท้ายรถเปิดขึ้นมาเอง และสุนัขของเจ้าของรถหอนโหยหวน ตนเชื่อว่าหลานชายคงจะไปวนเวียนให้คนที่เกี่ยวข้องเห็น และไปตามดูว่านายตั้ม คู่กรณี ซึ่งเป็นเจ้าของอู่รถทำสีจะรับผิดชอบหรือไม่

หลังจากนี้ ทางครอบครัวจะทำบุญสังฆทานให้ก่อน พร้อมกับเรียกชื่อผู้ตายกลับมาที่บ้าน และจะรอทำบุญอีกครั้ง คือวันครบรอบ 100 วัน เบื้องต้นคู่กรณีได้เยียวยาเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท และเข้ามาร่วมงานในวันฌาปนกิจ แต่ทุกคนยุ่งอยู่จึงไม่ได้พูดคุยส่วนเรื่องคดีความเพิ่งจะเริ่มทำเรื่อง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกติดใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะหลานชายเสียชีวิตไปแล้ว

นายบุญส่ง กระตุดเงิน อายุ 72 ปี ปู่ของผู้ตาย เปิดเผยว่า หลานชายจะอาศัยอยู่กับตนที่ จ.สมุทรปราการ ครั้งสุดท้ายที่เจอกัน ตนกับหลานชายไม่ได้พูดคุยอะไรกัน ซึ่งหลานชายบอกแค่ว่าจะออกไปทำงาน ปกติหลานชายจะเข้างานเวลาประมาณ 02.00 น. และจะออกไปทำงานก่อนถึงเวลางานตามปกติ กระทั่งเวลาประมาณ 01.30 น. ตนทราบข่าวว่าหลานชายประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

ทั้งนี้ หลานชายเป็นคนที่นิสัยดี ไม่ใช่คนขับรถเร็ว และไม่ใช่คนที่ชอบดื่มเหล้า แต่ส่วนตัวยังไม่ทราบว่าเหตุเกิดขึ้นอย่างไร นอกจากนี้ตนยังรู้สึกติดใจแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะตนอายุเยอะแล้ว จึงให้อาของผู้ตายทำหน้าที่ดำเนินเรื่องแทน ส่วนกรณีที่ไฟท้ายรถเปิดขึ้นเอง ตนมองว่าหลานชายคงจะไปแสดงตัวให้เห็นเพื่อสื่อสารให้คู่กรณีรับผิดชอบ

นอกจากนี้ ปีนี้หลานชายจะอายุครบ 25 ปี ในวันที่ 15 ต.ค. 64 ซึ่งถือว่าช่วงอายุของเบญจาเพศ ส่วนตัวจึงเชื่อว่าอาจจะมีส่วนที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต แต่ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีลางบอกเหตุ

ล่าสุด วันที่ 29 ม.ค. 64  นายตั้ม อายุ 30 ปี คู่กรณี ซึ่งเป็นเจ้าของอู่รถที่รถขับรถชนคนเสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากที่เจ้าของรถให้ข่าวก็เกิดผลกระทบต่องานตนเอง มีลูกค้าโทรมายกเลิกงานไปกว่า 6 ราย ทำให้ตนขาดรายได้ 50,000-60,000 บาท ที่ลูกค้าเขายกเลิกงานซ่อมรถในอู่ของตนเอง เนื่องจากว่าเขากลัวว่างานจะไม่เสร็จ

สำหรับอู่ซ่อมรถของตนเอง วันนี้เปิดทำการปกติ ตนยังมาทำงานทุกวัน ไม่ได้หนีไปไหน ตนยังไม่ได้พูดคุยกับคู่กรณี คิดว่าตอนนี้คุยอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเขาให้ข่าวทำให้ตนเสียหายไปแล้ว ที่ผ่านมาตนไม่ได้จะหนีความรับชอบ ตนแค่อยากช่วยเรื่องงานศพของผู้เสียชีวิตให้เสร็จก่อน เรื่องกับคู่กรณีจะดำเนินการให้ภายหลัง

ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าวันเกิดเหตุตนขับรถคู่กรณีไปจริง ตนผิด แต่ขอเวลาตนหน่อย ตนเสกเงินเองไม่ได้ ส่วนที่คู่กรณีตีราคาค่าซ่อม 50,000 บาท ตนคิดเห็นว่าราคาแพงเกินไป ตนเป็นช่างซ่อมตีราคาได้ไม่ถึง 20,000 บาท เขาต้องเห็นใจตนบ้าง

ตนเองเป็นคนที่ถูกน้องผู้เสียชีวิตขับชนตนจนเสียชีวิต ตนไม่เคยเห็นวิญญาณน้องเขา แต่ที่คู่กรณีบอกว่าวิญญาณผู้เสียชีวิตไปหาเขานั้น ตนคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะตนไม่ได้ไปชนน้องเขา วิญญาณเขาจะมาตามอีกฝ่ายได้อย่างไร อีกอย่างรถมอเตอร์ไซค์ของน้องที่เสียชีวิตตอนนี้ก็ยังอยู่ในอู่ของตนเอง ซึ่งตนก็ไม่เคยเจอวิญญาณน้องเขา ถ้าคู่กรณีเจ้าของรถอยากจะแจ้งความเอาผิดตน ตนก็ไม่ว่า ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

นอกจากนี้เมื่อ พ.ย. 63 ตอนนั้นตนทำสีรถของคู่กรณีเสร็จแล้ว แต่เขาไม่ยอมมาเอารถคืน เจ้าของรถเขาได้เอากุญแจรถมาให้ตนที่อู่ พร้อมกับพูดกับตนว่า "เอากุญแจไปไว้ เผื่อพี่เอารถไปซื้อของ เพราะรถเก๋งไม่ได้ใช้" ซึ่งตนก็ได้เอารถออกไปใช้จริง ตนไม่ได้ขโมยรถลูกค้าไปใช้ ตนทำสีรถเสร็จแล้ว และน้องเขาก็เต็มใจให้ตนเอารถไปใช้ได้

ทีมข่าวเดินทางมายังอู่ซ่อมรถ เทศบาลบางปู อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ อีกอู่ที่รับซ่อมรถของผู้เสียหายหลังเกิดเหตุ สภาพฝั่งขวาของตัวรถพังยับเยิน ด้านหน้ารถมีดอกไม้และผ้าสีขาววางไว้ เจ้าของรถได้นำมาไหว้ หลังจากที่งานเผาศพของผู้ตาย วันนี้ได้นิมนต์พระสงฆ์ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ปลดปล่อยดวงวิญญาณ

นายจักรินทร์ ศรีพัชรานุกุล อายุ 40 ปี เจ้าของอู่ เปิดเผยว่า ส่วนตัวเชื่อว่าวิญญาณของผู้เสียชีวิตยังวนเวียนในรถเก๋ง ซึ่งตนเองก็เป็นคนหนึ่งที่เชื่อเรื่องผี ตนเจอมากับตาตัวเอง ทั้งที่รถไม่มีแบตเตอรี่แต่ไฟกระพริบเองได้ หลังจากตนเจอเหตุการณ์ดังกล่าว ตนได้จุดธูปแล้วขอหวยที่กระจกรถด้านข้างรถคันดังกล่าว เขียนตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับผู้ตายเพื่อขอโชคลาภ

ทั้งนี้ ตนเองอยากจะขอแก้ข่าวว่าตนไม่ได้เป็นคนที่เอารถของเจ้าของรถไปขับชนจนมีผู้เสียชีวิต ตนและผู้ก่อเหตุนั้นชื่อเล่นว่าตั้มเหมือนกัน จึงทำให้คนเข้าใจผิด รวมถึงลูกค้าของตนด้วยตนเป็นช่างซ่อมรถมา 10 ปี ไม่เคยเจอเรื่องผีในอู่มาก่อน ส่วนตัวไม่ได้ทำผิดกับน้องที่เสียชีวิต แต่ถ้าตนเจอเรื่องอาถรรพ์อีก ตนจะทำบุญให้เขาที่เขามาปรากฏให้ตนสัมผัสได้

สำหรับรถเก๋งคันดังกล่าวนี้ ยังมีปัญหาของค่าใช้จ่ายที่เจ้าของรถ และนายตั้มผู้ก่อเหตุ เขายังตกลงกันไม่ได้จ่ายเรื่องค่าใช้จ่าย ถ้าไม่มีความคืบหน้าตนก็จะซ่อมรถล่วงหน้าไปก่อน และจะเก็บเงินภายหลัง คาดว่าราคาค่าซ่อมประมาณ 43,000-45,000 บาท