วันที่ 30 ม.ค. 64 เมื่อเวลา 10.30 น. พนักงานสอบสวน สภ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุ ผู้จัดการร้านทะเลาะกับลูกน้อง แล้วใช้กรรไกรแทงสาหัส รวม 4 แผล จึงรุดไปที่เกิดเหตุเป็นร้านรับส่งวัสดุด่วน ม.1 ต.บ้านหัวถนน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี พร้อมกู้ภัย
เมื่อไปถึงพบคนเจ็บคือนายสมศักดิ์ เวชวงศา อายุ 36 ปี เป็นพนักงานส่งวัสดุของร้าน ซึ่งถูกนายอัศวิน นาวิน หรือ เก่ง อายุ 40 ปี ผู้จัดการ ใช้กรรไกรแทงที่ลำคอและลำตัว ตามภาพจากกล้องวงจรปิด จนได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากนั้นนายอัศวินก่อเหตุเสร็จก็ขับรถหลบหนีไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่านายอัศวินมีเรื่องทะเลาะไม่พอใจกับนายสมศักดิ์ คนเจ็บ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ เรื่องส่งของล่าช้า ทำให้นายอัศวินถูกหัวหน้าระดับสูงกว่าตำหนิ แล้วมาตำหนินายสมศักดิ์ก็ไม่พอใจ โต้เถียงกันไปมา จนกระทั่งวันนี้บริเวณในร้านเกิดทะเลาะด่ากันซ้ำเรื่องเดิม ทำให้นายสมศักดิ์ไม่พอใจ พุ่งเข้าไปชกต่อยนายอัศวินก่อน นายอัศวินจึงโต้ตอบต่อสู้ พร้อมกับเอากรรไกรที่อยู่บนเคาน์เตอร์ไล่แทงสวนจนนายสมศักด์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อินที่นายอัศวินขับรถหลบหนีไป ด้านตำรวจกำลังนำภาพวงจรปิดไปขออนุมัติศาลจังหวัดเพื่ออกหมายจับ ในคดีพยายามฆ่าผู้อื่นไว้ก่อน
นางสาวพัชรินทร์ พุ่มพ่วง พี่สาวผู้บาดเจ็บ อายุ 38 ปี เปิดเผยว่า อาการน้องตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว รู้สติดี แต่เจ็บแผลมาก ซึ่งแพทย์บอกว่าไม่โดนจุดสำคัญ แต่พบว่ามีบาดแผลจากการถูกแทงรวมทั้งหมด 5 แผล ทำการเย็บทั้งหมด 20 เข็ม แพทย์ขอรอดูอาการเพราะเลือดตามบาดแผลยังไม่หยุดไหล และให้น้องอดข้าว อดน้ำ ชั่วคราว
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นก็เป็นไปตามภาพจากกล้องวงจรปิดตามที่ทุกคนเห็น และตนเองไม่คิดว่าน้องจะไปต่อยผู้จัดการก่อน ถ้าไม่มีเหตุอะไรจูงใจ คาดว่าน้องทนไม่ไหว เพราะที่ผ่านมาน้องเคยเล่าให้ฟังว่าเหนื่อย ถูกกดดัน บางวันเป็นวันหยุด ผู้จัดการก็เรียกให้มาทำงาน ทั้งที่ก็มีคนทำงานปกติอยู่แล้ว บางวันก็ให้ไปส่งของนอกเส้นทางที่รับผิดชอบ จึงอยากจะลาออก แต่ก็อดทนไว้ และน้องยืนยันหลายครั้งว่าจะไม่ไปมีเรื่องกับผู้จัดการแน่ ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็จะลาออกแค่นั้นเอง ตนเองก็ได้แต่บอกให้น้องอดทน เพราะเห็นว่าน้องก็ตั้งใจทำงาน ซึ่งคนในย่านนี้ก็บอกว่าน้องส่งของบริการดี ทุกคนเอ็นดูกันหมด และไม่เคยไปมีเรื่องกับใคร
ขณะเดียวกันตนเองมีเรื่องอยากจะขอความเป็นธรรมให้น้องด้วย เนื่องจากตอนที่ตนเองทราบข่าวว่าน้องโดนแทง ตนเองก็รีบมาที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งไม่ยอมรับแจ้งความ บอกตนเองว่าเป็นการทะเลาะวิวาท และจะขอไปดูคนเจ็บก่อน จะแจ้งความข้อหาพยายามฆ่าไม่ได้ ซึ่งตนเองก็ยังงงว่าทำไม เพราะจากบาดแผลที่น้องโดนก็คือการพยายามฆ่าแน่นอน อยากให้ตำรวจใช้ดุลพินิจให้รอบคอบ ส่วนตัวผู้จัดการหากรู้สึกตัว ตนเองก็ขอร้องให้ออกมารับผิดชอบในสิ่งที่กระทำลงไป ตนเองรู้ว่าคนเราเก็บกด บันดาลโทสะกันได้ แต่ทำแบบนี้มันเกินไป ถ้าญาติผู้จัดการโดนแบบนี้ และคนทำหนีไปไม่มารับผิดชอบจะทำอย่างไร
นางสาวสุมาลี (นามสมมติ) แม่ค้าขายไก่โอ่ง คนเห็นเหตุการณ์ ร้านตั้งอยู่ตรงข้ามกัน เล่าว่า เป็นช่วงเวลาประมาณ 08.30 น. ขณะนั้นตนเองกำลังนำไก่ลงโอ่ง พบว่าร้านส่งพัสดุมีพนักงานอยู่กันเพียง 2 คน ก่อนหน้านั้นเหมือนทั้งคู่ก็แยกย้ายกันทำตามหน้าที่อีกคนส่งของ อีกคนอยู่ร้าน แต่พบว่าพนักงานส่งพัสดุวนรถกระบะกลับมาที่ร้านอีกรอบ
จากนั้น ทั้งคู่ก็ยืนคุยกันและคาดว่ามีปากเสียงกัน โดยพนักงานส่งพัสดุลงมือต่อยฝ่ายผู้จัดการก่อน และคาดว่าผู้จัดการใช้หยิบกรรไกรแทงพนักงานส่งพัสดุตั้งแต่ในร้าน เนื่องจากตนเองมองเห็นทั้งคู่อีกทีคือพนักงานส่งพัสดุวิ่งออกมาจากร้านและขับรถกระบะออกไปทางซ้าย คาดว่าไปหากู้ภัยที่หัวโค้ง ในสภาพที่มีเลือดออกเต็มตัว ส่วนผู้จัดการถือกรรไกรมีรอยเลือดวิ่งจับรถจักรยานยนต์ได้และก็ขี่หนีไป
สำหรับตนเองคุ้นเคยกับฝ่ายผู้จัดการดี เพราะอยู่บ้านใกล้เคียงกัน ผู้จัดการก็เป็นคนปกติดี ไม่ได้เป็นคนใจร้อน เห็นทำงานด้านนี้ก็บริการลูกค้าเป็นปกติ ไม่เห็นเคยมีเรื่องกับใคร ส่วนพนักงานส่งพัสดุก็เป็นคนแถวนี้ แต่ตนเองไม่รู้จัก
นางลำดวน (นามสมมติ) น้าของนายอัศวิน เล่าว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องเมื่อตอนเที่ยง ตนเองอยู่ที่ อ.พนัสนิคม จึงขี่รถมาจะมาดูหลานเขย เพราะเป็นห่วง แต่มาก็ไม่เจอใคร ขณะเดียวกันยอมรับว่าตกใจมาก ไม่คิดว่าหลานเขยจะก่อเหตุแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่มาเป็นเขยที่นี่ก็เห็นว่าตั้งใจทำงานดี ไม่เคยเห็นไปมีเรื่องกับใครเลย ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองไม่ทราบรายละเอียด และไม่รู้เหมือนกันว่าหลานจะหนีไปที่ไหน ส่วนนี้ไม่ขอออกความเห็น ขอให้ตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอน
ด้านเจ้าหน้าที่ภูมิภาค ของบริษัทจัดส่งพัสดุ เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานใหญ่อยู่ระหว่างออกหนังสือชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยตนเองได้พยายามไปเข้าเยี่ยมพนักงานผู้บาดเจ็บ แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ไม่สามารถพบพนักงานผู้บาดเจ็บได้ พร้อมยืนยันว่าบริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งบริษัทมีกฎระเบียบการจัดการพนักงานภายในบริษัทอยู่แล้ว แต่ตอนนี้จะต้องสอบสวนทั้งคู่ก่อนจะมีการลงโทษอย่างไรต่อไป
นอกจากนี้ หลังมีเหตุการณ์เกิดขึ้นทางร้านก็ยังเปิดดำเนินการบริการลูกค้าปกติ โดยไม่ได้มีผลกระทบต่องานบริการลูกค้าแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่าทั้งคู่โตเถียงกัน และไม่พอใจกันเรื่องการสั่งงาน ที่ทางผู้จัดการสั่งงานพนักงานส่งพัสดุข้ามหน้าที่รับผิดชอบ โดยจากการดูภาพจากกล้องวงจรปิดนั้นพบว่าพฤติการผู้ก่อเหตุไม่ได้ตั้งใจ เพราะไม่ได้เตรียมการมาก่อน อาวุธกรรไกรที่ใช้เป็นอุปกรณ์ที่อยู่ในร้านอยู่แล้ว ส่วนบาดแผลผู้บาดเจ็บเบื้องต้นพบว่าไม่สาหัส คาดอีก 2 วันแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ เบื้องต้นมีการตั้งข้อหาผู้จัดการ ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ส่วนจะสาหัสหรือไม่ต้องดูใบรับรองแพทย์ก่อน ขณะนี้เตรียมออกหมายเรียกครั้งที่ 1 แต่เชื่อว่าไม่นานผู้ก่อเหตุคงเข้ามอบตัว แต่หากไม่มาก็จะดำเนินการออกหมายจับต่อไป