“นิว วงศกร” เผย “นาว ทิสานาฏ” ไฟเขียวเลิฟซีนได้เต็มที่ แต่ยอมรับก่อนออนแอร์ส่งให้ดูทุกครั้ง

ตั้งแต่ผันตัวมาเป็นนักแสดงอิสระหนุ่ม "นิว วงศกร" ก็ดูจะใช้ร่างกายเปลืองมากๆ เพราะไม่ว่าจะละครเรื่องไหน เอะอะก็ถอด โชว์กล้ามโชว์ซิคแพ็กแน่นๆ อยู่ตลอด

ล่าสุดได้เจอหนุ่มนิว มาฟิตติ้งละครเรื่องใหม่ ซึ่งดูจากบทแล้ว ก็ต้องถอดอีกตามเคย เลยอดแซวไม่ได้ว่า ใช้ร่างกายคุ้มจริงๆ หนุ่มนิว ก็เผยว่า ไม่ได้ถอดเยอะอะไร เป็นไปตามความเหมาะสมของบทเท่านั้น พร้อมบอกต่อว่า เรื่องนี้จะเน้นหนักไปในทางเลิฟซีนซะมากกว่า ทำเอานักข่าวแซวว่าขอหวานใจอย่างสาว "นาว ทิสานาฏ" หรือยัง เจ้าตัวก็เผยว่า ฝ่ายหญิงไม่เคยห้ามตนเลย บอกอีกด้วยว่า ถ้าจะเล่นก็ทำให้เต็มที่ เพราะเขาไม่ได้สั่งให้มีลิมิตถึงแค่ไหน แต่อย่างไรก็ตาม เวลาถ่ายฉากเลิฟซีนตนก็จะส่งไปให้เขาดูก่อนทุกครั้ง

ถามว่าเป็นการส่งไปให้ตรวจหรือเปล่า ตนว่าไม่เชิงให้ตรวจ แค่อยากให้เขาเห็นจากตน ก่อนที่จะไปเห็นตอนออนแอร์หรือว่าไปเห็นจากที่อื่น ตนจะได้ปลอดภัย (ยิ้ม) ถามว่าเขาหวงตนไหม ตนไม่รู้ต้องไปถามเขาเอง แต่ก็อยากให้หวงเหมือนกัน

ตั้งแต่เป็นนักแสดงอิสระก็ถอดทุกเรื่องเลย?
“ถอดอะไรครับ เรื่องนี้ถอดกางเกง(หัวเราะ) พูดเล่นครับ ไม่ได้ถอดเยอะ”

ถอดตลอดต้องมีความพร้อมขนาดไหน?
“ก็ต้องพร้อมตลอด การ์ดอย่าตก”

หุ่นเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ ต้องรักษายังไง?
“ผมเป็นคนชอบออกกำลังกายครับ พยายามไม่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ผมมีช่วงหนึ่งที่หยุดเล่นไปนานแล้วกลับมา ก็จะขี้เกียจ เราก็พยายามรักษาไว้ถึงแม้ไม่ได้ออกกำลังกายก็พยายามคุมอาหารเท่าที่ทำได้”

ต้องมีวินัยขนาดไหน?
“ผมไม่ได้เคร่งขนาดนั้นแต่โชคดีที่ผมเป็นคนชอบออกกำลังกาย เรื่องอาหารไม่ได้คุมว่าต้องกินหรือไม่กินอะไรแค่คุมเวลาในการกิน”

ถอดแต่ละเรื่องผู้กำกับรีเควสต์ยังไงบ้าง?
“ในละคร มุมกล้องชวนให้เราใช้จินตนาการ แต่เวลาถ่ายจริงๆ จะมีทีมงาน มีบล็อกช็อตที่รู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไรแค่ไหนกล้องเห็นแค่ไหน แต่ในละครที่ออนจะมีมุมกล้องให้เห็นเหมือนไม่ใส่อะไรเลย”

หุ่นของนิวต้องแต่งให้ชัดเพิ่มไหมเช่นไฮไลท์เพราะเราขาว?
“ไม่ๆ ได้แค่ไหนแค่นั้น มันขึ้นอยู่กับคาแรกเตอร์ของตัวละครด้วย เรื่องนี้เป็นอาจารย์ด้วย ไม่จำเป็นต้องชัดมาก แค่ดูรักษาสุขภาพ แข็งแรง เท่าที่ถ่ายมา 5 ตอนมีเลิฟซีนน้อย เราก็สบายใจ แต่มันจะไปหนักดราม่า อารมณ์ละคร”

แต่ที่ผ่านมาเรื่องนี้จะเป็นเลิฟซีนแรงช่วงปลาย?
“เหรอครับ ผมยังไม่เห็นครึ่งหลัง”

อย่างเรื่องที่ผ่านมากับผู้หญิง5คน ก็เลิฟซีนหนักหมด?
“ในเนื้อละครมันดูเยอะ แต่จริงๆ มันน้อยมาก ในบทมันมาเยอะแต่ผู้กำกับก็ช่วย ด้วยความที่นักแสดงหลายคนอาจจะไม่สบายใจไม่กล้า สมมติ ในบทมันจะมีบางซีนที่เอาไวน์ราดบนตัวแล้วเอาลิ้นไปเลีย แต่เราทำแบบนั้นไม่ได้มันก็จะมีการปรับให้เข้ากับบ้านเรามากขึ้น นักแสดงก็สบายใจมากขึ้น สมมติจูบ จูบจริงแค่ 3 วิ แล้วเปลี่ยนไปใช้มุมกล้องเอา ตอนที่จำเป็นที่กล้องเห็น”

แปลว่าจริงๆ ตัวเราก็มีลิมิต?
“ไม่ครับ จริงๆ เป็นเรื่องของผู้กำกับ เขามาแค่ไหนก็ได้แค่นั้นแล้วก็มีเรื่องของความเหมาะสมที่ผู้กำกับมีในใจ เรามีหน้าที่ถ่ายทอดความต้องการของผู้กำกับ”

เวลามีเลิฟซีนหนัก "นาว" ว่ายังไงบ้าง ดูแล้วต้องมีปิดตาข้างหนึ่งไหม?
“เขาปิดปากมากกว่า(ยิ้ม) เขาไม่เคยห้ามผม ถ้าจะเล่นก็ก็ทำให้เต็มที่ไม่ได้มีลิมิตว่าแค่ไหน แต่เวลาถ่ายเข้าฉากเลิฟซีนก็จะส่งไปให้เขาดูก่อน”

ส่งให้นาวตรวจ?
“ไม่เชิงให้ตรวจ ให้เขาเห็นจากเราก่อนที่จะไปเห็นตอนออนแอร์หรือว่าไปเห็นจากที่อื่น อย่างนี้เราจะปลอดภัย(ยิ้ม)”

แล้วตอนเขาเห็นตอนอ่อนแอเขามีว้าวไหม?
"ก็เขาเห็นจากอันนี้แล้วไง ตอนถ่ายจะมีเวอร์ชั่นดิบๆ ที่ยิ่งกว่าตอนออนแอร์อยู่แล้ว เขาก็ไม่ได้มีลิมิตอะไรเราก็ส่งให้เขาดูเพื่อให้รู้ว่าเรามาทำงานไม่ได้มีอะไรปิดบัง”

เขาหวงบ้างมั้ย?
“ต้องไปถามเขานะ ผมก็อยากให้เขาหวงแต่เขาไม่ค่อยแสดงออกเท่าไหร่บอกว่าเต็มที่เลย”

แล้วเราห่วงเขาบ้างไหมเพราะเขาต้องเรียนเรื่องแม่เบี้ยต้องโชว์เยอะ?
“เอาความจริงหรือว่าอะไร(ยิ้ม) ไม่(กัดฟันพูด) ไม่ได้หวงอย่างนั้นหรอกครับ เรารู้อยู่แล้วว่าลิมิตของการถ่ายละครมันแค่ไหน มันไม่มีอะไรที่เราต้องเป็นห่วงอยู่แล้ว”

แต่นาวบอกว่าเรื่อง แม่เบี้ย เล่นเปลืองตัวที่สุด ทั้งเซ็กซี่ทั้งเลิฟซีน?
“เขาก็โตพอที่จะเปลี่ยนคาแรกเตอร์หรือพัฒนาบุคลิกของตัวละครที่โตตามวัยเขาได้ ถ้าเล่นแบบนี้ในเวลาที่ไม่ใช่ตอนนี้อาจจะไม่ค่อยเหมาะ แต่ตอนนี้เขาโตพอที่จะได้ทดลองทำอะไรหลายอย่างที่เขาไม่เคยทำ”

แล้วเขามีส่งฉากให้เราดูบ้างไหม?
“มีครับ ก็ส่งกันไปส่งกันมา คือในกรุ๊ปของเราตอนนี้มีแต่เลิฟซีนทั้งนั้นเลย”

เพราะถ้าต่างคนต่างมาเห็นทีหลังจะมีอาการหรือเปล่า?
“ไม่ครับ เราชอบให้ดูว่าความสามารถของเราที่เราจะเล่น เราสองคนเป็นคนชอบดูซีรีส์ ชอบคิดว่าถ้าเรามีโอกาสเราจะเล่นอย่างนั้นอย่างนี้ เราจะคุยกันเรื่องของการทำงานวิธีการเล่นมากกว่าว่าฉากนี้จะเล่นแบบนี้ แล้วส่งมาให้ดูคอมเมนต์กันมากกว่า”

มีมาเกทับกันบ้างไหม?
“ไม่ๆ มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาเกทับกัน”