ชาวประมงนครศรีธรรมราชแห่หาไข่มุกที่อ่าวไทย หลังคนพบ "มุกสีส้ม" เม็ดใหญ่ราคาหลายสิบล้าน แต่กลับโชคดีพบ “อ้วกวาฬ” ที่มีราคาแพงมหาศาลไม่แพ้กัน
จากกรณีที่มีชาวประมงใน จ.นครศรีธรรมราช พบไข่มุกสีส้ม หรือ ไข่มุกเมโล หนัก 76 กรัม 38 กะรัต มูลค่าหลายสิบล้าน ทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างพากันออกไปยังชายหาด เพื่อตามหาไข่มุก เผื่อจะได้มีโชคดีเหมือนกันนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แตกตื่น! เจอไข่มุกอ่าวไทยสีส้มเม็ดใหญ่ นักธุรกิจจีนเตรียมบินขอซื้อมูลค่าหลายสิบล้าน
วันนี้ (3 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานเดินทางไปสังเกตการณ์พบว่าในช่วงกลางวันมีประชาชนประปรายเดินทางมาเดินตลอดแนวชายหาดเผื่อโชคดีพบหอยมุกแบบเดียวกัน ในขณะที่หลายคนได้ไปยังบ้านของนายอานนท์หรือ “บังหมัด” นิยมเดชา อายุ 60 ปี และนางเจ๊นะ นิยมเดชา อายุ 57 ปี สองสามีภรรยาที่ลูกชายพบหอยมุกมีเม็ดมุกสีส้มขนาดใหญ่อยู่ด้านในเพื่อขอดูเป็นบุญตา แต่เพื่อความปลอดภัย “บังหมัด” ให้ดูเฉพาะภาพถ่ายเท่านั้น เนื่องจากมีหลายฝ่ายประสานงานติดต่อเข้ามาจนสับสนไม่รู้ว่าใครหวังดีหรือร้าย
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีชาวบ้านแตกตื่นฮือฮากันอีกครั้ง เมื่อนายสะอาด เจ๊ะต่ำ อายุ 51 ปี อพบอำพันทะเล หรือ “อ้วกวาฬ” มีราคาแพงไม่แพ้มุกเมโลเช่นกัน จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนายสะอาด ได้นำอ้วกวาฬที่พบใส่ถุงบรรจุในถังมาให้ผู้สื่อข่าวดู โดยพบว่าอ้วกวาฬดังกล่าวเป็นก้อนสีขาว น้ำหนักประมาณ 5 กก. ส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณ
นายสะอาด กล่าวว่าชาวประมงพบสิ่งของที่คิดว่ามีค่าต่อเนื่อง นอกจากจำพวกข้าวของเครื่องใช้ต่างที่ถูกคลื่นซัดมาเกยชายหาดแล้ว ยังพบอ้วกวาฬหรืออำพันทะเลเป็นประจำ โดยในช่วงนี้หลังจากลูกชายของ “บังหมัด” พบหอยมุกสีส้มขนาดใหญ่ทำให้ชาวบ้านทั้งในและต่างพื้นที่แห่เดินทางมาสอดส่ายสายตาหาหอยมุกและของมีค่าอื่นๆ มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนจะคราคร่ำด้วยผู้คนแสงไฟระยิบระยับเต็มตลอดแนวชายหาดเกาะเพชรหลายร้อยเมตร ตนพบอ้วกวาฬจึงนำมาเก็บไว้ เพราะทราบว่าหากคุณภาพดี ราคาจะสูงถึงกิโลกรัมละ 1 ล้านบาท แต่ชาวบ้านที่พบก็ไม่รู้จะไปติดต่อขายที่ไหน ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวบ้านหลายรายพบแล้วก็ทิ้งไป ตนทราบว่าชาวบ้านในท้องที่หมู่ 9 ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร พบอ้วกวาฬหลายสิบกิโลกกรัมเก็บเอาไว้หลายเดือนแล้วยังขายไม่ได้เลย แม้ไม่ได้ราคาแพงตามที่เป็นข่าวก็ตามจึงอยากให้ผู้สื่อกลางช่วยประสานงานติดต่อกับผู้ซื้อให้มาซื้ออ้วกวาฬจากชาวบ้านด้วย อย่างน้อยก็เป็นความหวังให้ชาวประมงมีเงินมาจุนเจือครอบครัวในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดโควิด-19