หัวอกคนเป็นพ่อ! "อู๊ด เป็นต่อ" แจงโพสต์ให้ลูกดร็อปเรียน ยันเจตนาไม่ได้พาดพิงใคร

กลายเป็นเรื่องราวที่หลายคนกำลังพูดถึง สำหรับกรณีที่มีการเปิดเรียนวันแรก แต่กลับมีความวุ่นวายโกลาหลเกิดขึ้นเมื่อโรงเรียนใน อ.แม่สอด จ.ตาก ต้องสั่งปิดโรงเรียนกะทันหัน หลังมีข่าวเด็กนักเรียนติดโควิด-19 เรียกว่ากระเเสสังคมออกมาพูดวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างวงกว้าง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "อู๊ด เป็นต่อ" ไม่ท้อ! แม้สูญเงินนับล้านไปกับร้านชาบู
- เส้นทางชีวิต "อู๊ด เป็นต่อ" จากคอสตูมสู่ตลก
- “อู๊ด เป็นต่อ” โอดขาดทุนกว่า 10 ล้าน ! เหตุโควิดพ่นพิษ

เช่นเดียวกับนักแสดงชื่อดัง "อู๊ด เป็นต่อ" หลังจากเห็นข่าวก็ได้ออกมาแสดงความเห็นถึงเรื่องดังกล่าวผ่านไอจีส่วนตัว พร้อมโพสต์ภาพลูกสาวในชุดนักเรียน และแคปชั่นประมาณว่า “เปิดเทอมแล้วเป็นไง พบเด็กติดโควิดมาโรงเรียน 5 คน เปิดเพื่อ โคตรชะล่าใจ จะรอให้ติด โรงเรียนไหน ปิด โรงเรียน นั้นงิ้ เจ็ดแหม๋ม..!!! เด่วพี่ให้ลูกดร็อปเรียน

ล่าสุด อู๊ด ได้เปิดใจกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า โพสต์ดังกล่าว แบ่งเป็น 2 ประเด็น ประเด็นแรก คือ โพสต์ในลักษณะของความรู้สึกของคนเป็นพ่อที่ลูกเพิ่งเข้าโรงเรียน ก็แอบกังวล และเป็นห่วงว่าหากสถานการณ์โรคระบาดยังไม่ดีขึ้น การเปิดเรียนตามปกติมันจะดีหรือไม่ เพราะลูกของตนเองยังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ยิ่งพอมาเจอข่าวว่า มีนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งติดโควิด-19 เลยทำให้ตนตัดสินใจโพสต์ระบายในเชิงตลกขำๆ ว่าคงให้ลูกดร็อปเรียนไปก่อน

ประเด็นที่ 2 หลังจากที่ตนได้โพสต์เรื่องราวดังกล่าวไป ก็มีดราม่าเข้ามาโจมตีมากมาย มีการพาดพิงหาว่าตนเป็นสีโน้นสีนี้ หาว่าตนเป็นนักแสดงประกอบหิวแสง หรือออยากมีพื้นที่หน้าสื่อ ซึ่งความจริงตนอยากจะชี้แจงว่า การโพสต์ดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นการพาดพิง หรือต่อว่ารัฐบาลหรือหน่วยงานราชการ แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นในฐานะประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่พูดถึงเรื่องทั่วไปในสังคม

อย่างไรก็ดี อู๊ด ยอมรับว่า หลังเจอดราม่าหนักมากถึงขั้นลามปามไปถึงบุพการีด้วย ส่วนตัวไม่ได้โมโหหรือโกรธกับคนที่ต่อว่า พร้อมน้อมรับคำต่อว่า แต่อยากจะชี้เเจงว่าการโพสต์นั้น เป็นวิธีแก้ปัญหาในแบบของตนกับลูก ไม่ได้พาดพิงใครหรือต้องการต่อว่าใครอยากให้ทุกคนเข้าใจในจุดนี้

ส่วนธุรกิจ อู๊ด เผยว่า มีการปิดบางสาขา และปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดในส่วนของสาขาที่เปิดให้บริการอยู่ ทั้งนี้ทางร้านของตนเองก็พร้อมขานรับนโยบายของภาครัฐ หากมีคำสั่งให้ปิดร้านก่อนก็คงทำตาม ส่วนสาขาที่มีการซื้อเฟรนไชส์ไปก็เข้าใจพร้อมให้เขาปิดกิจการไป ตอนนี้ร้าน "ชาบูอู๊ดเป็นต่อ" จากที่มีอยู่กว่า 60 สาขา ตอนนี้ลดลงเหลือแค่ 20 สาขา ไม่เครียดเพราะมองว่าปัญหาตอนนี้เป็นันทุกคนไม่ใช่แค่ตนเพียงคนเดียว.