โชว์ฝีไม้ลายมือการแสดงมานับไม่ถ้วน ทั้งบทพระเอกแสนดี ตัวโกงสุดขั้ว ทำเอาแฟนละครอินหนักมาก ซึ่งด้วยประสบการณ์ ทำให้ "ต้น จักรกฤษณ์" สามารถแสดงเป็นตัวร้านได้หลายรูปแบบ ทั้งร้ายแอคชันต่อยตี ร้ายลึกแฝงความโหด หรือร้ายแบบกวนๆ ชวนขำ ก็ทำออกมาได้ดีทุกแนว ทำให้ชื่อของ "ต้น จักรกฤษณ์" อยู่ในทำเนียบนักแสดงระดับแถวหน้าของเมืองไทยอย่างไม่มีข้อครหาใดๆ ซึ่งล่าสุดเขาได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เปิดเส้นทางอาชีพนักแสดงคุณภาพกว่า 30 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ "4EVE" (โฟร์อีฟ) ปลุกกระแส T-POP ให้ลุกเป็นไฟ วงการเพลงต้องสะเทือน!
- "ดีเจเพชรจ้า" เล่าเหตุการณ์ชวนขนลุก เชื่อว่า "ไทก้า" คือกุมารที่มาเกิดเป็นลูกชายของตัวเอง
- คนดูอินจัด! เกือบทำ "หยา จรรยา" ลาวงการ หนีไปเมืองนอก เพราะบท "คนรับใช้"
- ต้อนรับการกลับมาของ "ลาบานูน" กับ Single ใหม่! #ดอกฟ้า เพลงรักสุดช้ำที่กระแสปังตั้งแต่ต้นปี
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม เห็นพี่ต้นในวงการนานมากแล้ว รับมาหลายบทบาทมาก อยู่ในวงการมาประมาณกี่ปี
ต้น จักรกฤษณ์ : ครั้งแรกที่เข้ามาเลย ไปถ่ายหนังสือเธอกับฉัน ตอนนั้นอายุ 17 ปีเอง แล้วตอนนั้นไม่ได้คิดเรื่องอยากอยู่ในวงการ แต่เรารู้สึกว่าได้ทำงานสนุกดี ได้เงินเอาไปให้แม่ คิดแค่นี้เอง เพราะเราก็เรียนหนังสืออยู่ด้วยในตอนนั้น ผมว่าเพราะด้วยสังคมบริบทตอนนั้น ในวัยเด็กอายุ 17 ปี มันยังไม่มีอะไรมากมายที่เกิดการเรียนรู้ทางความคิด หนึ่ง สอง สาม สี่ หรือมีโซเชียลต่างๆ เพราะตอนนั้นมีแค่เรียนหนังสือ ทำงาน ไปถ่ายแบบเจอคนเยอะแยะมากมายก็เป็นประสบการณ์ชีวิตอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งก็สนุกดี
ถาม ใครเป็นคนชักชวนเข้ามา
ต้น จักรกฤษณ์ : เดินอยู่ป้ายรถเมล์ ตอนนั้นเราเรียนช่างกลอยู่ เรากำลังเดินไปหาเพื่อน แล้วพี่พจน์เขาไปทำคอลัมน์ที่สถาบันก็เลยได้เจอกัน เขาก็ชวนเรามาถ่ายแบบครับ หลังจากถ่ายแบบ ก็ได้ไปถ่ายโฆษณา โตขึ้นมาอีกหน่อยก็ได้ไปถ่ายหนังสือ เดินแฟชั่นครับ เพราะสมัยนั้นมันเป็นแบบนั้น พอถ่ายแฟชั่น ก็จะได้ไปเดินแฟชั่น แล้วสมัยนั้นมีเดอะพาเลซ เราก็ไปเจอพี่ๆ ที่ไฟว์สตาร์ เขาก็บอกว่า พี่สมเกียรติ คุณานิธิพงศ์ อยากเจอเรา ก็ได้ไปเจอแล้วก็เกิดบุญชู 6 ขึ้น ซึ่งบุญชู 6 เป็นหนังเรื่องแรกของผม ซี่งผมก็เล่นเป็นธรรมชาติมาก เล่นเป็นต้นไม้กับก้อนหิน (เล่นแข็งมาก) เพราะเราไม่มีพื้นฐานการแสดงเลย ใครที่เห็นผมเล่นเรื่องบุญชู 6 คือ ธรรมชาติมาก แต่ก่อนแสดง เราก็มีเข้าคอร์ส มีทีมงานที่เป็นอาจารย์เกี่ยวกับแอคติ้งมาสอน เราก็ได้เข้าคลาสอยู่บ้าง แต่ไม่รู้เรื่อง
ถาม แล้วหลังจากหนัง พี่ต้นก็ค่อยๆ เติบโตมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็เข้าสู่วงการละคร
ต้น จักรกฤษณ์ : ถ่ายหนังได้ 2-3 เรื่อง ได้เจอพี่จิ๋ม มยุรฉัตร ได้เล่นละครเรื่องแรก เขาวานให้หนูเป็นสายลับ เล่นคู่กับคุณนก จริยา ครับ
ถาม ซึ่งบทที่ได้รับบ่อยที่สุด แล้วก็เป็นบทจำของพี่ต้นคือตำรวจ
ต้น จักรกฤษณ์ : เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง เราย้ายกองถ่าย ผมไม่ได้ขับรถไป แท็กซี่ดีกว่า แต่เราก็ใส่ชุดตำรวจที่เราใส่ถ่ายละครขึ้นรถไปแล้วก็มีมอเตอร์ไซค์ขี่มากวนข้างรถ เราก็หันไปมอง มอเตอร์ไซค์คันนั้นรีบแตะเบรคแล้วจอดเลย (หัวเราะ) แล้วมีไปถ่ายกันกลางถนนแต่ถนนเส้นนั้นเป็นทางลัดไปไหนสักที่หนึ่ง ซึ่งมันเปลี่ยวมาก ไม่มีไฟ แล้วรถสิบล้อวิ่งเร็ว กองถ่ายอยู่ข้างๆ ถ่ายฉากยิงกัน รถก็มาเรื่อยๆ ไม่มีใครหยุด เราก็ใส่หมวกไปโบกให้รถหยุด
ถาม พี่ต้นเล่นละครมา 20-30 ปี มีบทอะไรที่ยังไม่ได้เล่นอีกไหม อยากเล่นบทอะไร
ต้น จักรกฤษณ์ : เยอะมากครับ คอมเมดี้ก็เล่นแล้ว หนังวายก็เล่นแล้ว ไปหาดูย้อนหลังได้ครับ ผมเป็นหนึ่งคนที่โชคดีที่ผู้ใหญ่ทุกๆท่านก็เมตตา ทุกวันนี้ที่อยู่ได้ไม่ใช่เพราะฝีมือนะครับ อยู่ได้เพราะผู้ใหญ่รัก
ถาม เพราะความที่ผู้ใหญ่รัก ปีหนึ่งเคยมีละครติดต่อมา 11 เรื่อง
ต้น จักรกฤษณ์ : ปีนั้นเป็นปีที่น้ำท่วมกรุงเทพฯ คนอื่นเขาไม่ว่างมารับ เอาจริงมันก็ถ่ายไม่ได้ เพราะว่ามันได้ 7 ผู้จัดการเขาก็บอกเราว่ามีเรื่องนี้ๆ แต่ว่าผู้จัดการเขาไม่ให้เราทำ เพราะว่ามันตีกันเยอะเกินไป
ถาม แล้วเคยเล่นพร้อมกันทั้งหมดกี่เรื่อง
ต้น จักรกฤษณ์ : 4-5 เรื่อง มันทำได้เพราะว่าเราไม่ใช่พระเอก ตอนนึงจะมีอยู่ไม่กี่ฉาก
ถาม งานเยอะขนาดนี้ แต่ว่าเรื่องความรักก็ไม่แพ้กัน
ต้น จักรกฤษณ์ : ก็รู้จักกันมากับคุณสาว 17 ปี อยู่ด้วยกันมา 15 ปี
ถาม อยู่ในวงการมานาน แต่สิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้เลยคือพี่ต้นเป็นคนถ่อมตัว
ต้น จักรกฤษณ์ : ผมอยากจะบอกว่าที่เราแสดงมันคือสิ่งที่เราได้รับบรีฟมา เราคือคนที่ต้องถ่ายทอดสิ่งที่ผู้กำกับต้องการให้ออกมาขนาดไหน แต่ทั้งหมดต้องถามคนดูว่าชอบไหม มันจึงเป็นการยากที่จะเป็นเอาใครเป็นต้นแบบ มันขึ้นอยู่กับตอนนั้นเขาชอบแบบไหน แล้วมีอีกหลายคนนะครับ มีศักยภาพด้านการแสดงสูงมาก แต่เขาอาจะไม่ได้รับโอกาสจะถ่ายทอดโอกาสเหล่านั้น และผมจะเป็นคนหนึ่งที่จะไม่ตีความไปเอง แต่จะให้ผู้กำกับเขาบอกว่าอยากให้เราเป็นอะไร แบบไหน ยังไง เพราะถ้าเราตีความไปเอง สุดท้ายมันก็ต้องเปลี่ยนอยู่ดี อันนี้เป็นวิธีการคิดของผมนะ
ถาม แล้วเคยคิดไหมที่จะขยับขึ้นมาเป็นผู้กำกับหรือผู้จัดละครไหม
ต้น จักรกฤษณ์ : คนเป็นผู้กำกับ มีอย่างหนึ่งผมนับถือเลยนะ เขาต้องอยู่กับเรื่องทุกฉาก งานต้องอยู่ในตัวตลอด แล้วบางเรื่องสมัยนี้คือถ่ายกันปีกว่า อันนี้เป็นอะไรที่ยากมากสำหรับความรู้สึกของผม แต่ถ้าถามว่าอยากทำไหม ถ้าไม่มีเงื่อนไขอื่นๆ ที่ผมต้องจัดการกับชีวิตตอนนี้ สำหรับผมไม่ใช่เรื่องยาก แต่ตอนนี้คงยังครับ