คุณแม่สาวสวยสุดแซ่บที่กาลเวลาก็ไม่เคยทำอะไรเธอได้ "อ๋อม สกาวใจ" ได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show เปิดใจทุกเรื่องราวในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวความรักครั้งแรกที่คิดว่าจะเป็นรักเดียว แต่กลับไม่เป็นตัวของตัวเอง จนในที่สุดก็ได้มาเจอรักแท้กับ "เอ อาทิตย์" แต่ก็ใช่ว่ารักครั้งนี้จะไม่เจออุปสรรคอะไร เจอพิษแรงหึงจนเกือบไปกันไม่รอด พร้อมเปิดปมในใจที่มีต่อครอบครัว ไม่ว่าตัวเองทำดีแค่ไหนก็ไม่เคยได้รับคำชื่นชมจากคุณพ่อคุณแม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ล้วงชีวิต "นุ่น ดารัณ" เจอรักช้ำ ก่อนจะเจอรักแท้ที่อยู่ใกล้ตัวมาตลอด 20 กว่าปี
- เป็นเมีย "สุเทพ สีใส" เจอบูลลี่หนัก "เป็นผู้หญิงกลางคืนชัวร์ หน้าแบบนี้ ไม่มีเงินไม่เอาหรอก"
- รู้เขาหลอก แต่เต็มใจให้หลอก! "ศิรินทรา" สารภาพเคยแต่งงานกับผู้ชายมีเจ้าของ ถ้ามีลูกได้ 50 ล้าน!
- ชีวิตเปลี่ยน! "ทูน หิรัญทรัพย์" ฝึกอยู่ในโลกมืด รับเคยเครียดถึงขั้นคิดสั้น
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
อ๋อม สกาวใจ : คุณพ่อ คุณแม่ของอ๋อม จะไม่ค่อยแสดงความรักกับลูกสักเท่าไหร่ ท่านจะขี้อาย กอด บอกรัก ภูมิใจในตัวลูก หรือว่าลูกทำแบบนี้ดีแล้วนะ ชม แบบนี้ไม่มีเลย ทั้งที่เราเป็นลูกคนเดียว เขาจะตามใจเลย ไม่ว่าจะทำอะไรต่าง ๆตามสเต็ปอายุ เราตั้งใจทำทุกอย่าง งานหรือการเรียน ในใจอ๋อมคิดเสมอว่าฉันจะทำให้พ่อแม่ภูมิใจให้ได้ เพราะว่าพ่อแม่ไม่เคยชม ทำไมบ้านอื่นเขายังกอดกัน บอกรักกัน ทำไมเขายังดูเฮฮา เขารักเราแหละ เขาไปบอกคนอื่นว่าลูกเราดีแบบโน้นนี่ แต่ต่อหน้าเรา เขาไม่พูด เราก็พยายามไปกอดเขา แต่เขาก็ไม่ให้กอด เพราะเขาจะเขิน ตอนเด็กๆ เขาก็กอดนะคะ แต่โตมาเขาคงเขินเลยไม่กอด
ถาม แล้วมีวันไหนที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราได้แล้วคำชม ฉันได้แล้วกับความภูมิใจที่ฉันเฝ้ารอมาตลอด
อ๋อม สกาวใจ : จริงๆ ก็มีนะคะ แต่อ๋อมอยากให้เขาชมเราทุกวัน (เสียงสั่น น้ำตาคลอ) อยากให้ชม อยากให้ภูมิใจว่าลูกคนนี้เก่งนะไม่ใช่อ๋อมทำอะไรแล้วไม่มีการพูดเลยว่าแบบอันนี้ดีแล้ว อันนี้ถูกแล้ว อันนี้อ๋อมทำดีแล้ว ส่วนใหญ่คุณพ่ออ๋อม เขาจะเป็นคนมองโลกตรงกันข้าม เพราะอ๋อมเป็นคนมองโลกในแง่ดีมาก แต่คุณพ่อเป็นคนมองโลกที่แบบว่าระมัดระวัง ด้วยความที่เขาเป็นผู้ใหญ่ อาบน้ำร้อนมาก่อน เขาจะเป็นคนที่เก่งในสายตาอ๋อม เป็นฮีโร่มาก ไม่ว่าพ่อจะทำอะไร อ๋อมจะรู้สึกภูมิใจมาก พ่อเราเก่งมาก ทำงานก็ดี แม่เราก็เป๊ะเนี๊ยบอะไรทุกอย่าง แต่ว่าความภาคภูมิใจ อ๋อมไม่เคยได้ แต่อ๋อมก็รู้ว่าเขาภูมิใจเราแหละ แต่ก็บอกก็ได้ แบบอันนี้พ่อภูมิใจนะ อันนี้อ๋อมเก่งมากเลย แค่นี้อ๋อมก็ภูมิใจแล้วค่ะ
ถาม แต่เราก็มีความเข้าใจผิด คิดว่าคุณแม่ไปเอาลูกพี่ลูกน้องมาเลี้ยง แล้วเราเลยรู้สึกว่าทำไมแม่เลี้ยงน้อง รักน้อง
อ๋อม สกาวใจ : เป็นปมตอนเด็ก จริงๆ แล้วคุณแม่อ๋อมไม่ได้เลี้ยงอ๋อม เพราะคุณพ่อคุณแม่ทำงานที่หนังสือพิมพ์ คุณพ่อเป็นคอลัมนิสต์ คุณแม่ก็ต้องไปทำงานที่ออฟฟิศที่เดียวกัน แต่คุณพ่อจะทำงานอยู่ที่บ้านได้ เลี้ยงลูกได้ ส่วนคุณแม่จะไม่ได้เลี้ยงเราเลย พอเราโตขึ้นมา ก็จะมีคุณอา คุณอาท้องแล้วคลอดลูกออกมา แล้วเป็นช่วงจังหวะที่งานคุณแม่สามารถกลับบ้านได้ ไม่ต้องทำงานประจำแล้ว เขาก็มาช่วยดูแลน้อง น้องเขาก็จะผูกพันกับแม่มาก แล้วแม่ก็จะรักน้องอ๋อมมาก เขาเลี้ยงน้องตั้งแต่แรกเลย แต่ว่าด้วยความที่เราเป็นพี่ พอน้องร้องนิดนึง เราก็เอาแล้วโดนตีแล้ว เราก็รู้สึกว่าเรายังไม่ได้ทำอะไรเลย เรานั่งทำการบ้านอยู่ในห้อง แล้วทำไมต้องมาตี อย่างซื้อของต่างๆ นานา ก็จะให้น้องก่อน เราได้ทีหลัง เราเข้าใจนะคะ แต่ก็น้อยใจ เพราะตอนนั้นเราก็เด็กมาก
ถาม ปมนี้มันผ่านพ้นไปแล้วไหม
อ๋อม สกาวใจ : ผ่านพ้นค่ะ เพราะคุณแม่เขาก็ไม่รู้มาก่อนว่าเรารู้สึกแบบนี้ พอเราบอกว่าเรารู้สึกยังไง พอพูดจบ แม่เขาหันมา แล้วเขาก็ร้องไห้ใส่เรา เราก็ร้องทำไม แม่เขาก็บอกเราว่าอ๋อม รู้ไหมว่าแม่รักอ๋อมมาก (เสียงสั่น น้ำตาคลอ) เขาก็มากอดเรา เราก็รู้สึกว่าโล่งเลยค่ะ ทุกอย่างหายหมดเลย จากที่แบบเราน้อยใจอะไรต่างๆ นานา น้อยใจมากสุดๆ ว่าเราเป็นพี่ เราทำอะไรไม่เคยถูกเลยเหรอจนแม่มากอดวันนั้น เหมือนมันปลดล็อคหมดเลย ความน้อยใจอะไรมันหายไปเลย อ๋อมก็ร้องไห้ แม่ก็ร้องไห้ เราก็บอกแม่ว่าที่อ๋อมพูดมาทั้งหมด อ๋อมเข้าใจทุกอย่างเลยนะ แต่แม่เขาก็บอกว่าแม่ไม่เคยรู้เลยว่าอ๋อมรู้สึกแบบนี้มาก่อน ซึ่งกว่าเราจะพูดให้เคลียร์ใจนี้ได้คือ ทำงานแล้ว เรียนปริญญาตรีแล้วตอนนั้น สิ่งที่อ๋อมอยากบอกกับคุณพ่อคุณแม่แล้วก็น้อง รักที่สุด รักเท่าฟ้า รักที่หนึ่งอยู่แล้วสำหรับคุณพ่อ คุณแม่ ส่วนน้องปราง อ๋อมก็รักน้องตั้งแต่เด็ก แต่ด้วยความเด็กตอนนั้นเราก็รู้สึกอิจฉา ทำอะไรก็ถูกไปหมด อย่างที่แม่บอกเราเคยคิดจะฆ่าน้องด้วย แต่อ๋อมก็รักทั้งหมดค่ะ
ถาม สเปกของอ๋อมจะต้องเป็นแบบไหน
อ๋อม สกาวใจ : หล่อ ฉลาด ดูดีค่ะ แต่ก็มีคนเข้ามาจีบเราด้วยวิธีหลายๆ แบบนะคะ อย่างมีคนหนึ่งเขาเป็นลูกครึ่งด้วย สเปก อ๋อม ตอนเด็กๆ เราชอบตี๋ๆ เก่ง เหมือนพี่ดู๋ สัญญา และอีกสเปกคือชอบลูกครึ่งฝรั่ง ลูกเกิดมาต้องน่ารักมากๆ เลย เพราะเป็นคนคิดไกล คิดถึงอนาคตตลอด แล้วลูกครึ่งคนนี้ เขาโทรมาติดต่องานให้เราเหมือนไปเป็นหุ้น แล้วก็ไปเป็นพรีเซนเตอร์ด้วย นัดไปคุยงาน คุณพ่อคุณแม่ก็ไปด้วยกับเราตลอดอยู่แล้ว เป็นโปรเจกต์ใหญ่มากเลย เป็นพันล้าน เราพอขึ้นรถก็บอกพ่อ เรารวยแล้วนะ (หัวเราะ) เราจะมีเงินพันล้านแล้วนะ คุณพ่อก็บอกว่ามันง่ายไปไหม การคุยมันดูแปลกๆ นะ เราก็รู้สึกว่าไม่เห็นแปลกเลย เขาก็โทรหาเราทุกวันเป็นเดือนๆ เลย จนมีอยู่วันหนึ่งเขาบอกเราว่า น้องอ๋อม ทำไมไม่ไปไหนมาไหนคนเดียวบ้าง ให้พี่ไปส่งไหม เราก็รู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว ไม่ได้คุยงาน คุยเรื่องส่วนตัวแล้ว รู้สึกว่าแปลกแล้ว แล้วโปรเจกต์พันล้านล่ะ เพราะใจเราไม่ได้สนผู้ชายเลย สนเงินอย่างเดียว พอคนนี้โทรมาคือให้คุณพ่อคุย ไม่คุยแล้ว แปลกๆ จนเขาหายไป เพราะว่าคุณพ่อเขาก็เป็นคนตรงๆ เขามาเสนอรถ บ้านแถวสุขุมวิท เขาบอกว่าเขามีหลายหลังเลย เราก็บอกเขาว่าไม่จำเป็น ไม่ต้องค่ะ เรารู้สึกว่าเขามาซื้อเรา เราทำงานหาเงินเองได้ ไม่ต้องมาเป็นขี้ปากคนไหม
ถาม เป็นสาวสวยขนาดนี้ มีใครทำให้อกหักบ้างไหม
อ๋อม สกาวใจ : จริงๆ ชีวิตนี้มีแฟนแค่สองคนเองนะคะ มีแฟนแล้วก็สามีเลย
ถาม รักจริงจังที่เป็นแฟนครั้งแรก
อ๋อม สกาวใจ : มันไม่เป็นตัวของตัวเอง ติสท์มาก คือคนนี้ก็เป็นคนในสเปกเราเหมือนกัน ดูเซอร์ๆ สุภาพเรียบร้อยดี ตอนที่มาจีบเรา แต่ที่เรารู้สึกว่าเราไม่เป็นตัวของตัวเอง เพราะตอนที่เขาพูดแล้วอยากจะทำให้เขาพอใจ อย่างเขาดูทีวีอยู่แล้วเขาชมว่าคนนี้ใส่กางเกงตัวนี้สวยจัง เราก็ไปซื้อกางเกงแบบนั้นมาใส่เพื่อให้เขาชอบ ถามว่าเราชอบเขามากไหม อาจจะเป็นความลุ่มหลงนะคะตอนนั้น ไม่รู้ว่ารักหรือเปล่า แรกๆ อยากจะทำให้เขารักเรามากๆ ซึ่งสิ่งที่เราทำ เราทำให้เขาเอง เขาไม่ได้บอกให้เราทำ เขาไม่ได้ขอ แต่เขาพูดเป็นนัยว่าทำแบบนี้ดี ทำแบบนั้นดี
ถาม ก็มาถึงตอนที่อึดอัดจนร้องไห้หน้ากระจก เหมือนตอนเด็กๆ อีกแล้ว
อ๋อม สกาวใจ : เป็นมนุษย์ที่มีความอดทนสูง การที่จะเปลี่ยนใครคนหนึ่งต้องใช้เวลา เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยเทคแคร์ดูแลเอาใจใส่ ซึ่ง อ๋อมบอกตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่าเป็นคนขี้เหงา ต้องการคนมาดูแลเอาใจใส่ ไม่ได้ขาดความอบอุ่น แต่ต้องการความอบอุ่นตลอดเวลา ซึ่งเขาไม่มี เพราะเขาเป็นลูกคุณหนู มีแต่คนทำให้ ความเป็นสุภาพบุรุษมีความสำคัญต่อผู้หญิงเหมือนกัน อย่างเราถือของมากเยอะมากแต่ถ้าผู้ชายช่วยเราถือสักชิ้น สองชิ้นก็ได้ใจเราแล้ว แต่คนนี้คือไม่ค่ะ เพราะเขาเป็นคุณหนู เราก็เลยรู้สึกว่าหรือไม่มีเขาก็ได้ แรกๆ มันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะคะ แต่มันก็เป็นการเก็บเล็กผสมน้อยเรื่อยๆ มาจนประมาณ 6 ปี เราก็มองกระจกทำไมไม่ตลกเลยช่วงนี้ เพราะปกติเราเป็นคนสนุก เฮฮา ร่าเริง หัวเราะ ทำไมช่วงนี้ไม่ตลกเลย ทำไมไม่ยิ้มเลย เพราะอ๋อมฝังใจที่คุณพ่อคุณแม่เป็นแฟนคนแรกของกันและกัน เราก็อยากมีแฟนคนเดียว เราก็บอกเลิกหลายครั้งเลย บอกครั้งแรก เขาก็ขอโอกาสแก้ตัว เราก็ให้เวลา ให้โอกาส บอกครั้งที่สอง เราก็ให้เวลา โอกาส แต่ครั้งสุดท้าย เราอยู่กับคนนี้ ทำไมเราไม่มีความสุขเลย เราไม่อยากเจอแล้ว เพราะเราเหมือนอดทนกับเขามาเรื่อยๆ ทนจนไม่ไหว แต่อ๋อมคิดว่าเขารักเรานะคะ แต่ทัศนคติของเขากับเรามันไม่ได้เดินไปด้วยกันได้ เขาก็ไม่ผิดที่เขาเป็นแบบนั้น เพราะมันเป็นตัวของเขาเอง แต่เราดันไปเปลี่ยนตัวเองเอง ครั้งสุดท้ายที่เราบอกเลิกคือเราไม่ร้องไห้แล้ว เรารู้สึกพอ เขาก็เงียบไปเลย เราก็รู้สึกอกหัก เพราะเราจะไม่ได้ใช้ชีวิตตลอดชีวิตกับคนนี้แล้ว เพราะเราอยากมีแฟนคนเดียว ร่างกายเราอยากให้คนคนเดียว ไม่อยากให้มันไปซ้ำ เพราะจะไปมีแฟนใหม่เริ่มใหม่อีกแล้วเหรอ บทเรียนที่เราได้รับจากความรักครั้งแรกที่อ๋อมได้รับคือ การเป็นตัวของตัวเองสำคัญมาก มเราเปลี่ยนแปลงเพื่อใครคนหนึ่ง มันก็เปลี่ยนได้ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เราต่อไปเราจะเจอใครสักคนเราจะเป็นตัวของตัวเองแล้วนะ อ๋อมก็จะบอกกับตัวเองในกระจก (หัวเราะ) เพราะเราไม่มีพี่น้อง ะทุกครั้งที่เราเปล่งเสียงออกมา ตอนที่เราอยู่หน้ากระจก เพราะไม่ไหวแล้วจริงๆ
ถาม ก่อนจะอยู่กันมายาวนาน 12 ปีนี้ก็ผ่านอะไรมา โดยเฉพาะความหึงจนเกือบจะไปไม่ถึงการเป็นสามีด้วย หึงถึงขั้นจะเลิกเลย
อ๋อม สกาวใจ : ถึงขั้นจะเลิก เพราะว่ามันทะเลาะกันทุกวัน แต่ก็หลายๆ เรื่องปนกันนะคะ เพราะว่าเขาเป็นคนแบบอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆบางทีก็เงียบ เหมือนเขาคิดงานอยู่ เขาก็จะเงียบ แต่บางทีเราไม่เข้าใจ ถ้าโทรมาต้องรับ แล้วมีอยู่งานหนึ่งที่พัทยา เราไปเป็นพิธีกรกับน้าเน็กนะคะ แล้วงานเลี้ยงมันเลท ในใจเราตอนนั้นคิดแล้วว่าเลท ทำไงดี พี่เอโทรมาแล้วไม่ได้รับ แล้วโทรศัพท์ไม่ได้อยู่กับตัว ทะเลาะแน่นอน แล้วเป็นแบบนั้นจริงๆ พอเราดูมือถือ ตายแล้ว 100 กว่า Misscalls เราก็แบบตายแล้ว อ๋อม ตายแน่ เราก็บอกพ่อว่าไปเร็วพ่อ กลับบ้านเร็วๆ เลย ซึ่งเวลาอ๋อมไปงานคือไปกับพ่อมาตลอดชีวิต จากคุณพ่อ เขาก็ส่งไม้ต่อมาเป็นพี่เอ เราไม่เคยไปไหนคนเดียว เราก็ไม่เข้าใจว่าเขาหึงทำไม แล้วก็โทรไปก็ไม่ติด เพราะเขาปิดมือถือ แล้วก็อยู่ๆ มีข้อความขึ้นมา เราเลิกกันเถอะ เราก็พยายามโทรไปก็ไม่รับ เขาก็ปิดมือถือ เราก็ทำยังไงมันไม่เคลียร์ เราก็ไปหาเขา ซึ่งพ่อเห็นว่ามันดึกแล้ว พ่อก็ไปด้วยกันเรา แล้วพอคุณแม่เห็นว่าเราจะออกไป คุณแม่ก็ไปด้วย ไปกันทั้งครอบครัวเลยค่ะ (หัวเราะ) พอถึงบ้านเขา เซอร์ไพรส์มาก เพราะเขาไม่อยู่บ้าน เราก็ไม่กลับ รออยู่หน้าบ้านเขา 2 ชั่วโมง ก็รออยู่ในรถพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่ด้วย แล้วพอ 2 ชั่วโมงผ่านไป คุณเอเขาโทรมาถามว่าอยู่ไหน เราก็บอกว่าอยู่หน้าบ้านเอ เขาก็ถามเราว่ามาทำไม ก็บอกเลิก เราก็ต้องมาอธิบาย แล้วก็โทรไปไม่ติด เขาก็บอกว่าให้เรากลับบ้าน เราก็ไม่กลับ รออยู่หน้าบ้านกับพ่อกับแม่ เขาก็บอกว่ากลับบ้านเลย เพราะเขาอยู่กาญจนบุรี เราก็ยอมกลับ แล้วก็ไปโทรศัพท์เคลียร์กับเขาที่บ้าน เราก็อธิบายให้เขาฟัง เขาก็เข้าใจ แฮปปี้ กลับมาคบกันต่อ แล้วมีครั้งหนึ่งขับรถไปด้วยกัน เราเคยทะเลาะกัน เพราะความเงียบของเขา ความไม่เข้าใจต่างๆ นานา เรื่องเดิมๆ แล้วเขาก็เงียบไป พอเราหันมาคือเขาเปิดประตูรถแล้ววิ่งไปเลย เขาก็ทิ้งรถไว้เลย เราก็ต้องข้ามเกียร์ไปขับรถกลับบ้านเอง พอเขาถึงบ้าน ก็โทรมาหาเราว่าไปไหน ก็กำลังขับรถกลับบ้าน เราก็ถามว่าจะวิ่งลงรถไปทำไม วิ่งไม่ทัน แต่ว่าตอนนั้นไม่ได้อารมณ์สนุก เครียด) เราก็มาคุยกันปรับความเข้าใจกันเรื่องที่ทะเลาะ
ถาม แต่ก็มีที่ อ๋อม ลงจากรถเหมือนกัน
อ๋อม สกาวใจ : ใช่ค่ะ เพราะวันนั้นเรารู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว จะเลิกแน่นอน เพราะรู้สึกว่าทะเลาะทุกวันเลย เหนื่อย แล้ววันนั้นก็ทะเลาะกันในรถ จนไม่ไหวแล้ว พอดีติดไฟแดงพอดี เราก็เปิดประตูแล้วก็เดินลงไปเลย เขาก็เรียกขึ้นมา เราก็บอกว่าไม่ขึ้น แล้วบังเอิญมีรถสองแถวอยู่ข้างหน้า คนในรถเยอะมาก แล้วหันมามองเราทั้งคันเลย เพราะเราเสียงดังมาก แล้วเราก็รู้สึกว่าทำไงดี เราก็เลยกลับขึ้นรถ แล้วพอไปส่งบ้านแล้ว อ๋อมก็ตัดสินใจว่าครั้งนี้ ถ้าเกิดคุยกันไม่รู้เรื่องอีก เลิกแน่ๆ เพราะทุกครั้งที่ทะเลาะ เราจะเป็นคนง้อ แต่ครั้งนี้เราปิดมือถือเลยแล้วนอน ตื่นเช้ามาเขาก็โทรมาบอกว่าเมื่อวานขอโทษนะ เราก็ปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง หลังจากนั้นเราก็ไม่ทะเลาะกันอีกเลยค่ะ แล้วมาทะเลาะกันอีกครั้งที่ตอนที่เรามีลูกแล้ว เพราะอารมณ์คนท้องมันเซนซิทีฟด้วย ฉันจะต้องเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเหรอ ฃฉันจะต้องเลิกกับสามีเหรอคือคิดไปเองล้วนๆ
ถาม พอแต่งงานกับสามีแล้ว อ๋อมคือคนที่ใจกว้างมากเปิดโอกาสให้สามีลงอ่างได้
อ๋อม สกาวใจ : ได้เลย เพราะถ้าเราอนุญาตแล้ว ไปจะไม่ผิด ถ้าไปลับหลังแล้วเรามารู้ เราจะรู้สึกว่าโกหก แต่เขาก็ไม่ไป เราพูดให้เขาไปจริงๆ
ถาม คิดว่าอะไรที่ทำให้คู่ที่ทะเลาะกันบ่อยๆ มากแต่ยังรักกันถึงทุกวันนี้
อ๋อม สกาวใจ : คิดว่าเรารักเขาที่เขาเป็นเขา แล้วเขาก็รักเราที่เราเป็นเรา แล้วก็หมั่นเติมความรักให้กันทุกวัน ทัศนคติต่างๆ ต้องไปในทิศทางเดียวกันด้วย 19 ปีถามว่าเบื่อไหม อ๋อมบอกได้เลยว่าไม่เคยเบื่อเลย เขาบอกเหมือนกันว่าไม่เคยเบื่อเลย เหมือนรักมันเพิ่มขึ้นทุกวัน อะไรที่สามารถพูดคุยกันได้ในเรื่องของความไม่เข้าใจกัน ก็ต้องปรับ ไม่ต้องมีทิฐิหรอก ถ้าเรื่องไหนเราไม่ผิด ก็ขอโทษไปเถอะ เราก็ต้องเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ คู่ที่ใช่มันก็คือใช่ จริงๆ อ๋อมไม่ค่อยออกสื่อด้วยค่ะ เรื่องส่วนตัวนี่เป็นรายการแรกเลยที่ได้มาพูดความในใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก เรื่องครอบครัว เรื่องทุกอย่างเลย ไม่ค่อยมีมุมนี้ เพราะว่าคนส่วนใหญ่จะดูแล้วว่าเป็นคนตลกสนุกสนาน นี่เป็นรายการแรกเลย
ดูคลิปย้อนหลังรายการ Club Friday Show ได้ทางยูทูป