“เกริก ชิลเลอร์” เปิดใจหลังสูญเสียพ่อบุญธรรมจากโควิด-19 ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะติดมาจากโรงพยาบาลในอเมริกาเพราะท่านเดินทางไปฟอกเลือดเป็นประจำ พร้อมเผยถึงคำสอนที่ได้รับจากพ่อบุญธรรม คือ เรื่องการรักษาครอบครัวแล้วสนุกกับทุกเรื่อง อย่าโกรธหากใครทำไม่ดีกับเรา “ถึงแม้ชาตินี้ผมจะไม่ได้เป็นลูกของเขาจริงๆ แต่ชาติหน้าขอให้ได้เป็นพ่อลูกกันจริงๆ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สุดเศร้า “เกริก ชิลเลอร์” สูญเสีย “พ่อบุญธรรม” จากโควิด19
“เกริก ชิลเลอร์” เปิดใจกับอมรินทร์ทีวี หลังการจากไปของคุณพ่อบุญธรรมวัย 67 ปี ที่เสียชีวิตเนื่องจากติดเชื้อโควิด-19 ในลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะติดมาจากโรงพยาบาลในอเมริกา ช่วงประมาณกลางเดือนมกราคม 2564 ที่ท่านเดินทางไปฟอกเลือดเป็นประจำ เพราะจากที่ดูไทม์ไลน์ก็มีเพียงแค่ 2 สถานที่ที่ท่านเดินทางอยู่บ่อยๆ คือ ซุปเปอร์มาร์เก็ต กับ โรงพยาบาลเท่านั้น
มิหนำซ้ำ อีกเรื่องน่าเศร้าคือเมื่อทราบว่าผลการตรวจคุณพ่อบุญธรรมเป็นบวก ทางครอบครัวก็เลยพาคุณย่าและคุณอาที่อยู่ในบ้านเดียวกันไปตรวจ ซึ่งผลที่ออกมาคือ คุณย่าติดเชื้อด้วย ทั้งๆ ที่ร่างกายแข็งแรงมาก ส่วนด้านของคุณอา ผลยังคงเป็นลบ แต่ “เกริก ชิลเลอร์” ก็เชื่อว่าน่าจะติดกันทั้งหมด เพียงแค่คุณอายังไม่แสดงอาการก็เท่านั้น
หลังจากนั้นเมื่อประมาณ 5 วันที่ผ่านมา คุณย่าก็ส่งข้อความมาบอกว่าคุณพ่อบุญธรรมอาการเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ อยากให้ตนภาวนาเผื่ออะไรจะดีขึ้น แต่เมื่อตัวเองโทรไปพูดคุยก็รู้เลยว่าน้ำเสียงของคุณพ่อไม่ดีเลย หายใจติดขัดตลอด เนื่องจากปอดถูกทำลายไปหมดแล้ว จึงเลือกที่จะบอกรักเขา พูดความในใจทุกอย่างที่มี เพื่อไม่ให้มีอะไรติดค้างกันหากสูญเสียคุณพ่อไป
พร้อมกันนี้ “เกริก ชิลเลอร์” ก็ได้เล่าถึงความสัมพันธ์ของจุดเริ่มต้นที่นับถือผู้ชายคนนี้เป็นพ่อบุญธรรมว่า
หากตามศักดิ์แล้ว เขาเป็นน้าเขยที่อ้าแขนรับเลี้ยงตนสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นและไม่มีที่ไป ทั้งๆ ที่ตอนนั้นลำพังเขาก็มีลูกถึง 3 คน ทุกคนอยู่ในวัยกำลังโตและต้องรับผิดชอบหนักอยู่แล้ว ทำให้ได้ซึมซาบถึงความรักที่ผู้ชายคนนี้มอบให้ ทั้งเรื่องของการทำงานและอารมณ์ขัน พูดคุยกันได้ทุกอย่าง ถือเป็นความผูกพันที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว มากกว่าพ่อจริงๆ ก็ว่าได้ จนนานวันเข้าก็ยิ่งซี้กันตราบจนปัจจุบัน จึงยกให้เขาเป็นทุกอย่างในชีวิต ทั้งน้า เพื่อน ครูและพ่อ
เมื่อถามว่าวันนี้ยังมีอะไรติดค้างที่อยากจะทำให้คุณพ่อบุญธรรมคนนี้อีกไหม “พี่เกริก” ก็ยอมรับหรือว่าทุกอย่างได้ทำและเติมเต็มในสิ่งที่ขาดให้กันไปหมดแล้วจริงๆ ดังนั้นหากผู้ชายคนนี้ไม่อาแขนรับต้นในวันนั้นก็คงไม่มีผู้ชายที่ชื่อว่า “เกริก ชิลเลอร์” ในวันนี้
พร้อมเผยถึงคำสอนที่ได้รับจากพ่อบุญธรรม คือ เรื่องการรักษาครอบครัวแล้วสนุกกับทุกเรื่อง อย่าโกรธหากใครทำไม่ดีกับเรา จนทำให้ตัวเองกลับมาฉุกคิดได้ในวันนี้ว่าหลายๆอย่างที่ตนเป็นอยู่ก็มาจากการซึมซาบคำสอนของเขานั่นเอง
ก่อนที่ “พี่เกริก” จะบอกกับเราพร้อมน้ำตาว่า “ถึงแม้ชาตินี้ผมจะไม่ได้เป็นลูกของเขาจริงๆ แต่ชาติหน้าขอให้ได้เป็นพ่อลูกกันจริงๆ”