วันที่ 14 ก.พ. 64 เมื่อเวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาสำนักงานมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ จุดอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เพื่อขอพบกับหัวหน้าหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ จุดอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
สืบเนื่องจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจ จุดอำเภอเชียงแสนได้จัดงานทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อหาทุนหลักทรัพย์มาจัดซื้ออุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัย และเพื่อใช้ในกิจการกู้ภัย และในช่วงเช้าได้มีการแห่องค์ผ้าป่า และในช่วงเย็นมีงานเลี้ยงเพื่อขอบคุณผู้ที่มาร่วมงานทั้งอาสาสมัคร และจิตอาสาประชาชนที่มาร่วมงาน
โดยมีการจัดงานเลี้ยงในช่วงเย็น และมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเปิดเพลงจากเครื่องเสียงรถยนต์ เพื่อสร้างความครึกครื้นมีการขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงแสน และเจ้าของสถานที่ไว้แล้ว ซึ่งร้านคาร์แคร์มีการลงโพสต์ว่ามีการเปิดเพลงดัง กลุ่มกู้ภัยจึงเข้าไปเคลียร์ที่ร้านคาร์แคร์และเกิดการทำร้ายร่างกายกันขึ้น
นายกิตติพันธ์ สุนันต๊ะ อายุ 36 ปี พนักงานร้านคาร์แคร์ เล่าว่า เมื่อคืนนี้ภายหลังจากปั๊มน้ำมันได้ปิดบริการเวลา 21.00 น. ตนเตรียมนอนภายในห้องพักของร้านคาร์แคร์
จนถึงเวลาประมาณ 22.00 น. ได้ยินเสียงเพลงพี่เปิดดังมาจากด้านหน้าปั๊ม บริเวณหน้าตึกของจุดบริการหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ จุดอำเภอเชียงแสน จึงเดินไปบริเวณหน้าปั๊มแล้วใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปวิดีโอและมาโพสต์ในกลุ่ม
ภายหลังจากโพสต์ไม่ถึง 15 นาที ก็มีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสยามรวมใจ นำรถยนต์ตู้ติดโลโก้หน่วยกู้ภัย พร้อมติดไฟไซเรนเข้ามาจอดบริเวณจุดเติมลมของปั๊มน้ำมัน และมีรถจักรยานยนต์อีกจำนวนหลายคัน ขับเข้ามาจอดบริเวณด้านหน้าคาร์แคร์ มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณกว่า 20 คน เดินเข้ามาภายในคาร์แคร์และถามว่า "ใครเป็นคนโพสต์" ซึ่งตนได้ตอบไปว่าตนเป็นคนโพสต์เอง ก่อนจะถูกทำร้ายร่างกาย
ด้านนายสุทธิโชค ภูมิตัน อายุ 36 ปี เจ้าของร้านคาร์แคร์ เล่าว่า ช่วงกิดเหตุตนบอกกลุ่มกู้ภัยไปว่า ตนเป็นผู้อนุมัติโพสต์เพราะเป็นแอดมินของเพจข่าวดังกล่าว จากนั้นก็มีวัยรุ่นจำนวน 3-4 คน เข้ามารุมทำร้ายด้วยการชกต่อยตนกับนายกิตติพันธ์ จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ และต่อมาเพื่อนของผู้ก่อเหตุได้เข้ามาขอโทษ และขอให้เรื่องราวต่าง ๆ จบลง
ในเวลาต่อมาตนและนายสุทธิโชคได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลเชียงแสน เพื่อตรวจร่างกาย ซึ่งนายกิตติพันธ์มีอาการบวมไปทั่วทั้งใบหน้าและศีรษะ ส่วนตนมีบาดแผลฉีกขาดบริเวณหลังใบหูซ้ายต้องเย็บจำนวน 2 เข็ม จึงเดินทางไปยัง สภ.เชียงแสน เพื่อแจ้งความดำเนินคดี "ตนทำธุรกิจ จะทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใครมาก่อน แต่ในครั้งนี้ กลุ่มวัยรุ่นของหน่วยกู้ภัยเข้ามาทำร้ายถึงในพื้นที่ ตนเองยอมไม่ได้ คงต้องดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด"
นายอุดมศักดิ์ สมสวัสดิ์ หรือ เมล์ อายุ 32 ปี ผู้ดูแลอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์จุด อ.เชียงแสน ได้กล่าวว่า ในขณะที่ตน และน้อง ๆ กำลังนั่งดื่มกินกันอยู่นั้น มีน้องในคนกลุ่มได้เล่นโทรศัพท์และพบว่ามีคนที่อยู่ในร้านคาร์แคร์ภายในปั๊มน้ำมัน ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 450 เมตร ได้นำคลิปวิดีโอที่ตนนั่งดื่มกินและเปิดเพลงดังไปลงโพสต์
ซึ่งในตอนนั้นตนและน้อง ๆ ก็ยอมรับว่าได้ดื่มกินจนมีอาการมึนเมาและรู้สึกไม่พอใจ เพราะเกรงว่าการโพสต์ในโลกโซเชียลดังกล่าวนั้น จะทำให้มูลนิธิที่ตัวเองสังกัดอยู่เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงเดินทางเข้าไปภายในร้านคาร์แคร์หลังปั๊มน้ำมัน เพื่อจะเข้าไปเคลียร์กับคนที่โพสต์ โดยมีน้อง ๆ ที่นั่งดื่มกินตามเข้าไปด้วย ภายหลังจากเข้าไปพูดคุยน้องในทีม 2 คนได้เข้าไปชกต่อยคนที่โพสต์ และคนที่อนุมัติโพสต์ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านคาร์แคร์ตามคลิป และต่อมาได้เข้าไปกล่าวคำขอโทษเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนเจ็บทั้ง 2 คน ซึ่งก็เข้าใจว่าเรื่องจะจบลงด้วยดี แต่ก็มามีข่าวว่าเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีในช่วงเช้าจนเป็นข่าว ส่วนต้นสังกัดสั่งลงโทษแล้ว