กรณีน.ส.มยุรี ยอดพะเนา หรือ น้องหลิว อายุ 19 ปี หายตัวไปจากบริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 5 พ.ค.55 ก่อนจะพบเป็นศพถูกฆ่าอำพรางอยู่ในป่าอ้อย ในพื้นที่หมู่ 13 ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว โดยญาติของน้องหลิวสงสัยเเฟนเก่า ซึ่งเป็น ผอ.โรงเรียนเเห่งหนึ่ง จ.สระเเก้ว ว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุหรือไม่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง...
ฆ่าหมกป่าน้องหลิว 8 ปี เจอศพยิงเจาะอก เร่งล่า ผอ.รร.ขู่ปืนตบโกหกหนีไปนอก
ล่าสุดวันที่ 16 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังโรงเรียนเเห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระเเก้ว เป็นสถานที่ซึ่ง ผอ.ตุ๊ เเฟนเก่าของน้องหลิว เคยดำรงตำเเหน่งเป็นผู้อำนวยการ เเต่โรงเรียนไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ เนื่องจากเกรงว่าจะเสื่อมเสียชื่อเสียง
ทีมข่าวได้พูดคุยกับลุงตู่ อายุ 57 ปี เป็นนักการภารโรง เปิดเผยว่า ผอ.ตุ๊ อยู่ที่นี่ 5 ปี ก่อนจะย้ายไปที่จ.สุพรรณบุรี เมื่อเดือน ส.ค.58 โดยท่านเป็นคนทำงานจริงจัง ส่วนเรื่องครอบครัว เท่าที่ตนทราบขณะนั้น ผอ.ตุ๊ มีภรรยา ซึ่งเป็นครูอีกโรงเรียน เเละมีลูกด้วยกัน 1 คน เเต่ทั้งหมดได้ย้ายไปอยู่ด้วยกันที่ จ.สุพรรณบุรี
ส่วนเรื่องการคบหากับน้องหลิว ตนก็ไม่ทราบ เพราะไม่เคยไปก้าวก่ายเรื่องของเจ้านาย เเละที่ผ่านมา ผอ.ตุ๊ ก็ไม่เคยเข้ามานอนที่โรงเรียน โดยจะพักอยู่ข้างนอก เเล้วเข้ามาโรงเรียนเฉพาะตอนทำงาน ส่วนเรื่องอาวุธปืน ตนก็ไม่เคยเห็น
สำหรับอุปนิสัยของ ผอ.ตุ๊ เป็นคนรักสันโดษ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ตอนที่ไม่ดื่มเหล้าก็เป็นคนสุภาพ อัธยาศัยดี เเต่หากดื่มเหล้าก็จะกลายเป็นคนขี้หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย หลังจากที่ทราบว่าศพนิรนามคือน้องหลิว ตนก็ถูกตำรวจเชิญตัวไปสอบปากคำเเล้ว 3 ครั้ง ๆ ละ 3 ชั่วโมง ถามเฉพาะเรื่อง ผอ.ตุ๊ ตนก็ให้ปากคำไปตามที่ให้สัมภาษณ์กับอมรินทร์ ทีวี ส่วน ผอ.ตุ๊ จะเป็นผู้ก่อเหตุจริงหรือไม่ ตนก็ไม่กล้าฟันธง
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางอำไพ เเสงกล้า ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ที่ ผอ.ตุ๊ เคยดำรงตำเเหน่ง เปิดเผยว่า ผอ.ตุ๊ เป็นผู้บริหารนักพัฒนา ผลงานซึ่งเป็นที่ประจักษ์ คือ การก่อสร้างกำเเพงโรงเรียน นอกจากนี้เวลามีงานในชุมชน ผอ.ตุ๊ ก็จะเข้ามาช่วยอย่างสม่ำเสมอ ตนซึ่งขณะนั้นดำรงตำเเหน่งประธานสถานศึกษา ทำงานร่วมกับ ผอ.ตุ๊ สัมผัสได้ว่าเป็นคนทำงานจริงจัง อัธยาศัยดี เเต่เรื่องส่วนตัวของ ผอ.ตุ๊ ตนก็ไม่ทราบ
ส่วนช่วงปี 55 ที่น้องหลิวหายตัวไป ผอ.ตุ๊ ก็ยังมาทำงานตามปกติ พูดคุยปกติ ไม่ได้มีท่าทีเปลี่ยนไปแต่อย่างใด จนกระทั่งย้ายไป จ.สุพรรณบุรี เมื่อเดือน ส.ค.58 ส่วนจะใช่ผู้ก่อเหตุหรือไม่ ตรงนี้ตนไม่ทราบจริง ๆ
ทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของน้องหลิว ในพื้นที่อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อพูดคุยกับพ่อและแม่ของน้องหลิว นางสุรีวรรณ ยอดพะเนา อายุ 55 ปี เเม่ของน้องหลิว บอกว่า ตอนนี้ญาติพี่น้องส่วนใหญ่สงสัย ผอ.ตุ๊ ว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ ส่วนตัวเเม่ก็ยัง 50/50 ไม่กล้าฟันธง เพราะไม่อยากจะปรักปรำโดยไม่มีหลักฐาน
โดยก่อนน้องหลิวจะหายตัวไป ได้มีการคบหากับ ผอ.ตุ๊ เป็นเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา ผอ.ก็เคยมานอนที่บ้านกับน้องหลิวบ่อยครั้ง บุคคลิกเขาดูเป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยพูดคุยกับใคร ส่วนเรื่องครอบครัว หลิวเคยบอกเเม่ว่า ผอ.ตุ๊ มีลูกมีเมียอยู่เเล้ว ตนก็ได้เตือนลูกสาวว่า "หลิวเอ๊ย เขามีลูกมีเมียเเล้ว จะไปเอาผัวเขาทำไม" เเต่ก็ไม่ฟัง กลับอ้างว่าเมียของ ผอ.ตุ๊ มีเเต่ลูกผู้ชาย เเต่ฝ่ายชายอยากได้ลูกผู้หญิงบ้าง จึงมาคบกับน้องหลิว เพื่อหวังจะให้ฝ่ายหญิงมีลูกสาว ซึ่งผอ.ตุ๊ ก็คอยดูเเลหลิวเป็นอย่างดี ส่งเงินให้ใช้เป็นประจำ
ส่วนเรื่องกระดูก ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบ ว่ายังอยู่หรือไม่ เเต่ถึงอย่างไรก็มีกระดูกบางส่วนที่เจ้าหน้าที่เก็บไว้ตรวจดีเอ็นเอ เเละจะส่งให้ตนมาทำพิธี โดยตั้งใจว่าจะทำบุญให้ลูกสาวหลังจากที่จับคนร้ายได้เเล้ว
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้รับเบาะแสว่าผอ.ตุ๊ ย้ายตำแหน่งมาเป็น ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ทีมข่าวเดินทางมาที่โรงเรียนดังกล่าว พบว่าวันนี้ ผอ.ตุ๊ ลาราชการ โดยแจ้งไว้กับคุณครูธง (นามสมมติ) รักษาการแทนผอ.โรงเรียน
ครูธง (นามสมมติ) เปิดเผยว่า ผอ.ตุ๊ เพิ่งย้ายมารับตำแหน่งผอ.โรงเรียน เมื่อ 19 พ.ย.63 ที่ผ่านมา เป็น ผอ.นักพัฒนา เข้ามาวางโครงสร้าง ระบบต่าง ๆ ของโรงเรียน เนื่องจากผอ.ตุ๊ เคยบอกว่า เคยเป็นรอง ผอ.โรงเรียนระดับมัธยมศึกษามาก่อน ช่วงหลังจากรับตำแหน่ง ก็มีช่วงปิดโรงเรียนยาว เนื่องจากสถานะการณ์โควิด-19 ทำให้โรงเรียนเพิ่งมาเปิดกาเรียนการสอน วันที่ 1 ก.พ.64 แต่ช่วงหยุดจะมีการสั่งงานนักเรียน ผอ.ตุ๊ ก็จะเข้ามาโรงเรียนบ้าง
สำหรับผอ.ตุ๊ เท่าที่ตนเห็นทุกอย่างปกติ ไม่มีพิรุธ หรือท่าทีใด ๆ แปลกไป เคยเป็น ผอ.โรงเรียนในสุพรรณบุรี มา 2 โรงเรียน ก่อนจะย้ายมาที่นี่เป็นโรงเรียนที่ 3 หาก ผอ.ตุ๊ ติดธุระ หรือไม่เข้าโรงเรียนจะแจ้งตนไว้เสมอ เนื่องจากตนเป็นรักษาการคนที่ 1 ทำให้อาจจะได้คุยกับ ผอ.มากกว่าครูท่านอื่น ๆ
ในช่วงปลายเดือน ม.ค.64 หรือ ต้นเดือน ก.พ.64 ตนจำไม่ได้แน่ชัด ช่วงนั้น ผอ.ตุ๊ แจ้งตนไว้ว่า จะลา 1 วัน เนื่องจากต้องไปโรงพยาบาล เพื่อพบหมอตามนัด และจะขอเข้าโรงเรียนสาย ซึ่งตนยังบอก ผอ.จุ๊ ให้ทำธุระให้เรียบร้อย ไม่ต้องกังวล เพราะตนเข้าใจว่าไปโรงพยาบาลจะใช้เวลานาน ซึ่งวันนั้น ผอ.ตุ๊ ก็ไม่เข้าโรงเรียนทั้งวัน จนวันรุ่งขึ้น ผอ.ตุ๊ กลับมาทำงานปกติ ผอ.ตุ๊ จึงเล่าให้ฟังว่า วันที่ลาไปหาหมอ ปรากฎว่าไม่ได้ไปพบหมอ แต่ตำรวจมาตรวจค้นบ้าน และมาเชิญตัวไปสอบปากคำ แต่ไม่ได้บอกคดีอะไร
หลังจากนั้น ผอ.ก็มาทำงานปกติ ไม่มีพฤติกรรมโหดร้าย ยอมรับว่าหลังเห็นข่าวก็ตกใจ ครูบางคนถึงกับเป็นลม อีกทั้งตนรู้ว่า ผอ.ตุ๊ เป็นเขยจากที่อื่น มาแต่งกับภรรยาที่ จ.สุพรรณบุรี มีลูกชาย 2 คนกับภรรยาปัจจุบัน และมีภรรยาคนก่อน ก็มีลูกด้วยกัน 2 คน ผอ.ตุ๊เป็นคนกันเอง ให้เกียรติครูคนอื่น ๆ
ส่วนในวันนี้ ช่วงเวลา 05.00 น. ผอ.ตุ๊ ไลน์มาแจ้งตนว่าจะขอลาไปธุระ 1 วัน โดยไม่ได้แจ้งว่าไปไหน ซึ่งทุกคนก็ต่างตกใจ อย่างวานนี้ ผอ.ตุ๊ ยังคงมาทำงานที่โรงเรียนปกติ ยังเช็นหนังสื่อราชการปกติ ตนลองโทรศัพท์ติดต่อ ผอ.ตุ๊ ปรากฎว่าปลายสายติดต่อไม่ได้ ซึ่งตนไม่ทราบแน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนไลน์ของ ผอ.ตุ๊ ปรากฏว่าก็หายไปจากบัญชีของตนเช่นกัน หลังจากแจ้งลาเมื่อช่วงเช้า
