เปิดความลับ "เต๋า ดราก้อนไฟว์" อธิษฐานทุกคืน อยากหล่อเหมือน "ออย ธนา"

เป็นอดีตนักร้องยุค 90 ที่เชื่อว่าหลายคนคงยังจำกันได้ดี สำหรับ "เต๋า ดราก้อนไฟว์" หรือ เต๋า อดิศร หนึ่งใน 5 สมาชิกวงบอยแบรนด์ในตำนานที่โด่งดังมากๆ ในยุค 90 ซึ่งหลังจากออกผลงานราวๆ 5 ปี สมาชิกต่างก็แยกย้ายกันไปตามเส้นทางของตัวเอง ส่วน หนุ่มเต๋า ที่ล่าสุดมาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ได้เล่าถึงเส้นทางจากการเป็นบอยแบนด์ผันตัวมาเป็นนักแสดง และเดินเข้าสู่เส้นทางการทำธุรกิจ พร้อมเผยรู้สึกสงสารตัวเองที่อยู่ในวงการมานานแต่ทุกคนกลับจำตัวเองไม่ได้ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ต่อง สาวิตรี" ติดหนัก! โซเชียล-ซีรีส์วาย รับปลื้ม #ไบร์ทวิน เอ่ยปากชมเล่นเข้ากันดี
- เปิดชีวิตพ่อลูกอ่อน "อ้วน รังสิต" ทะเลาะกับภรรยาหนักมากเรื่องเลี้ยงลูก!
- "โย ยศวดี" อัปเดตสถานะหัวใจสีชมพูขั้นสุด เผยรักครั้งนี้มีลุ้นถึงแต่งงาน!
- "เอิ้นขวัญ วรัญญา" เผยสถานะหัวใจสีชมพู แต่ไม่ลงรูป เพราะชอบโดนทักว่าน้องชายเหรอ?
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่ 

ถาม โดนทักผิดบ่อยไหมว่าเป็น ออย ธนา

เต๋า อดิศร : การใช้ชีวิตประจำวันของผม คนจะเข้ามาทักเป็นพี่ออย 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตัวของผมเองเคยเดินสวนกับพี่ออย ผมก็รู้สึกว่าไม่เหมือน ไม่คล้าย เราอยากหน้าตาเหมือนเขา แต่ว่าก็รู้สึกเหมือนเราเดินผ่านตัวเองนิดนึงครับ ตอนที่มีคนมาทักว่าผมเป็นพี่ออย ตอนแรกๆ สงสารพี่เขามากเลยครับ แต่ตอนนี้สงสารตัวเองคนจำไม่ได้ว่าเราเป็นใคร


ถาม แต่ว่าในความเหมือนนี้ จะเชื่อไม่เชื่อไม่รู้ มันเกิดจากแรงอธิษฐาน

เต๋า อดิศร : คือมันจากสมัยที่เราเด็กๆ เราชอบวง Lift&Oil มากแล้ว พี่ออยเขาหล่อมาก ตอนนั้นผมคิดว่าอยากหน้าตาเหมือนเขา มันก็ไม่รู้เหมือนกันนะ เราก็มโนภาพไปว่าอยากหน้าตาเหมือนพี่ออยทุกคืน แล้วหน้าตาเราก็ค่อยๆ เปลี่ยนมาเป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่ามันเป็นพัฒนาการทางความคิดของเราหรือเปล่า


ถาม แต่ตอนที่เต๋าอยู่ในวงดราก้อนไฟว์ คือคนที่สาวๆ กรี๊ดมากที่สุดในวง

เต๋า อดิศร : เพราะว่าผมเป็นคนที่พูดน้อยที่สุด อย่างไปขึ้นคอนเสิร์ตหรือออกรายการ ผมจะเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด เพราะเราพูดไม่ทันเพื่อน แล้วกลัวตัวเองพูดไปแล้วไม่ค่อยรู้เรื่อง แล้วก็เลยอยู่เงียบๆ

ถาม ตอนนั้นไปร่วมกลุ่มเป็นบอยแบนด์กับเขาได้ยังไง

เต๋า อดิศร : ผมไม่ได้เป็นเพื่อนกับใครหรือไม่ได้รู้จักใครมาก่อนเลย ผมไปดูคอนเสิร์ตไทรอัมพ์ส คิงดอมที่สยาม แล้วเจอพี่พิม Teen Talk วันที่ผมไปดู ฝนมันตก แล้วแมลงสาบมันมาขึ้นตัวผม ผมเลยกรี๊ด เพราะมันขึ้นมาแล้วมันไต่ขึ้นมาที่หน้า แล้วพี่พิมเขาหันมาแล้วก็รู้สึกถูกชะตา ก็เลยขอเบอร์โทรศัพท์ไว้ครับ แล้วก็ให้ผมเข้าไปที่ตึกแกรมมี่ พอดีวันนั้นเขามีประกวดยิ้มสวย เขาให้ผมลองไปประกวดดู เขาให้ผมร้องเพลง พอเข้าไปจะเป็นห้องสี่เหลี่ยมใหญ่ๆ เลย จะมีคณะกรรมการคือพี่เล็ก บุษบา ดาวเรือง นั่งอยู่ด้วย แล้วก็ผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน ก็บอกผมว่าอยากทำอะไรก็ทำเลย แล้วผมเป็นคนไม่เคยทำอะไรมาก่อนครับ อยู่บ้าน ออกจากบ้านน้อยมาก เป็นเด็กที่ไม่ได้แสดงออกอะไรเลย ก็ไปยืนร้องเพลงของพี่ดัง พันกร แล้วพี่เล็กเขาชอบครับ หลังจากนั้นก็ได้เป็นนักร้องฝึกหัด 2 ปี แล้วก็ไปทำดราก้อนไฟว์ ก็ได้เจอกับเพื่อนๆ คือทุกคนหล่อมาก ทุกคนร้องก็เก่ง เต้นก็เก่ง เราฝึกเต้นมาสองปี ร้องมาสองปี แต่พัฒนาการของผมคือแย่มาก ซึ่งตอนนั้นคือท้อมาก


ถาม แต่ที่สุดก็ออกมาเป็น ดราก้อนไฟว์ ที่ทุกคนจดจำ และเมื่อถึงเวลาวงก็ยุบไปตามกาล

เต๋า อดิศร : วงเราอยู่มา 5 ปี ได้ออกอัลบั้มของตัวเอง อัลบั้มเชียร์ และอัลบั้มที่ไต้หวัน


ถาม แต่หลังจากนั้นก็ไปเอาดีทางด้านการแสดง ผันตัวมายังไง

เต๋า อดิศร : มีพี่ๆ เขาเห็นว่าเราน่าจะมีแวว เขาก็มาขอผู้ใหญ่ว่าขอให้เราไปเล่นละครได้ไหม ตอนแรกผมก็ไม่กล้านะครับ เพราะคิดว่าเราไม่น่าจะเล่นได้ คือก็เล่นไม่ได้จริงๆ ฉายาของผมคือเต๋า ร้อยเทคครับ เพราะถ้ามีคิวผมถ่ายทั้งวันถึงร้อยเทคครับ (หัวเราะ) เราจำบทได้นะครับ แต่เวลาที่เราพูดออกมามันจะเหมือนโรบอท มันเกร็ง เราไม่รู้ว่าเราจะใช้น้ำเสียงแบบไหน ทั้งท่าทาง เราพูดไป เราจะต้องมองใคร เราจะต้องทำอะไร เรามีความตื่นเต้นด้วย แล้วพี่นักแสดงในกองนั้นก็มาช่วยสอนให้เรา แต่มาจนถึงวันนี้ เราสามารถเล่นได้แล้วครับ


ถาม ซึ่งตอนนี้แสดงได้ดีแล้ว แต่บทที่ได้รับคือตัวร้าย

เต๋า อดิศร : ตัวร้ายทำให้เราเข้าถึงการแสดงเป็นครั้งแรก การแสดงเป็นแบบนี้นี่เอง พอหลังจากนั้นเราสามารถเล่นได้ทุกบทเลยครับ


ถาม เป็นนักร้อง นักแสดง และตอนนี้ยังเป็นเจ้าของธุรกิจด้วย

เต๋า อดิศร : เป็นมาสสาจ แอนด์ สปา อยู่ที่พัทยาครับ ที่มาเปิดที่นี่เพราะภรรยาของผมเป็นคนพัทยา ย้ายไปอยู่ที่โน่นเพราะเราแต่งงานกันแล้ว เราก็ตัดสินใจไปอยู่กับแม่ยาย ซื้อบ้านอยู่ข้างๆ เขา แล้วแม่ยายทำธุรกิจนวด เขาปูพื้นฐานมาโอเคแล้ว แล้วจังหวะพอดีที่มีห้างอยู่ห้างหนึ่งชื่อรอยัลการ์เด้น เขาต้องการร้านสปาเข้าไปเปิด เขาก็ถามเราว่าสนใจไหม ถ้าเราทำ เขาก็ให้เราลงมือเลย พอเปิดแล้วมันโอเค เปิดเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก็ประมาณปี 60 จากร้านเล็ก สองเดือนผมก็ขยายออกมาเป็นร้านใหญ่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว แล้วก็เปิดเพิ่มอีกในที่เดียวกัน เปิดอยู่สามร้าน เราก็เริ่มเรียนรู้ เริ่มขยายธุรกิจต่อ เริ่มขยายเดลิเวอรี่ต่อ เราส่งคนไปนวดถึงที่เลย มาขยายตรงโซเชียล เพื่อให้คนไทยได้เห็น ชาวต่างชาติได้เห็น ชื่อร้าน ชีวารมย์ ตอนนี้มี 5 สาขาแล้วครับ ที่ รอยัลการ์เด้น , เซ็นทรัล, ซอย 9, พัทยาใต้, พัทยาเหนือ ล่าสุดกำลังจะเปิดใกล้ๆ กับทิฟฟานี่ครับ

ถาม ช่วงโควิด ร้านนวดก็ต้องปิด เสียหายเยอะไหม

เต๋า อดิศร : เรามีหลายสาขา แล้วเราต้องดูแลเทคแคร์ลูกน้องเรา เราก็ให้เงินเยียวยากันไปคนละห้าพันบาท ประมาณเกินหนึ่งร้อยคน ถ้าถามถึงรายได้ จากที่เรามีเก็บกันทุกวันก็หยุดชะงักไปเลย เราก็ไม่รู้เลยว่ามันจะหยุดยาวนานขนาดไหน ตอนแรกที่เราคิดไว้ว่าหนึ่งปี แต่ไปๆ มาๆ ไม่ใช่แล้ว ระบบเศรษฐกิจคือพังทั้งโลก มันก็ต้องได้รับการฟื้นฟู ซึ่งพัทยาได้รับผลกระทบมากๆ


ถาม แต่จากการที่เราไปอยู่พัทยา คือไม่ได้แค่งาน แต่ได้ลูกด้วย

เต๋า อดิศร : ชื่อน้องทะเลครับ ตอนนี้ 4 ขวบแล้วครับ กำลังซนได้เรื่องเลย เขาก็เป็นคนที่กล้าแสดงออกมาก จะเป็นเด็กที่ไม่ชอบนอนมาก เขาก็หาข้ออ้างในการไม่นอน ผมเคยทดสอบแอดติ้งเขาด้วยนะครับว่าเขาทำได้ไหม ให้เขาร้องไห้ ก็ร้องได้ น้ำตาก็ไหล เราบอกให้หัวเราะต่อ เขาก็หัวเราะ


ถาม เห็นบอกว่าก่อนที่จะมีน้องทะเลคือบอกรักและกราบภรรยาทุกวัน

เต๋า อดิศร : ก่อนหน้าจะมีลูก ก่อนหน้าที่จะแต่งงาน เราก็ใช้ชีวิตตัวติดกันประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์เลยครับ ไม่ว่าเขาหรือเราไปไหน ทำงาน เรียน หรือถ่ายรายการ เราก็จะไปด้วยกัน ผมก็จะขับรถไปส่งไปรับ ทำแบบนี้มาประมาณ 8 ปี แต่หลังจากมีน้องทะเล ผมก็อยากมีลูกคนที่สอง แต่ซินแสทักว่าถ้าจะมีลูกแล้วดี ต้องมีลูกปีเสือ