กรณีการหายตัวไปของ น.ส.มยุรี ยอดพะเนา อายุ 19 ปี ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.55 ที่ผ่านมา หรือเมื่อ 8 ปีก่อน โดยจุดสุดท้ายที่หายไปคือจอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่คลองรั้ง อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี หลังจากนั้นมีคนแจ้งเบาะแสว่าผู้อำนวยการท่านหนึ่ง ที่เหมือนคบหาดูใจกับผู้ตาย อ้างว่าน้องหลิวไปทำงานต่างประเทศ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง...
-ฆ่าหมกป่าน้องหลิว 8 ปี เจอศพยิงเจาะอก เร่งล่า ผอ.รร.ขู่ปืนตบโกหกหนีไปนอก
-ตำรวจบุกบ้าน ผอ.ตุ๊ คลี่ปมศพ "น้องหลิว" เมียร่ำไห้ผัวหายตัว แจงปืนหาย
ล่าสุดวันที่ 17 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังนิคมอุสาหกรรม 304 ในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี โดยทีมข่าวสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในบริษัทแห่งหนึ่ง ตามเบาะแสที่ว่า น.ส.มยุรี หรือ หลิว เคยทำงานที่เกี่ยวกับแผ่นยางยืด ส่วนตนไม่รู้จักกับหลิว เพราะเพิ่งมาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เพียง 2 ปี และไม่อนุญาตให้ทีมข่าวเข้าไปพูดคุยกับใครภายในโรงงาน
จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปหาค้นหาอดีตที่อยู่ของน้องหลิวตามเบาะแสว่า เป็นห้องพัก 2 ชั้น สีน้ำเงินใกล้นิคมอุสาหกรรม 304 โดยอยู่ในซอยโปร่งไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี เป็นลักษณะห้องพักอาศัย 2 ชั้น สีน้ำเงิน
โดยทีมข่าวเข้าไปสอบถามนายสุชาติ (นามสมมติ) อายุ 33 ปี เพื่อนของนายแบงก์ (นามสมมติ) ซึ่งนายแบงก์ เป็นเพื่อนคนสนิทน้องหลิว บอกกับทีมข่าวว่า ตนรู้จักน.ส.มยุรี หรือ หลิว ห่าง ๆ ซึ่งเป็นรุ่นน้องในหมู่บ้านเดียวกัน อายุห่างกัน 6 ปี แต่ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว ประเด็นเรื่องคบหากับผอ.หรือไม่ ตนก็ไม่ทราบจริง ๆ
ทั้งนี้ตนเคยเห็นน.ส.มยุรี หรือ หลิว จริง ๆ แค่ 2 ครั้ง คือ นายแบงก์ พามาเที่ยวเล่นที่ห้องพัก เนื่องจากนายแบงก์ อาศัยอยู่ที่หอพักเดียวกันกับตน เลยไม่มีโอกาสได้คุยอะไรกัน ส่วนตัวยอมรับว่าเป็นเพื่อนกับนายแบงก์ ก็จริง แต่ก็ไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวว่า มีความสัมพันธ์อย่างไร กับน.ส.มยุรี
หลังจากที่ตนทราบข่าวจากทางบ้านที่ จ.สระแก้ว ว่าน.ส.มยุรี หรือ หลิว หายตัวไป แต่ก็ได้ยินมาว่าหลิวเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งตนก็ไม่เคยถามนายแบงก์เรื่องนี้ ไม่นานนายแบงก์ ก็ลาออกจากงานไปทำธุรกิจส่วนตัว ก็แยกย้ายกันไปใช้ชีวิต มีแค่ตนที่ยังอาศัยและทำงานอยู่ที่เดิม แต่ตนรู้สึกตกใจเมื่อทราบข่าวล่าสุดว่า น.ส.มยุรี หรือ หลิว เสียชีวิตแล้ว สงสารพ่อกับแม่ของหลิว และเห็นใจกัน เนื่องจากเป็นคนบ้านเดียวกัน
จากนั้นทีมข่าวโทรศัพท์สอบถามนายแบงก์ (นามสมมติ) อดีตเพื่อนชายคนสนิท บอกกับทีมข่าวว่า ตนไม่พร้อมที่จะให้คำตอบอะไรทั้งนั้น เนื่องจากยังจับคนร้ายไม่ได้ เกรงว่าสื่อมวลชนจะทำให้รูปคดีเสีย ถ้าถึงเวลาที่จับคนร้ายได้แล้ว ตนจะให้สัมภาษณ์ทุกอย่าง
แต่ตอนนี้ตนไม่อยากเอาตัวเข้าไปยุ่งกับคดี อยากให้ตำรวจทำหน้าที่ตามกระบวนการ เพราะไม่เช่นนั้น ตนต้องไปขึ้นศาล แล้วจะทำให้ขาดรายได้ จากการทำธุรกิจส่วนตัว
ส่วนเรื่องความพันธ์กับ น.ส.มยุรี หรือ หลิว ตนเป็นแค่เพื่อนบ้านคนรู้จักกัน เพราะอาศัยหอพักที่เดียวกัน มีการพูดคุยถามตามมารยาท ไม่ได้คุยหรือเป็นที่ปรึกษาอะไรพิเศษ ซึ่งเรื่องสนิทกันจนถึงคบหาดูใจกันหรือไม่นั้น ตนไม่ขอตอบ ข้อมูลอื่น ๆ ก็ว่าไปตามข่าวที่นำเสนอไป ในส่วนไหนที่ยังไม่มีข้อมูลก็คือไม่มี