จากกรณีอดีตพระลูกวัด วัดอู่ยาพระพุทธโสธรสันติสุข จ.สุพรรณบุรี โอนเงินเดือนเจ้าอาวาสผ่านแอปพลิเคชันธนาคารนาน 3 ปี โอนเงินกฐินสร้างพระพุทธรูปของวัดไปร่วมล้านบาท เหลือติดบัญชี 0.33 บาท
วันที่ 20 ก.พ. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังวัดอู่ยาพระพุทธโสธร ต.ดอนกำยาน อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เป็นวัดประจำหมู่บ้านหมู่ที่ 1 บนพื้นที่มากกว่า 38 ไร่ ภายในวัดกำลังหล่อชิ้นส่วนของหลวงพ่อพระพุทธโสธรอยู่
พระครูวิมลปริยัตยาภรณ์ (หลวงพ่อทอง สุขอินทร์ประเสริฐ) อายุ 89 ปี เจ้าอาวาส บอกว่า ตนเห็นนายธนากร หรือ เจ มาตั้งแต่เล็ก ๆ เป็นเด็กดี จนกระปี 2554 มาบวชเป็นพระที่วัดอู่ยา ตนก็ส่งเสียให้เรียนด้านภาษาบาลีจนสอบได้พระปริยัติระดับ 3 ซึ่งก็คือว่าเป็นเรียนเก่งและหัวดี ตลอดการบวชเป็นพระมา 5 ปีกว่า ที่ผ่านมานายธนากรช่วยเหลือตนและทางวัดด้วยดีมาโดยตลอด เวลามีงานอะไรก็จะเป็นธุระให้ เนื่องจากยังหนุ่มและค่อนข้างรู้เทคโนโลยี ตนค่อนข้างไว้ใจให้เป็นธุระแทนแทบทุกเรื่อง จนถึงเรื่องเงินด้วย
กระทั่งปลายปี 2560 นายธนากรได้พบรักกับหญิงสาวคนหนึ่ง ขอลาสิขาไปใช้ชีวิตคู่ และล่าสุดเพิ่งแต่งงานไปเมื่อปีธันวาคม 2563 แต่เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 ตนได้นำเงินจากการทำบุญผ้าป่าประจำปี 2563 ที่จะนำไปก่อสร้างพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธรฯ เนื่องจากติดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เลยต้องหยุดชะงัก จำนวน 890,000 บาทไปฝากธนาคาร ในบัญชีตัวเองเนื่องจากไม่มีกรรมการวัด
ต่อมาวันที่ 17 ก.พ. 64 ที่ผ่านมาจะไปถอนเงินเพื่อมาจ่ายค่าแรงคนงาน แต่ธนาคารบอกว่าเงินหมดบัญชีแล้ว จึงสืบสาวราวเรื่องทราบว่านายธนากรเป็นผู้ถอนเงินจากการผูกบัญชีผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้เงินเจ้าอาวาสตลอด 3 ปีที่ไม่เคยถอนมาใช้ เป็นจำนวนเงิน 111,600 บาท หายไปพร้อมกับยอดเงินทำบุญ 890,000 บาท รวมทั้งสิ้น 1,001,600 บาท
ตนทราบเรื่องตนก็รู้สึกเสียใจ ไม่รู้ว่าทำไมนายธนากรถึงทำแบบนี้ ทั้งที่ตนสนับสนุนและไว้ใจมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ รู้สึกเครียด รู้สึกเสียใจ แต่ก็ต้องเก็บไว้ ทำใจให้สบาย ตัดพ้อว่าทำบุญกับคนไม่ขึ้น ส่วนที่ตนต้องดำเนินคดีเพราะว่าเงินทำบุญ 890,000 บาท เป็นเงินชาวบ้าน ส่วนเงินเดือน 3,100 บาท ทุกเดือน ตนก็จะยกให้ไม่อยากเอาความ ตอนนี้เงินหมดบัญชีแล้วจริง ๆ อาศัยใช้เงินที่ชาวบ้านมาทำบุญ รวบรวมเก็บไว้จ่ายค่าน้ำค่าไฟวัด
จากการตรวจสอบ ภรรยาของนายธนากร มีการแท็กเฟซบุ๊กของนายธนากร โพสต์ภาพถ่ายกล่องของขวัญวันวาเลนไทน์ ระบุว่า "ขอบคุณงับบบบบบบบ คุณสามี" นอกจากนี้ ยังมีการโพสต์ภาพที่ไปทานอาหารกันด้วย
พระมหากมล กตปุญโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอู่ยา บอกว่า นายธนากรเป็นคนที่เก่ง มีความรู้ความสามารถ ช่วยเหลือและพัฒนาวัด ทำเอกสาร ติดกล้องวงจรปิด จนกลายเป็นคนสนิทของเจ้าเอาวาส ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ให้ความเคารพนับถือ ศรัทธาในความสามารถของอดีตพระเจ
เงินส่วนใหญ่ที่เข้าวัดมาจะเป็นเงินทำบุญทอดผ้าป่าประจำปี ซึ่งปี 2563 ได้จำนวนเงิน 890,000 บาท เจ้าอาวาสนำเงินไปฝากที่บัญชีของเจ้าอาวาสเอง เนื่องจากไม่มีกรรมการวัด กระบวนการจะได้ถอนเงินง่ายขึ้น เพื่อที่จะนำมาหล่อพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร ซึ่งในแต่ละปีก็จะหมดไปกับการหล่อหลวงพ่อทั้งหมด เจ้าอาวาสตั้งใจทำให้สำเร็จก่อนจะมรณภาพ ซึ่งสร้างมาแล้ว 10 ปี เหลือแค่ส่วนฐานด้านล่าง ก็ต้องใช้เงินอีกจำนวนมาก ค่าแรงคนงาน ค่าอุปกรณ์ที่วัดต้องรับผิดชอบเอง โดยพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธรฯ มีความสูง 24 เมตร หน้าตัก 18 เมตร และจะเป็นพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธรฯที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินหาย คนที่ไปถอนเงินกับเจ้าอาวาสก็มีแค่อดีตพระเจเพียงคนเดียว ไปแอบผูกบัญชีตอนไหนก็ไม่มีใครทราบ พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็รู้สึกตกใจและผิดหวัง เมื่อเห็นชื่อคนที่คนที่แอบโอนเงินของเจ้าอาวาสไปคือคนที่ใกล้ตัวเจ้าอาวาสและเชื่อใจมากที่สุด
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 64 ได้โทรไปหานายธนากรถามถึงเรื่องราวมี่เกิดขึ้น เจ้าตัวบอกว่าจะขอคืนเงินเดือนละ 10,000 บาท แต่ทางวัดมองว่าเงินเป็นของชาวบ้านจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ และล่าสุดก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก ตนจึงขอให้เข้ามาพูดคุยกับทางวัดเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยกัน ตอนนี้ก็ทำได้แค่ให้กำลังใจเจ้าอาวาส เยียวยาจิตใจกันไปก่อน เพราะคงเสียใจไม่น้อยที่คนใกล้ตัวทำแบบนี้