สาวสองสวรรค์ล่ม แชตคุยทหารหล่อสุดท้ายเป็นโรคหอบ เงิน - กล้องหายเกลี้ยง เหยื่อโผล่อื้อ (คลิป)

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "อีซ้อขยี้ข่าว" โพสต์ข้อความและรูปภาพ เล่าว่า สาวประเภทสองรายหนึ่งบอกว่ารู้จักผู้ชายในรูปที่เจ้าตัวอ้างว่าเป็นทหารอยู่ในสังกัดหนึ่ง จากแอ็ปหาคู่ และคุยกันถูกคอ จึงนัดแนะชักชวนกันมากินเบียร์ที่ห้อง แล้วมีความสัมพันธ์กัน เข้าห้องน้ำไป ออกมาไม่เห็นฝ่ายชายอยู่ในห้องแล้ว แต่พบว่าของบางส่วนถูกรื้อค้น มีเงินสดและกล้องถ่ายรูปที่เพิ่งซื้อมาราคาหลายหมื่นหายไปนั้น

ล่าสุด วันที่ 22 ก.พ. 64 นายชลธาร (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เล่าว่า ทั้งก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์ ชายดังกล่าวยืนยันว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหารแต่ไม่ได้ระบุว่าอยู่ในสังกัดไหน ซึ่งแอปพลิเคชันที่เจอกันเป็นแอปหาคู่ ฝ่ายชายเป็นผู้ทักหาก่อนในระหว่างที่คุยกันเป็นการพูดคุยกันปกติตามภาษาคนเหงา มีความพยายามที่อยากจะนัดเจอ ตนเองจึงตกลงเจอกันที่ห้องของตนเอง มีการดื่มเบียร์กัน  ตอนแรกพฤติกรรมไม่น่าสงสัย โดยเฉพาะวันนั้นทางฝ่ายชายพูดจาดี พูดจากปกติ มีการขอนอนต่อ แต่ตนเองปฏิเสธ เพราะต้องทำงาน ซึ่งวันนั้นถ้ายอมให้อยู่ก็คงจะเอาของไปมากกว่านี้ และเมื่อเกิดเหตุก็เชื่อได้ว่าเป็นมิจฉาชีพจริง เพราะแค่รถจักรยานยนต์ก็ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

ส่วนที่คิดว่าเป็นฝ่ายชายแน่นอนที่ขโมยของ เพราะจำได้ว่าเงินในกระเป๋ามีเงินสด 470 บาทซึ่งเมื่อเข้าห้องน้ำและออกมาปรากฎว่าเงินหาย ฝ่ายชายบอกว่าไม่ได้เอาไป จนตนเองบอกว่าถ้าเอาไปก็คืนมาแล้วกัน และทำเป็นไม่สนใจ ก่อนทาครีมเตรียมตัวออกจากบ้าน กระทั่งมาพบเงิน 400 บาทในถุงกระดาษที่ใส่ฝาเบียร์ ซองขนมต่าง ๆ และสงสัยว่าชายคนนี้มีพฤติกรรมแปลก

กระทั่งตอนจะแยกย้ายกัน ฝ่ายชายได้ขอถุง 1 ใบ ตนก็ให้ถุงกระดาษไป มีการหยิบเศษขยะออก และมีการหยิบพาวเวอร์แบงก์และสายชาร์จทั้งที่ก่อนมาไม่พบว่าพกอะไรมาที่เป็นถุงหิว แต่พอจะกลับขอถุง ส่วนกล้องถ่ายอยู่ในกระเป๋ากล้องอยู่ในตู้โชว์ แต่ไม่ได้สังเกต แต่ไปเฝ้าระวังแต่ไอแพด มือถือ โน้ตบุ๊ก จึงทราบอีกว่ากล้องหายคือเมื่อวานนี้ว่ากล้องและอุปกรณ์ชาร์จหายไป ทิ้งไว้เพียงกระเป๋ากล้อง จึงมั่นใจว่าเป็นชายดังกล่าวที่ขโมยไป เพราะโทรไปแต่ไม่มีการรับสาย จึงมีการไปแจ้งความ แต่เมื่อตำรวจโทรไปชายดังกล่าวก็ไม่รับสาย ล่าสุดมีการรับสายตนเอง 1 รอบ ด้วยเสียงที่โวยวาย และตัดสายทิ้งไป

อย่างไรก็ตาม ชายดังกล่าวเป็นบุคคลอันตราย เพราะนอกจากหลอกคนแล้ว ยังมีการขายของออนไลน์ และไม่ส่งสินค้า และยังงงว่าทำไมตำรวจยังไม่ตามจับ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนและเข็ดมาก เสียใจมาก

ขณะเดียวกัน มีคนมาคอมเมนต์ในเพจเฟซบุ๊ก มีผู้เสียหายจากหนุ่มรายนี้เพิ่มเติมอีกหลายคน มีการเปิดเผยว่าชายหนุ่มรายนี้ไม่ธรรมดา ผู้เสียหายแจ้งเพจมาเพียบ โดยเฉพาะหญิงสาวรายหนึ่งบอกกับทางเพจว่าชายหนุ่มรายนี้จะขโมยกุญแจก่อน แล้วค่อยมาฉกของอีกทีตอนที่เจ้าของห้องไม่อยู่ด้วย