เมื่อวันที่ 23 ก.พ.64 พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต. ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ. พร้อมด้วย ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการทลายโรงงานลักลอบผลิตผงชูรส น้ำยาล้างจาน และสบู่ สวมยี่ห้อดัง ย่านลำลูกกา
หลังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า มีโรงงานแห่งหนึ่งย่านลำลูกกา ลักลอบผลิตผงชูรส น้ำยาล้างจาน และสบู่ ปลอม จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก. ปคบ.) เข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ยึดของกลางไว้ทั้งหมด เป็นผงชูรสสำเร็จรูปปลอม กว่า 5,000 ซอง ผงชูรสวัตถุดิบ กว่า 22 ตัน เกลือวัตถุดิบกว่า 1.4 ตัน ซองผงชูรสเปล่ากว่า 1.1 แสนชิ้น
น้ำยาล้างจานสำเร็จรูป 20 ถุง ซองน้ำยาล้างจานเปล่ากว่า 25,000 ชิ้น สบู่กว่า 2,088 ก้อน รอบรรจุกว่า 20 กระสอบ ลังบรรจุภัณฑ์ อุปกรณ์การผลิต และเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตอีกจำนวนหนึ่ง
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เข้าตรวจสอบ โกดังเลขที่ 388 ภายในภายในอรดาแฟคตอรี่แลนด์ คลอง 8 ลำลูกกา ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พบเป็นโรงงานตึกแถวขนาดใหญ่ 3 คูหา 3 ชั้น โดยภายในนั้นเป็นพื้นที่โล่งกว้าง ทำเป็นโรงงานสำหรับผลิตผงชูรส น้ำยาล้างจาน และสบู่ โดยจะเห็นว่าบริเวณหน้าบริษัทหน้ามีต้นไม้หญ้ารก อีกทั้งหน้าต่างปิดมิดชิด มืดสนิท
บริเวณโดยรอบนั้นจะเห็นได้ว่าเป็นโรงงานต่าง ๆ หลายบริษัทเกือบ 100 โรงงาน โดยจะไม่พบบ้านพักอาศัยของประชาชนชน ภายในเขตอรดาแฟคตอรี่แลนด์
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ตรวจสอบภายในโรงงาน เป็นพื้นที่โล่งกว้าง และมีเครื่องอุปกรณ์ในการผลิต เครื่องตัดสบู่ และเครื่องผสมวัตถุดิบสำหรับผลิต ผงชูรส และน้ำยาล้างจาน อีกทั้งยังพบจอคอมพิวเตอร์ และจอโทรทัศน์อีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานโกดังแห่งนี้ ได้ช่วยกันขนย้ายของกลางทั้งหมดเพื่อนำไปเก็บไว้ ยังโกดัง ปคบ.
นายฮา (สงวนชื่อ-นามสกุล) อายุ 40 ปี พนักงานโกดัง เล่าว่า ตนทำงานที่โกดังแห่งนี้ประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมาในปี 2562 ทำเป็นโรงงานงานสำหรับจัดประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ และทีวี กระทั่งช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ค้าขายลำบาก จึงปิดตัวลง และพนักงานกว่า 100 คน ได้ทยอยออก กระทั่งช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบของการทำประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เปลี่ยนมาทำผงชูรส น้ำยาล้างจาน และสบู่ ตามจำนวนออร์เดอร์ของประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องการ และตนจะเป็นผู้มีหน้าที่จัดทำตามใบคำสั่งซื้อที่ได้รับคำสั่งมาจากผู้ที่ติดต่อกับลูกค้าอีกทอดหนึ่ง
โดยรอบการจัดส่งนั้น จะมีการจัดส่งโดยขนส่งด้วยรถกระบะบรรทุก สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 50-100 กล่อง โดยนำขายส่งให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ส่งไปยังชายแดนต่าง ๆ ไม่ค้าขายภายในประเทศไทย หลังจากเจ้าหน้าที่มาบุกจับ ทำให้ตนได้ทราบว่า การผลิตผงชูรส น้ำยาล้างจาน และสบู่นั้น เป็นของปลอม ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตนคิดว่าเป็นของจริงมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตอนนี้ตนตกงาน เนื่องจากบริษัทถูกบุกจับ จึงทำให้ขาดรายได้ หลังจากนี้คิดว่าจะกลับบ้านต่างจังหวัดไปพักผ่อน และหางานทำที่บ้านเกิด แต่เป็นห่วงถึงน้อง ๆ แรงงานคนอื่น ที่ทำงานด้วยกัน
นายชาญจิตร สุพรรณ อายุ 50 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน โรงงานแห่งนี้รับซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์คอมพิวเตอร์ และทีวี นำมาประกอบและขายเป็นอุปกรณ์มือสอง พนักงานกว่า 100 คน กระทั่งโดนหมายศาลสั่งปิด และเห็นว่าโกดังได้ปิดตัวลงไป ซึ่งหลังจากนั้นก็ยังคงมีพนักงานที่เป็นแรงงานต่างชาติ ยังคงเดินแวะเวียนอยู่ภายในโกงดัง และโกดังจะเปิดประตูเข้าออกเพียงทางเดียว
โดยในทุกวัน ช่วงเช้าเวลา 08.00 น. จะมีรถกระบะบรรทุกประมาณ 2 คันขับเข้ามา และออกจากโกดังเวลาประมาณ 09.00 น. และเข้ามาอีกครั้งในช่วงเย็นประมาณ 16.00 น. โดยจะมีรถกระบะบรรทุกปิดทึบ ถอยหลังเข้ามาจอดบริเวณประตูโกดังอยู่ตลอด แต่ไม่ทราบว่าขนย้ายอะไรหรือไม่ เพราะไม่สามารถมองดูได้ว่าโรงงานดังกล่าวทำอะไร