ความจริงหลังกล้อง! เมียหลวงยืนหนึ่งร่ำไห้ผัวยังหนีแม่ยุเลิก สาวเบอร์ 2 ขึ้นป้ายงดกวน (คลิป)

จากคดีตำรวจหนุ่มแต่งซ้อน ชาวเน็ตได้แชร์คลิปหญิงสาวคนหนึ่งถือทะเบียนสมรสบุกงานแต่งสามีตนเอง ซึ่งไปแต่งงานใหม่โดยที่ทั้ง 2 คนยังไม่ได้หย่าขาดกัน ทำให้ชาวเน็ตพากันแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวอย่างหนัก ซึ่งล่าสุดฝ่ายภรรยาหลวง ได้ปรึกษาทนายเพื่อยื่นฟ้องหญิงที่แต่งงานซ้อนแล้วนั้น

วันที่ 24 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางไปยังบ้านของภรรยาหลวง ต.เขาท่าพระ อ.เมือง จ.ชัยนาท นางนิภาพรรณ หรือ จอย อายุ 32 ปี ภรรยาหลวง เปิดเผยว่า ในวันนี้สามีของตนก็ยังไม่ได้กลับมาที่บ้านเพื่อพูดคุย ตอนนี้ตนและคนในครอบครัวรู้สึกว่าต้องการอยากจะให้สามีเดินทางกลับบ้านเพื่อมาเคลียร์ปัญหาที่ค้างคาให้จบ ว่าจะสามารถรับผิดชอบในส่วนของเรื่องลูกอย่างไรได้บ้าง แต่ประเด็นความรักหรืออยากให้กลับมาคบกันเหมือนเดิมนั้น ตนไม่ได้คิดถึงประเด็นนี้

ส่วนกรณี ที่ตนมีการโพสต์แสดงความคิดเห็นถึงหญิงสาวรายหนึ่งที่ จ.ลำปาง ที่แฟนหนุ่มเป็นทหาร และทางครอบครัวขอแต่งเมียน้อยผ่านเฟซบุ๊ก ตนเห็นว่าเป็นเคสที่เกิดลักษณะใกล้เคียงกับตน จึงไปแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจในฐานะทีมเมียหลวงเท่านั้น ตนไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว

ส่วนกรณี คุณธัญญ่า ดาราดัง หลังจากเรื่องราวของตนเป็นกระแสข่าวก็ได้วิดีโอคอลมาพูดคุยให้กำลังใจตนนั้น ตนก็รู้สึกดีใจและอยากขอบคุณพี่ ๆ ดารา รวมไปถึงบุคคลต่าง ๆ ที่แห่มาให้กำลังใจตนในฐานะทีมเมียหลวง ก็รู้สึกดีใจและไม่คิดว่าบุคคลธรรมดาอย่างตนจะได้รับความสนใจจนเป็นกระแสดังทั่วประเทศ อีกทั้งในวันเสาร์ที่ 27 ก.พ. 64 คุณธัญญ่าก็ได้เชิญตนไปนั่งพูดคุยกันที่บ้านของเขา และทำการไลฟ์กรณีที่เกิดขึ้น แต่ในส่วนนี้ตนก็ยังไม่รู้ประเด็นที่แน่ชัดว่าจะมีการพูดคุยเรื่องอะไรบ้าง

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้ตนขอเพียงแค่ต้องการอยากจะให้เรื่องจบโดยเร็ว เพราะสงสารลูกทั้ง 2 คนเกรงว่ารับผลกระทบในอนาคต หลังจากเกิดเรื่องลูกสาวก็ได้ถามตนตลอดว่า "พ่อไปไหน" ตนจึงมีความรู้สึกเกรงว่าในอนาคตหากลูกได้รับผลกระทบ ลูกจะคิกว่าทำไมครอบครัวอื่นมีพ่อ แต่ครอบครัวของตนไม่มีพ่อ ตนก็ไม่อยากให้ลูกมาเจอสถานการณ์แบบนั้น จึงอยากให้เรื่องจบได้เร็ว และอยากวอนขอให้ทางสามีรีบกลับมาเคลียร์ปัญหาที่ค้างคาให้จบ เพราะหลังเกิดเรื่องนี่ก็ผ่านมาเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว ที่ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เมียหลวงพร้อมแล้วอภัยผัวแต่ไม่คืนดี "ธัญญ่า-หนิง" ผนึกเชียร์เอาผิดสาวตัวสำรอง
- เมียหลวงยืนหนึ่งพร้อมเคลียร์ ทนายขอไปจบที่ศาล ดาราอินจัดเริ่มระแวงผัว (คลิป)
- เมียหลวงยืนหนึ่งซึ้งแม่ผัวพาลุย ฟ้องเจ้าสาว 3 แสนเหตุรู้คบซ้อน เผยอดีตหวิดดับผัวขับรถบี้ (คลิป)
- เจ้าบ่าวแต่งซ้อนขอรับผิดคนเดียวป้องสาวไม่รู้ พ่อฉะขาดจริยธรรม จ่อถูกฟันวินัยขัง 30 วัน (คลิป)
- ทัวร์ลง! เจ้าสาวเบอร์ 2 ตกงานพ่วงโดนคดี ญาติจี้เขยตำรวจโชว์สปิริตรับผิดชอบ (คลิป)

นางสายัญ หรือ จิ๋ม อายุ 51 ปี แม่ของภรรยาหลวง เปิดเผยว่า ลูกสาวตนตอนนี้สภาพจิตใจบอบช้ำ การพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเสมือนเป็นการตอกย้ำ คนนอกอาจจะไม่รู้จากที่ลูกสาวออกมาให้สัมภาษณ์ดูเหมือนเข้มแข็ง แต่ความรู้สึกภายในย่ำแย่ ปรึกษาระบายให้ตนฟังอยู่ตลอดว่าเหนื่อย และมีร้องไห้บ้าง

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากจะให้ลูกเขยออกมารับผิดชอบกับการกระทำที่เกิดขึ้น มาเคลียร์ปัญหา ไม่ใช่หนีหายโดยที่ไม่ทำอะไรเลยแบบนี้ เพราะปัญหาก็จะไม่จบสักที ส่วนตัวอยากจะให้ทั้งคู่เลิกและแยกทางกัน เนื่องจากรับไม่ได้กับพฤติกรรมของลูกเขย ก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง ลูกเขยก็มีพฤติกรรมเจ้าชู้มาโดยตลอด ทำให้ลูกสาวเสียใจ เพราะไปตามจับได้กับพฤติกรรมเจ้าชู้ของลูกเขยมาแล้วหลายครั้ง ตนเองบอกกับลูกสาวมาตลอดว่าให้เลิกยุ่งเกี่ยวกัน แต่ด้วยความที่ลูกสาวรักลูกเขยและลูก จึงทนอยู่ด้วยกันมากระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

ส่วนกรณีของฝั่งเจ้าสาวนั้น ครอบครัวยังไม่ได้รับการติดต่อ ตนไม่อยากจะขอเรียกร้องอะไร ขอแค่ให้ฝั่งเจ้าสาวดูแลตัวเองให้ได้ก็พอ ส่วนกรณีที่เจ้าสาวจะฟ้องกลับ 2 ล้านบาท ยืนยันว่าอยากจะฟ้องก็ให้ฟ้อง เพราะตนมั่นใจว่าลูกสาวของตนไม่ผิด เป็นเมียหลวงที่มีทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องลูกสาวก็เคยไปเตือนกับเจ้าสาวแล้วหลายครั้งให้เลิกยุ่ง ทั้งที่เจ้าสาวก็รู้ว่าลูกเขยมีครอบครัวและมีลูกสาวอยู่แล้ว แต่ก็ยังจะอยากได้สามีของคนอื่น ตนก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร

หากเป็นไปได้ตนก็อยากจะฝากถึงเจ้าสาวและผู้หญิงหลายคนให้ดูเคสนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ "หากจะรักใครชอบใคร ไม่ใช่เพียงแค่พูดว่า หนูรักเขา แต่ควรไตร่ตรองให้ดีว่าเขามีครอบครัวแล้วหรือไม่ ที่ทำเหมือนเป็นการแย่งผัวของคนอื่น อยากให้รักษาศีล 5 กันบ้าง จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำอีก"

นางสายัญ กล่าวว่า กรณีในโลกโซเชียลที่มีดาราดังและชาวเน็ตมาแห่ให้กำลังใจลูกสาว ตนก็ดีใจ อยากจะขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ เพราะไม่คิดว่าเรื่องราวของลูกสาวจะกลายเป็นกระแสดังใหญ่โตจนมีคนพูดถึงทั่วประเทศ

ด้านนายอนุสรณ์ อะสุรพงษ์ หรือ ทนายชายพัฒน์ ทนายความ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่าเจ้าสาวจะมีการฟ้องกลับภรรยาหลวง 2 ล้านบาท สามารถทำได้หรือไม่ เรื่องนี้ตนเองมองว่าเป็นสิทธิ์ของภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมายที่มีทะเบียนสมรส การฟ้องแบบนี้คงทำได้ยากแน่นอน คงทำอะไรภรรยาหลวงไม่ได้

สำหรับการที่มีกระแสข่าวว่าเจ้าสาวจะฟ้อง 2 ข้อหา ทั้งบุกรุก และดูหมิ่นซิ่งหน้า ตามตัวบทกฎหมายคงไม่ถึงจำนวน 2 ล้านบาท และยังไม่ทราบที่ไปที่มาแท้จริงว่าเจ้าสาวโพสต์เองหรือไม่ อาจจะเป็นคนอื่นหรือเจ้าตัวก็ได้ ต้องรอให้เจ้าสาวมาให้คำตอบชี้แจง และพูดคุยด้วยตนเอง

ส่วนความคืบหน้าคดีของภรรยาหลวง ขณะนี้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวยังไม่ได้เข้ามาพูดคุยเจรจาใด ๆ เพิ่มเติม และไม่สามารถติดต่อได้ จึงไม่ทราบว่าจะมีการฟ้องเพิ่มหรือไม่ หรือจะเจรจาว่าจะไปต่อกันในแนวทางไหน อย่างไร ส่วนเรื่องจำนวนเงินการฟ้องเจ้าสาวที่ 300,000 บาท ก็ยังคงที่ดังเดิม และรอขึ้นศาลเท่านั้น ซึ่งหลังจากที่มีกระแสข่าวก็มีคนมาขอคำปรึกษามากขึ้น ตนพร้อมเป็นกำลังใจ และให้คำปรึกษากับภรรยาหลวงทุกคน

จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของเจ้าสาว ต.ท่าชัย อ.เมือง จ.ชัยนาท พบว่าบ้านหลังดังกล่าวไม่มีคนอยู่ มีแผ่นโฟมเขียนด้วยปากกาเมจิก ข้อความว่า "ห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต" ผูกติดไว้กับเสาไฟฟ้าบริเวณปากทางเข้าบ้าน