ตรวจจิต "ครอบครัวหัวร้อน" หมอยันแค่ฮอร์โมนพลุ่งพล่าน ขุดวีรกรรมเก่าชักปืนจ่อหัวเด็กกลางวัด (คลิป)

26 ก.พ. 64

กรณีเพจเฟซบุ๊ก “เจ้ม้อยv+” โพสต์คลิปวิดีโอ ครอบครัวหนึ่งซึ่งกำลังถกเถียงกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในลักษณะโมโห จนเจ้าหน้าที่ตำรวจขอกำลังเสริม พร้อมข้อความระบุว่า "เธอและครอบครัวยังอยู่ เหตุเกิดที่ สน.ดินแดง ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าครอบครัวดังกล่าวคือครอบครัวหัวร้อน ที่เคยก่อเหตุชกหน้าตำรวจในพื้นที่จังหวัดระยองเมื่อ 2 ปีที่แล้ว"

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง...
-เปิดใจครอบครัวหัวร้อน อ้อน “พุทธ” พาตรวจจิต รับก่อวีรกรรมทั่วไทยเป็นคาแรกเตอร์
-ตำรวจปัดใช้ว.จิ้มนมครอบครัวหัวร้อน ย้อนวีรกรรมด่าลั่นห่วงรถชนลูก ตลาดโต้ปล่อยซนจนเกือบตาย

กระทั่งวันที่ 25 ก.พ.64 ที่ผ่านมา นายพยอม แสงวันดี หรือ "ครอบครัวหัวร้อน" ให้สัมภาษณ์สดผ่านรายการทุบโต๊ะข่าว อมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 ว่า "อะไรที่ทำไม่ถูก ก็ขอโทษสังคม หลังจากนี้พี่พาไปตรวจหน่อยได้ไหม ว่ามันเป็นเพราะสันดานตัวเอง หรือเป็นโรคจิต เพราะถ้าเราอยู่ดี ๆ และไม่เดินไปหาเรื่องใคร มันก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้"

ล่าสุดวันที่ 26 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ย้อนเหตุการณ์และวีรกรรมต่าง ๆ ของครอบครัวหัวร้อน ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

643728612326

ในปี 2560 พิกัดจุดเกืดเหตุ บางศรีเมือง จ.นนทบุรี พฤติการณ์ นายพยอมขับรถยนต์ปาดหน้าคู่กรณี ก่อนเกิดเหตุทะเลาะวิวาทริมถนน จากนั้นไปก่อเหตุที่ จ.สุรินทร์ นางหทัยรัตน์ต่อว่าตำรวจที่ไม่ยอมดำเนินคดีกับคนเลี้ยงช้าง เนื่องจากว่าเจ้าตัวอ้างว่าถูกคนเลี้ยงช้างต่อว่า เพราะไม่ซื้ออ้อยใก้ช้างกิน   

103873256992

ในช่วงต้นปี 25561 พิกัดจุดเกิดเหตุ ห้างสรรพสินค้า จ.ตาก พฤติการณ์ นางฟทัยรัตน์ ถูกรถยนต์เหยียบเท้า จึงมีปากเสียงกับคู่กรณี จากนั้นวันที่ 10 พ.ค.61 มาก่อเหตุที่ อ.มาบตาพุด จ.ตาก นายพยอมกับครอบครัวมีปากเสียงกับตำรวจ กรณีจอดรถในที่ห้ามจอด และมีการถ่ายคลิปวิดีโอเผยแพร่บนโลกออนไลน์ 

308042449151

หลังจากวันที่ 10 พ.ค.61 ครอบครัวหัวร้อนไปก่อเหตุอีกในพื้นที่ จ.ระยอง พฤติการณ์พูดจาข่มขู่ป้าจ่อย พยานตำรวจ ในเหตุการณ์วันที่ 10 พ.ค.61 โดยอ้างว่าป้าจ่อยให้การเท็จกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งในปี 2563 อีกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน จ.ระยอง นางหทัยรัตน์ พยายามถ่ายคลิปเหตุการณ์ ขณะที่กำลังถูกชาวบ้านในตลาดล้อมรถยนต์และขับออกจากตลาด 

413939532237

กระทั่งวันที่ 10 ม.ค.64 พิกัดจุดเกิดเหตุ วัดลุ่มคงคาราม จ.นนทบุรี พฤติการณ์ครอบครัวหัวร้อน นางหทัยรัตน์ ใช้อาวุธปืนปลอมข่มขู่เด็ก ก่อนถูกชาวบ้านในพื้นที่ล้อมรถยนต์ และเหตุการณ์ครั้งล่าสุดวันที่ 24 ก.พ.64 พิกัดก่อเหตุที่ถนนอโศก-ดินแดง นายพยอมกับนางหทัยรัตน์ มีปากเสียงกับ ร.ต.อ.ปองภพ ริมถนน โดยใช้ภาษาและถ้อยคำหยาบคาย 

643788

จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยังวัดลุ่มคงคาราม อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นจุดที่ครอบครัวนายพยอม เคยมีเรื่องวิวาทกับคนในพื้นที่เมื่อวันที่ 10 ม.ค.64 ที่ผ่านมา สอบถามนายเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 14.00 น. ขณะที่ตนกับเพื่อนรวม 5 คน แต่งรถจักรยานยนต์อยู่ในศาลาวัด ขณะนั้นลูกชายนายพยอม และญาติอีกคน นั่งอยู่ในวัดเช่นเดียวกัน ก่อนที่พวกตนจะขับรถจักรยานยนต์เปิดเพลงออกไป

เวลา 17.00 น. ตนกลับมาที่วัด พบว่าครอบครัวนายพยอมประมาณ 8-9 คนขับรถกระบะเข้ามาในวัด น.ส.หทัยรัตน์ ภรรยานายพยอม ถือจอบมาถามว่า “ใครด่าลูกกู” ส่วนนายอิทธิพล ลูกชายก็ปรี่เข้ามาถามว่า ใครด่ากู พร้อมเอาปืนมาสไลด์ ด้วยความตกใจพวกตนจึงรีบขี่รถจักรยานยนต์หนี เหลือน้องอายุ 15 ปีอยู่ในศาลา นายอิทธิพลใช้ปืนจ่อศีรษะ พร้อมข่มขู่ว่า “ฝากบอกพี่มึงอย่าเก๋า” คาดว่าอีกฝ่ายคิดว่าพวกตนเบิ้ลรถใส่ และไปด่า ทั้งที่พวกตนไม่ได้ทำ

471810

ในระหว่างนั้น มีผู้ใหญ่ที่อยู่ในวัดเห็น จึงเข้าไปคุย อีกฝ่ายก็โวยวายว่าพวกตนจะใช้มีดฟัน ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไร จากนั้นจึงมีการเรียกตำรวจเข้ามา และปิดล้อมไม่ให้ครอบครัวดังกล่าวหนีไปไหน เพราะอยากให้ตรวจค้นรถมั่นใจว่ามีปืนอยู่ในรถ ซึ่งอีกฝ่ายไม่ยอมให้ตำรวจค้น ต้องเป็นตำรวจยศใหญ่เท่านั้น เมื่อตำรวจยศใหญ่มาก็บอกว่าแสงสว่างไม่พอ ต้องให้รถกู้ภัยมาเปิดไฟให้แสงสว่าง กว่าจะได้ตรวจค้นก็เกือบเที่ยงคืน ซึ่งก็พบปืนในรถ เป็นปืนปลอม

โดยพวกตนแจ้งข้อหาเรื่องการข่มขู่ อีกฝ่ายก็แจ้งข้อหาพวกตนเรื่องกักขังหน่วงเหนี่ยว เนื่องจากปิดล้อมไม่ให้ออกจากพื้นที่ ซึ่งตนก็ค่อนข้างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นปืนปลอมก็ไม่ควรทำแบบนี้ และทั้งครอบครัวก็ช่วยกัน โดยไม่มีการห้าม อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย ระบุว่า ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานทั้ง 2 ฝ่าย เนื่องจากต่างฝ่ายต่างแจ้งความกัน

651624

ทีมข่าวเดินทางไปพูดคุยกับครอบครัวหัวรัอน ขณะไปทำงานที่ จ.นครราชสีมา ได้พูดคุยกับ นายพยอม แสงวันดี อายุ 32 ปี ชายหัวร้อน เปิดเผยว่า จุดประสงค์ตามที่ตนได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทุบโต๊ะข่าวไปแล้วนั้น ว่าต้องการจะไปพบจิตแพทย์ เนื่องจากอยากทราบว่าการที่ครอบครัวของตนมีอาการหัวร้อน เวลามีอารมณ์โกรธ ไม่สามารถควบคุมสติตัวเองได้ อารมณ์จะฉุนเฉียวรุนแรง เป็นเพราะตนเป็นคนอารมณ์ร้อน หรือเป็นบุคคลที่มีอาการทางจิตรุนแรง หากเป็นผู้ป่วยทางจิตจะได้มีแนวทางการแก้ไข และหาแนวทางการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำอีก

966985

เพราะจากการสังเกตแล้วไม่ว่าจะเป็น ตน ภรรยาและลูก ก็จะมีลักษณะอารมณ์รุนแรง ฉุนเฉียว คล้ายกัน ตามคลิปที่ปรากฏเผยแพร่ออกไปในโซเชียลฯ ซึ่งความเป็นจริงตนไม่ได้มีเจตนาจะให้เกิดการทะเลาะวิวาท แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนมากบุคคลอื่นมักจะเติมเชื้อเพลิงกระตุ้นจุดอารมณ์ให้ตน และนิสัยตนคล้ายกับน้ำมัน จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ปะทะและหัวร้อนอยู่บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนอยากจะขอโทษคนในสังคม ซึ่งตนยืนยันว่าต่อไปนี้จะพยายามปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำอีก

831981205600

หลังจากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยัง รพ.จิตเวชนครราชสีมา ราชนครินทร์ เพื่อพานายพยอม เข้าพบจิตแพทย์รับฟังคำปรึกษา ในระหว่างนั่งรอ นายพยอม ก็ไม่ได้มีอาการตื่นเต้น หรือตื่นตัวแต่อย่างใด ยังคงนั่งคุยเล่นกับทางทีมข่าวตามปกติ โดยที่ไม่มีท่าทีใจร้อน หรือแสดงอาการผิดปกติแต่อย่างใด

387237

หลังจากการพบแพทย์เสร็จสิ้นทีมข่าว นายพยอม ให้ข้อมูลว่า จิตแพทย์ตรวจอาการเบื้องต้นพบว่า ตนไม่ได้มีอาการทางจิต แต่อาจจะเกี่ยวกับสภาวะอารมณ์ร้อน จึงจัดยาปรับฮอร์โมนในสมองเพื่อลดอารมณ์ใจร้อนทำให้ใจเย็นลง หากมีอาการรุนแรงขึ้นให้เข้าพบกับทางแพทย์จิตวิทยาที่มีความชำนาญเพื่อดูอาการคืบหน้าให้อีกครั้ง หากกินยาจนหมดจะนัดให้ตนไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลวันที่ 24 มี.ค.64 อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้มาพบแพทย์ ตนก็มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น ค่อนข้างโล่ง ที่ไม่ได้มีอาการทางจิต

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส