กรณีอุบัติเหตุบนถนนสายบ้านไผ่-บรบือ หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ในสภาพพังยับเยินล้อ ด้านหน้าหลุดออกจากตัวรถ
ใกล้กันพบร่างของ ด.ช.ธี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาหัก แต่ยังรู้สึกตัวดี ห่างออกไปพบรถยนต์ ทะเบียน 6164 ขอนแก่น ได้รับความเสียหาย โดยมีนางมยุรี อายุ 53 ปี เป็นผู้ขับขี่และคู่กรณี
ในระหว่างที่รอรถโรงพยาบาลมารับตัวคนเจ็บ แม่ของ ด.ช.ธี ผู้บาดเจ็บ ซึ่งมีอาชีพขายเนื้ออยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 500 เมตร รีบมาดูลูกที่เกิดอุบัติเหตุ ยืนร้องไห้ด้วยความเสียใจ จังหวะนั้นผู้เป็นพ่อได้เดินมาใช้มือตบที่ศีรษะจนล้มลงไปที่พื้นหญ้า
ทั้งนี้พ่อของด.ช.ธี ยังกล่าวตำหนิผู้เป็นแม่ว่า "บอกหลายครั้งแล้วว่า อย่าซื้อรถให้ลูก" ซึ่งรถจักรยานยนต์เพิ่งซื้อมาได้เพียง 8 วันเท่านั้น และยังไม่ได้ป้ายทะเบียนก็มาเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
ล่าสุดวันที่ 1 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง รพ.ศูนย์ขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ ด.ช.ธี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตึกอุบัติเหตุฉุกเฉิน ชั้น 3 เนื่องจากอาการยังสาหัส และต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นางอรนงค์ ไชยชนะศรี อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นแม่ของ ด.ช.ธี วันนี้เดินทางมาเยี่ยมลูกชายพร้อมกับญาติ เนื่องจากมาเยี่ยมตามกำหนดเวลาที่เข้าเยี่ยมได้ ช่วงเย็น 17.00 – 18.00 น. โดยสามารถเข้าเยี่ยมได้ครั้งละ 1 คน คนละ 10 นาทีเท่านั้น
นางอรนงค์ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุลูกชายกำลังขี่รถเพื่อจะไปบ้านไผ่ ลูกชายเล่าให้ตนฟังว่า ระหว่างเดินทางมาถึงที่จุดเกิดเหตุ กำลังจะแวะเข้าปั๊มน้ำมัน จังหวะนั้นมีรถเก๋งคู่กรณีขับมาที่จุดกลับรถ แล้วขับมาด้วยความเร็ว ซึ่งจังหวะนั้นลูกชายพยายามหักหลบแล้ว แต่คู่กรณีขับรถมาด้วยความเร็ว กระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว
สำหรับรถคันที่ลูกชายขี่นั้น มูลค่าคันละ 200,000 บาท ดาวน์ 50,000 บาท และซื้อเป็นเงินผ่อน จำนวน 2 ปี ผ่อนงวดละ 7,900 บาท เพื่อนำมาใช้ขับรถไปโรงเรียน เดินทางไปทำงานกิจกรรมต่าง ๆ ส่วนเหตุการณ์ที่ปรากฏขึ้นตามข่าว ที่สามีของตนเดินเข้ามาตบหัวในที่เกิดเหตุนั้น เนื่องจากต่างคนต่างรักลูก แต่ สามีของตนจะเป็นคนอารมณ์ร้อน และชอบแสดงพฤติกรรมแบบนี้ จังหวะนั้นตนไม่อยากติดใจอะไร เพราะห่วงลูกชาย สามีอาจจะแสดงออกมารุนแรงเกินไป แต่ตนไม่ติดใจอะไรกับสามี
จากเรื่องที่เกิดขึ้น กระแสข่าวที่ว่าตนซื้อรถให้ลูกนั้น เนื่องจากตนต้องการให้ลูกชายมีรถขี่ไปโรงเรียน อีกทั้งลูกชายบอกว่าจะตั้งใจเรียน ฉะนั้นการที่ตนซื้อรถให้ลูกชาย ตนมองว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะเป็นเรื่องปกติ ที่แม่จะซื้อรถให้กับลูก ตนยืนยันว่าตนรักลูกมาก ไม่มีแม่คนไหนอยากให้ลูกเจ็บ และไม่เครียดที่ถูกสังคมกล่าวโจมตีในทางเสียหาย วันนี้ลูกอาการดีขึ้นตามลำดับ รอผ่าตัดแขนและขาอีกครั้ง เนื่องจากต้องดูอาการอย่างใกล้ชิดด้วย ตนวอนสังคมให้เข้าหัวอกแม่ และหยุดโจมตีรุนแรง
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น บ้านของเด็กที่ประสบอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นร้านเขียงเนื้อ พบว่าวันนี้พ่อของเด็กนั่งอยู่ม้านั่งหน้าบ้าน มีมีดวางอยู่ใกล้ตัว และนั่งพูดเพ้อคนเดียว ไม่สนใจใคร และไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ เพื่อนบ้านของผู้บาดเจ็บ เนื่องจากพ่อของ ด.ช.ธี ไม่สามารถพูดคุยได้ โดยเพื่อนบ้าน เล่าว่า ที่ผ่านมาพ่อของน้องธี เป็นคนนิสัยดีมีน้ำใจกับเพื่อนบ้าน คอยช่วยเหลือเพื่อนบ้านอยู่เสมอ แต่เมื่อไม่นานมานี้พ่อของน้องธี ประสบอุบัติเหตุ กระทั่งอารมณ์และนิสัยเปลี่ยนไป บ้างก็โมโหรุนแรง บ้างก็นั่งพูดเพ้ออยู่คนเดียว วันนี้พ่อของน้องธีก็ถือมีดวางอยู่ข้างตัว แล้วนั่งที่ม้านั่งอยู่หน้าบ้าน พูดเพ้อเจ้ออยู่คนเดียว โดยไม่สนใจใคร และไม่ให้ใครเข้าใกล้ คาดว่าเกิดจากความเสียใจและเครียดที่ลูกชายประสบอุบัติเหตุ จนสติหลุดไปแบบนี้ ประกอบกับดื่มเหล้า
นอกจากนี้ เพื่อนบ้าน ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมาพ่อของน้องธี ไม่ใช่คนโวยวาย ไม่เคยทำร้ายหรือระรานเพื่อนบ้าน ไม่เคยมีปัญหารุนแรงในครอบครัว ไม่เคยทำร้ายร่างกายภรรยา แต่จากคลิปที่มีการตบหัวตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น อาจจะเกิดจากความเครียดที่รู้ว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัส