“อแมนด้า” เมินพ้นตำแหน่งทูตสุขภาพจิต หลังเผยจุดยืนการเมือง ลั่นลุยงานเพื่อสังคม (คลิป)

กรณีกรมสุขภาพจิตประกาศยุติการมอบหมายให้ "อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม" มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 เป็นทูตด้านสุขภาพจิต หลังมีบุคคลไปร้องเรียนถึงคุณสมบัติที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากอแมนด้าเป็นหนึ่งในนางงามที่ออกมาแสดงความเห็นทางการเมือง

โดยกรมสุขภาพจิตให้เหตุผลว่า รับทราบถึงความกังวลใจของประชาชนในขณะนี้ และกรมสุขภาพจิตไม่สามารถดำเนินภารกิจที่อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้ง และสร้างความไม่สบายใจแก่ประชาชนในสังคมได้ ทั้งนี้กรมสุขภาพจิตได้มีการปรึกษาหารือกับกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ และรับทราบร่วมกันถึงความกังวลใจของประชาชน

ทางกรมสุขภาพจิต จึงขอยุติบทบาทภารกิจทูตด้านสุขภาพจิตที่เคยมอบภารกิจการให้ช่วยเหลืองานด้านสุขภาพจิต ซึ่งมีหน้าที่ได้แก่ 1.ส่งเสริมภาพลักษณ์การทำงานด้านสุขภาพจิต 2.ประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเพื่อช่วยให้คนไทยมีสุขภาพจิตที่ดี 3.ปฏิบัติงานจิตอาสากรมสุขภาพจิต และ 4.ขยายเครือข่ายจิตอาสาเพื่อสร้างกระแสการเป็นผู้รับฟังที่ดี ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ล่าสุดวันที่ 2 มี.ค.64 “อแมนด้า” พร้อมทีมกองประกวด “ปุ้ย-ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” ผู้ถือลิขสิทธิ์การประกวด Miss Universe Thailand และ “ณะ-ณรงค์ เลิศกิตศิริ” National Director Miss Universe Thailand 2020 ได้ให้สัมภาษณ์แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

“อแมนด้า” เปิดใจว่า ส่วนตัวดีรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ รวมถึงโครงการ Have You Listened ที่จะคอยให้คำปรึกษา รับฟังของคนที่มีปัญหาสุขภาพจิตทุกด้านนั้นก็ถูกก่อตั้งขึ้นมาก่อนที่จะเข้าพบและขอคำปรึกษาจากกรมสุขภาพจิตด้วย เพราะถือว่าเป็นโครงการที่เกิดจากเสียงของหัวใจ เกิดจากประสบการณ์โดยตรงจากตัวเองและคนในครอบครัว จึงมองว่าวันนี้แม้จะเกิดอะไรขึ้น ก็ยังคงทำต่อไปให้ดีที่สุด เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคม ดังนั้นเพจไหนที่กำลังทำเรื่องนี้ ก็มั่นใจและสามารถติดต่อเข้ามาได้ ตนจะทำสุดความสามารถ

ด้านของ “พี่ปุ้ย” บอกว่า ก่อนอื่นต้องขออนุญาติท้วงติงเรื่องของการใช้คำว่า “ปลด” ที่หลายคนพูดกัน เพราะก่อนหน้าที่ทางกรมสุขภาพจิตไม่ได้แต่งตั้งให้ “อแมนด้า” เป็นทูตด้านสุขภาพจิตอย่างเป็นทางการ เป็นแค่การเข้าไปพูดคุยเหมือนกับคนอื่นที่มีความรู้ด้านนี้ทั่วไป จึงไม่ได้รู้สึกตกใจ เพียงแค่ความรู้สึกแปลกใจว่า ทำไมหนังสือออกมาในแนวนี้

สิ่งที่ “อแมนด้า” ได้พูดคุยในวันนั้น คือ ทางกรมสุขภาพจิต มอบหมายภารกิจและหน้าที่ทั้ง 4 ข้อในข้างต้นเท่านั้น เพื่อนำมาสานต่อในโครงการ Have You Listened

ก่อนที่ “พี่ปุ้ย” จะเล่าย้อนให้ฟังต้นเหตุของการเข้าไปร่วมงานกับกรมสุขภาพจิตว่า เดิมทีตนได้ยินการพูดคุยของ “อแมนด้า” ว่าจะทำโครงการแนวนี้อยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าจะทำจริง ซึ่งต่อมาจากการที่ได้สัมผัสก็รู้เลยว่า “อแมนด้า” ทำจริงแน่นอน และทุกอย่างออกมาจากแรงบันดาลใจ ประสบการณ์ที่พบเจอทั้งหมด ถึงขั้นที่ว่าทำให้ตนและทีมงานรู้สึกอิน รู้สึกว่าน่าจะเป็นผลดีต่อประเทศชาติ จึงมองว่าเพื่อความถูกต้องตามหลักวิชาการ ควรที่จะเข้าปรึกษากับกรมสุขภาพจิต ด้วยเหตุนี้ทางกองประกวดจึงตัดสินใจติดต่อไปยังกรมสุขภาพจิตเพื่อขอเข้าไปศึกษาข้อมูล องค์ความรู้เท่านั้น ไม่มีการร้องขอตำแหน่งใด ๆ

ก่อนที่จะมีประกาศฉบับนี้ออกมา ทางกรมสุขภาพจิตไม่ได้แจ้งให้ทางตนและกองประกวดรับทราบก่อนแต่อย่างใด และไม่ได้มีการพูดคุยกันโดยตรง มีเพียงแค่คุณหมอที่รู้จักติดต่อเข้ามา ซึ่งท่านก็ยืนยันว่าจะยังคงสนับสนุนโครงการที่ “อแมนด้า” เป็นแกนนำต่อไปเพื่อประโยชน์ของสังคม

ดังนั้น แม้ว่าทางกรมสุขภาพจิตจะยุตติบทบาททูตด้านสุขภาพจิตของ “อแมนด้า” แต่หากผู้ป่วยคนไหนถูกชะตากับน้องก็สามารถที่จะเข้ามาขอคำปรึกษา แลกเปลี่ยนเรื่องราวกันได้เหมือนเดิม

“อแมนด้า” กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกว่าการออกประกาศแล้วจะไม่สามารถร่วมงานกันได้อีก เพราะอย่างไรก็ตามการดำเนินการของโครงการ Have to listened ที่ตนทำอยู่ยังคงต้องขอความช่วยเหลือทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตนไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องราวเหล่านี้จะกระทบต่อภาพลักษณ์ในการที่จะเดินทางไปประกวดเวทีโลกที่จะถึงนี้แต่อย่างใด พยายามมองในแง่บวก พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เมื่อตนมีกระแสหมายความว่า จะพูดอะไรเสียงก็จะดังมากขึ้นมากกว่า โดยเฉพาะการขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ

ส่วนกระแสที่หลายคนบอกว่า เหตุผลของการประกาศยุตติบทบาทพูดด้านสุขภาพจิต ของกรมสุขภาพจิต มาจากการที่ “อแมนด้า” แสดงออกทางด้านการเมืองอย่างชัดเจนนั้น ทางกองประกวดและ “อแมนด้า” ก็บอกว่าในส่วนนี้ไม่ขอพาดพิง เพราะเราทุกคนคือคนไทย และทางกรมสุขภาพจิต ก็ไม่ได้แจ้งเหตุผลที่แท้จริงให้ตนทราบด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ตนก็ยังเดินหน้าสนับสนุนประชาธิปไตยต่อไป

สุดท้าย “อแมนด้า” กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่จะเสียใจมากกว่าถ้าวันนี้กองประกวดเกิดไม่สนับสนุนโครงการของตน และหลังจากนี้ก็จะขอเดินหน้าทำหน้าที่ตัวเองต่อไปอย่างเต็มร้อย แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งทูตด้านสุขภาพจิตแล้วก็ตาม เพราะทุกอย่างมันมาจากใจ จึงขออยากทำตามเสียงหัวใจ ไม่ใช่ทำไปเพราะตำแหน่ง