จากกรณี เมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 8 มี.ค. 64 น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี, น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ถูกกลุ่มคนร้าย 4 คน ยกพวกใช้ไม้เบสบอล และอาวุธปืนจี้บังคับให้ขึ้นรถกระบะ ผู้เสียหายได้แอบบันทึกเสียงกลุ่มผู้ก่อเหตุไว้ ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ จึงยึดเอาโทรศัพท์มือถือไอโฟน 11 มูลค่าประมาณ 20,000 บาทไป ก่อนนำตัวไปปล่อยทิ้งไว้ริมทาง เหตุเกิดขึ้นที่ภายในซอยเทพประสิทธิ์ 11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับ ร.ต.อ.หญิง ธัญญา อุดทอง รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา ไว้เป็นหลักฐานแล้ว แต่เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยในชีวิตประจำวัน
วันที่ 9 มี.ค. 64 น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุเกิดวันที่ 7 มี.ค. 64 ช่วงหัวค่ำ น.ส.มิ้น อายุ 18 ปี และน.ส.เพลง อายุ 18 ปี ที่เป็นเพื่อนในกลุ่มของตน ได้มีการนัดเคลียร์ปัญหากันที่บริเวณเขาตะโล ซ.8 บ้าน น.ส.มิ้น เนื่องจาก น.ส.เพลง นินทาและด่า น.ส.มิ้น ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะนั้น ตนและน.ส.บี เมื่อทราบเรื่องจึงเข้าไปดูด้วยเนื่องจากบ้านก็อยู่ห่างจาก จุดนัดเคลียร์ไม่มากนัก และเห็นว่าเป็นเรื่องของเพื่อน เมื่อไปถึง น.ส.มิ้นและน.ส.เพลง มีการทะเลาะวิวาทกันถึงขั้นตบตี แต่ในจังหวะนั้นยายของ น.ส.เพลง ออกมาเห็นเหตุการณ์จึงจะเข้ามาดึง น.ส.เพลง ออก
จากนั้นนายออฟ อายุ 18 ปี แฟนน.ส.มิ้น ง้างมือเหมือนจะทำร้ายยายของ น.ส.เพลง ที่จะเข้ามาห้าม แต่ยังไม่ได้ลงมือ คู่กรณีทั้ง 2 ตบกันจนเสร็จ ก่อนจะทำการแยกย้ายกัน กลับมาที่บ้านของ น.ส.มิ้น ขณะนั้นตนก็เข้าใจว่าเรื่องทุกอย่างจะจบเพราะเป็นเพียงปัญหาของเด็กทะเลาะวิวาทกันเท่านั้น
แต่ในขณะที่ตนและกลุ่มเพื่อนกำลังยืนอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านของ น.ส.มิ้น ก็มีรถกระบะขับมาจอดที่หน้าบ้าน ก่อนพบว่าเป็นนายอาร์ท พ่อเพลง, นางดรีม แม่เพลง และผู้ชายอีก 2 คน รวม 4 คน เดินลงมาจากรถพร้อมอาวุธปืน 1 กระบอก ไม้เบสบอล ขู่จี้ให้ตนและน.ส.บี ขึ้นรถไปด้วยตามวงจรปิด
ก่อนใช้สายชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือมัดทั้งมือและเท้า พาขับนั่งรถไปริมอ่างเก็บน้ำห้วยชากนอก อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งมืดเปลี่ยวไม่มีแสงไฟ และผู้คนสัญจรผ่านไปมา พยายามบังคับให้ตนลบคลิปตบกัน ซึ่งก่อนขึ้นรถตนได้แอบบันทึกเสียงไว้ขณะถูกจับขึ้นรถ แต่ผู้ก่อเหตุเห็น จึงดึงโทรศัพท์ของตนไป
อีกทั้งพยายามขู่บังคับให้ตนไปบอกกลุ่มเพื่อนที่เห็นเหตุการณ์ ขณะถูกคู่กรณีพาขึ้นรถไปถอนแจ้งความ พร้อมให้ นายออฟ กับ น.ส.มิ้น เพื่อนในกลุ่มมาขอโทษยาย ฐานที่ทำลวงเกินผู้ใหญ่ ถ้าไม่งั้น จะฆ่าตนและน.ส.บีทิ้ง ก่อนจะขับรถพาตนมาปล่อยตัวแถวบริเวณสี่แยกชัยพฤกษ์ให้นั่งวินไปที่ สภ. เพื่อติดต่อเพื่อนให้ถอนแจ้งความ โดยที่ยังคุมตัว น.ส.บี ปิดตาไว้ในรถคนเดียวไว้อยู่ ก่อนจะตัดสินใจขับรถพามาปล่อยทิ้งไว้ริมทางใกล้ เทพประสิทธิ์ซอย 11 และทำการหลบหนีไป ตนจึงประสานทางครอบครัว ขอดำเนินคดีเอาผิดผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้ถึงที่สุด เนื่องจากก่อเหตุอุกอาจและกระทำเกินกว่าเหตุเกินไป ที่เอาอาวุธมาข่มขู่ โชคดีที่ตนไม่ได้รับอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต
ด้านนายเอ (นามสมมติ) อายุ 43 ปี พ่อของน.ส.เอ เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่อง ตนก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้พาลูกเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อเร่งติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมารับโทษ ตามขั้นตอนของกฎหมายให้ได้โดยเร็ว อย่างไรก็ตามสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากตนมีโอกาสได้พูดกับทางกลุ่มคู่กรณี ตนอยากบอกว่า การกระทำที่เกิดขึ้น มันเกินไป ตนเชื่อว่าหากเป็นลูกของทางฝั่งผู้ก่อเหตุ โดนในลักษณะนี้ก็คงไม่ยอมเช่นเดียวกัน ทั้งนี้โชคดีที่ลูกสาวและเพื่อนลูก
ไม่ได้รับบาดเจ็บ หรือได้รับอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต อีกทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องปัญหาทะเลาะวิวาทของเด็ก คุณเป็นถึงผู้ใหญ่ก็ไม่น่าจะลงไม้ลงมือแต่อาจจะใช้คำพูดตักเตือนหรือสอนเด็กกลุ่มนี้แทนดีกว่า ไม่น่าจะใช้อาวุธถึงขั้นมาข่มขู่กันแบบนี้ พร้อมทั้งอยากจะให้ทางกลุ่มผู้ก่อเหตุ รีบกลับมามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเชื่อว่าหากคิดนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น
นางอ้อย ยายของ น.ส.เพลง เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนรู้เพียงว่าลูกของตนเดินทางไปที่จังหวัดตาก ตนพยามติดต่อแต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนกรณีที่ตนจะถูกนายออฟทำร้ายนั้น ตนยืนยันว่าขณะที่ น.ส.เพลง หลานสาวของตนกำลังตบกับ น.ส.มิ้น คู่กรณี ที่บริเวณหน้าบ้าน ตนที่เห็นเหตุการณ์พยายามจะเข้าไปห้ามหลาน แต่ถูกนายออฟด่าว่า "ค-ย ไม่ต้องยุ่ง" แล้วทำท่าเหมือนจะเข้ามาทำร้ายตน ตนจึงไล่เด็กวัยรุ่นดังกล่าวให้แยกย้ายกลับบ้านไป ส่วนกรณีที่ลูกของตนขับรถกระบะไปอุ้มเพื่อนของเด็กคู่กรณีเพื่อขู่ฆ่านั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะหลังจากที่ลูกชายของตนรู้เรื่องว่าตนจะถูกหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายจึงไม่ยอม เลยขับรถไปเพื่อหวังจะเอาตัวเด็กที่จะทำร้ายตนมาขอโทษตนที่บ้าน
ส่วนที่เด็กอ้างว่าอุ้มขึ้นรถไม่เป็นความจริง เด็กที่ขึ้นรถมานั้น ลูกชวนให้เดินขึ้นรถมาเอง จุดประสงค์เพื่อต้องการจะให้ลบคลิป ที่หลานสาวกับทางคู่กรณีตบกัน แต่เจ้าตัวไม่ยอมลูกชายเลยพาไปปล่อยไว้ข้างทางให้กลับบ้าน ไม่ได้เป็นการอุ้มเพื่อขู่ฆ่าแต่อย่างใด อีกทั้งอาวุธปืนหรือไม้ที่ถูกกล่าวหาว่านำไปใช้ข่มขู่เด็กไม่มีแน่นอน อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น