จากกรณีวันที่ 8 มี.ค.64 เวลา 10.50 น. พ.ต.ต.ธนัช ศรีประมาณ สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านได้ยินเสียงปืน และมีผู้บาดเจ็บถูกด้ามอาวุธปืนตีที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บ บริเวณบ้านแห่งหนึ่ง ภายในซอยสัตหีบสุขุมวิท 79 ซอยเย็นฤดี ม.6 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
หลังรับแจ้งได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบนายซี (นามสมมติ) อายุประมาณ 55 ปี ถูกด้ามอาวุธปืนตีศีรษะจนได้รับบาดเจ็บ เหนือคิ้วซ้ายแตก โดยภายในบ้านพบกองเลือดไหลเป็นทาง มีนายนบดี อายุ 49 ปี ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมถืออาวุธปืนแม็กกาซีน ขนาด .45
ใกล้กันพบ น.ส.ใหม่ อายุ 40 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุ ยืนดูเหตุการณ์ด้วยอาการตกใจ บริเวณหน้าบ้านเจ้าหน้าที่ตำรวจพบปลอกกระสุนปืน จำนวน 1 ปลอก และรูวิถีกระสุนบริเวณพื้นดินหน้าบ้าน จึงได้ทำบันทึกที่เกิดเหตุ และเก็บภาพไว้เป็นหลักฐานแล้วนั้น
วันที่ 9 มี.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณบ้านในซอยสัตหีบสุขุมวิท 79 ซอยเย็นฤดี ม.6 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายนบดี หรือ พจน์ อายุ 49 ปี เจ้าของบ้าน ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ภรรยาของตนคือ น.ส.ใหม่ คบกันมานาน 7-8 ปี ตอนแรกที่คบกันก็ดี แต่ช่วง 2-3 ปีหลัง หลังจากที่ตนไม่ได้ทำอาชีพไต๋เรือที่ อ.สัตหีบ แล้วเปลี่ยนมาทำอาชีพ รปภ. เนื่องจากมีปัญหาทางธุรกิจ แฟนของตนก็มีนิสัยเปลี่ยนไป จากปกติเป็นคนชอยเที่ยวกลางคืนอยู่แล้ว ก็ยิ่งเที่ยวหนัก ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็เคยเตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นสักวัน
กระทั่งเหตุเกิดวันที่ 8 มี.ค. เวลาประมาณ 09.00 น. ได้เดินทางกลับมาบ้านหลังงานเสร็จ เมื่อถึงบ้านจึงเรียกภรรยาที่นอนอยู่ในห้องให้เปิดประตู แต่ภรรยาก็ไม่ยอมเปิด และตนสังเกตเห็นว่ามีร้องเท้าผู้ชายวางไว้อยู่หน้าห้องนอนของภรรยา จึงได้แกล้งถามไปว่า ขอยืมเงิน 100 บาท ภรรยาก็ตอบกลับมาว่า "จ้า จ้า" แต่ก็ไม่ยอมเปิดและเงียบหายไป ตนก็ยิ่งเอะใจ
จังหวะนั้นตนปวดท้องพอดี เลยเดินไปเข้าห้องน้ำในบ้าน ภรรยาก็รีบอาศัยจังหวะเดินออกมาจากห้อง เพื่อเก็บรองเท้าผู้ชายเข้าห้องนอน ตนจึงมั่นใจว่าต้องมีผู้ชายอยู่ในห้องนอนของภรรยา จึงโทรตามพวกมาหวังงัดประตู แต่ภรรยาก็เดินออกมาจากห้อง และล็อกประตูห้องไว้ทันที ขณะนั้นตนพยายามขอกุญแจเปิดห้อง แต่ภรรยาก็ไม่ให้ โดยอ้างว่าจะรีบออกไปทำธุระนอกบ้าน ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไป
ตนจึงตัดสินใจปืนเข้าห้องทางช่องกระจกระบายลมห้องน้ำของห้องนอน ปรากฎว่าพบมีผู้ชายอื่นอยู่ในห้องนอน ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นเห็นตนและพยายามจะวิ่งหนี ตนจึงใช้ด้ามอาวุธปืน โค้ว 11 มม. ที่ซื้อเก็บไว้ ฟาดเข้าไปที่บริเวณศีรษะของชายรายดังกล่าว จนได้รับบาดเจ็บหัวแตกเลือดไหลเต็มพื้น แต่ยังไม่หยุดพยายามจะวิ่งหนีไปหน้าบ้าน ตนและเพื่อนจึงรีบวิ่งมาดักที่หน้าบ้าน และบอกชายรายดังกล่าวว่า "ห้ามลงมาจากบ้าน ถ้าลงมายิงนะ" ก่อนยิงขู่ลงพื้นไปจำนวน 1 นัด เพื่อให้ชายรายนั้นกลัว พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ เข้ามาตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยืนยันว่าตนไม่เคยรู้จักชายดังกล่าวที่เข้ามาอยู่ในห้องนอนของภรรยาตนกัน 2 ต่อสอง มาก่อน จึงทำให้มั่นใจว่าเป็นคนสนิทของภรรยาตนแน่นอน หลังจากเกิดเหตุทางคู่กรณีก็ไม่ยอมเอาเรื่องตน ทั้งที่ตนอยากจะให้ทางคู่กรณีเอาเรื่องแท้ ๆ อีกทั้งทางเจ้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถดำเนินคดีได้ เพราะบอกกับตนว่าภรรยาเป็นคนพาชายรายดังกล่าวเข้าบ้านมาเอง ดังนั้นไม่มีความผิด ตนจึงงงกับกฎหมายไทย
สุดท้าย ตนก็คงจะต้องเลิกกับภรรยา แต่ต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้ง หลังจากที่ภรรยากลับมาบ้านก่อน เพราะหลังจากเกิดเหตุภรรยาก็ยังไม่กลับบ้านมาเลย พร้อมทั้งอยากจะฝากเดือนถึงบุคคลอื่นให้ดูเคสนี้เป็นอุทาหรณ์ หากจะเลือกคบใคร ควรเลือกให้ดี ๆ จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเหมือนกับตน