รวบแล้วไอ้เอ็ม เผารถ - ปาบ้านครูสาว หลังส่งแชตขอสัมพันธ์ทำผวานับปี ยายรับป่วยจิต (คลิป)

10 มี.ค. 64

จากเหตุการณ์วันที่ 9 มี.ค. 64 ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพเหตุการณ์ ขณะชายรายหนึ่งถือวัตถุบางอย่าง เดินมาหยุดที่บริเวณข้างบ้านหลังหนึ่ง ก่อนที่เขาจะขว้างวัตถุที่อยู่ในมือใส่บ้านหลังดังกล่าว และเดินกลับออกไปอย่างช้า ๆ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

180828280354215305

โดยหลังเกิดเหตุครูสาว ผู้เสียหายได้นำคลิปดังกล่าวมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยระบุว่า ถูกชายคนดังกล่าวก่อกวนในลักษณะนี้หลายครั้ง และผู้เสียหายต้องทนอยู่ด้วยความหวดระแวงมานานหลายปี โดยไม่มีหน่วยงานไหนจัดการกับชายผู้ก่อเหตุอย่างเด็ดขาดได้ ล่าสุด ตำรวจจับกุมนายสราวุธ หรือ เอ็ม อายุ 27 ปีแล้วนั้น

281953

วันที่ 10 มี.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางไปยังบ้านหลังเกิดเหตุ ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เมื่อไปถึงพบเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ด้านล่างเปิดเป็นร้านรับซ่อมรถจักรยานยนต์ แต่บริเวณรอบบ้านจุดที่เสียหายทางครอบครัวได้ทำการเก็บกวาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

755827

น.ส.อภิญญา สารศรี อายุ 28 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอมัญจาคีรี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายสราวุธ หรือเอ็ม อายุ 27 ปี คนในหมู่บ้านเดียวกัน เหตุเกิดวันที่ 9 มี.ค.64 เวลาประมาณ 23.00 น. หลังจากที่ตนเองเตรียมข้อมูลการเรียนการสอนเสร็จ ปิดไฟกำลังจะนอน มีเสียงของแข็งกระแทกเข้ากับกระจกหน้าต่างห้อง ก่อนที่กระจกจะตกแตกกระจายลงพื้น ด้วยความตกใจตนเองจึงรีบเปิดประตูออกจากห้อง เพื่อที่จะมาส่องดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ทันระวังทำให้เศษกระจกบาดที่บริเวณฝ่าเท้า และเมื่อออกมาส่องกระจกดูก็พบว่ามีชายคนหนึ่งซึ่งตนรู้จักดี เพราะเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันที่เคยมาก่อกวนตนเองบ่อยครั้ง กำลังเดินออกไปจากบริเวณข้างบ้าน ตนเองจึงเปิดไฟและร้องเรียกพ่อแม่ที่อยู่ข้างล่างให้มาช่วยเหลือพร้อมกับสำรวจความเสียหาย รวมทั้งเปิดกล้องวงจรปิดดูก็พบว่าผู้ที่มาก่อเหตุคือนายสราวุธ

882642

นางสาวอภิญญา กล่าวต่อว่า ตนเองไม่ทราบว่าทำไมนายเอ็มถึงชอบมาก่อกวนตนเองไม่เลิก หรือมีอาการป่วยทางจิต ทั้งที่ตนไม่เคยไปทำอะไรให้ แต่หากจะให้คาดเดาก็มีอยู่เรื่องเดียวคือก่อนหน้านี้เมื่อประมาณปี 2558 นายเอ็มเคยทักแชตเฟซบุ๊กมาหาตนเองในลักษณะขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่ตนเองไม่สนใจ และไม่ตอบ จากนั้นนายเอ็มก็เริ่มส่งข้อความที่มีถ้อยคำหยาบคาย และด่าทอตนเองมาเรื่อย ๆ หนักเข้า จนถึงขั้นแอบมาก่อเหตุทำลายทรัพย์สิน เช่น-จุดไฟเผ่าไร่อ้อยของพ่อแม่ เมื่อต้นปี 2558 จุดไฟเผาร้านเกมของพี่ชายปลายปี 2558 แอบมาปาของแข็งเข้าบ้านปี 2560 จุดไฟเผารถจักรยานยนต์ของลูกค้าที่นำมาซ่อมจนวอดทั้งคัน รวม 2 คันคันที่ 1 ปี 2562 คันที่ 2 เมื่อปี 2563 ล่าสุดวันที่ 5 มี.ค.64

396361

โดยหลังก่อเหตุ แต่ละครั้งรวม 7 ปี ทางครอบครัวตนก็ไปแจ้งความ และครอบครัวนายเอ็มก็มาขอโทษหลายครั้ง พร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่ก็ยังถูกนายเอ็มตามก่อกวนไม่เลิก ทำให้ทุกวันนี้ต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง เพราะไม่รู้ว่าวันข้างหน้านายเอ็มจะมาก่อเหตุอะไรที่รุนแรงมากกว่านี้หรือไม่

675569823141

อย่างไรก็ตามหากมีโอกาสได้พูดกับทาง ผู้ก่อเหตุตนก็อยากจะถามว่า "เพราะอะไร ทำไมถึงต้องทำพฤติกรรมแบบนี้" ขณะนี้หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปนั้น ตนก็ยังมีความกังวลว่าอาจจะกลับมาก่อเหตุดังกล่าวซ้ำ เพราะทางตำรวจไม่ได้จับติดคุกดำเนินคดี แต่จับส่งตัวไปรักษาอาการที่ รพ.จิตเวช เป็นระยะเวลา 14 วัน ตนต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดระแวง

586293

ด้านนางทองคูณ จันทร์สมุทร อายุ 70 ปี ยายของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ส่วนตัวสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็รู้สึกตกใจและเสียใจที่หลานชายไปก่อเหตุดังกล่าว แต่ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ทำได้เพียงแค่ปลงและทำใจที่หลานชายต้องมีพฤติกรรมแบบนี้ เนื่องจากหลานชายป่วยมีอาการทางจิตมานานหลาย 10 ปี ตนและสามีต้องเลี้ยงหลาน มาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากพ่อแม่ของหลานชายไปทำงานอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก

ปกติแล้วหลานชายของตนเป็นคนนิสัยดี แต่หากอาการทางจิตกำเริบก็จะพูดจาไม่รู้เรื่อง อีกทั้งยอมรับว่าหลานชายมีการยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดบ่อยครั้ง ตนเองกล่าวตักเตือน แต่หลานชายก็ไม่ยอมฟัง อีกทั้งเคยพาไปรักษาบำบัดอาการทางจิตที่โรงพยาบาลจิตเวชแล้ว แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น และกลับมาเป็นแบบเดิม ส่วนกรณีที่ไปก่อเหตุดังกล่าวที่บ้านของคุณครูสาวนั้น ครั้งนี้ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นครั้งแรก แต่หลานชายไปก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ครอบครัวตามไปเคลียร์ชดใช้ค่าเสียหายมาแล้วก็หลายครั้ง พร้อมทั้งกล่าวคำขอโทษนับครั้งไม่ถ้วน แต่หลานชายก็ยังกลับไปก่อเหตุดังกล่าวซ้ำอีก อย่างไรก็ตาม หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการควบคุมตัวหลานชายไปแล้วนั้น ตนก็รู้สึกดีใจและอยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวหลานชายของตนไปรักษาบำบัดอาการทางจิตให้หายขาด จะได้ไม่ต้องมาก่อเหตุดังกล่าวอีก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส