วันไตโลก โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ เชิญชวนประชนชน ลดการบริโภคอาหารที่มีรสเค็มให้น้อยที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อน และสุขอนามัยที่ดีต่อสุขภาพ
สมาคมโรคไตไม่สนับสนุน "ถั่งเช่า" ชี้ไร้ผลวิจัยว่าช่วยรักษา ซ้ำยังพบทำไตเสื่อม
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกกำหนดให้วันพฤหัสบดีที่ 2 ของเดือนมีนาคม เป็น “วันไตโลก” ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 11 มีนาคม 2564 จึงถือเป็นโอกาสดีที่จะรณรงค์ให้คนไทยเกิดความตระหนักในการป้องกันโรคไต ในปัจจุบัน คนไทยป่วยด้วยโรคไตเรื้อรังประมาณ 8 ล้านคน ซึ่งโรคไตเป็นกลุ่มโรคที่เกิดจากระบบการทำงานของไตผิดปกติ ทำให้ไตไม่สามารถขับของเสียหรือรักษาความสมดุลของเกลือและน้ำในร่างกายได้ โรคไตมีสาเหตุหลายอย่าง ได้แก่ โรคซึ่งเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่นโรคถุงน้ำในไต (polycystic kidney disease) โรคที่ทำให้เกิดการอักเสบของไต (glomerulonephritis) โรคที่เกิดจากการอุดตันของทางเดินปัสสาวะเช่นจากนิ่ว และที่สำคัญคือโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่มีรสเค็มจัด หวานจัดเป็นประจำ ทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไป ความเครียดสะสม พักผ่อนไม่เพียงพอ ไม่ออกกำลังกาย ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน โรคความดันโลหิตสูง และเกิดโรคเบาหวานตามมา ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายที่พบบ่อยที่สุด
นายแพทย์สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วิธีการดูแลและป้องกันการเกิดโรค ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำร้ายไต และหันมาดูแลสุขภาพตนเอง ดังนี้ งดรับประทานอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ลดการทานอาหารสำเร็จรูป เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวกล่องในร้านสะดวกซื้อ อาหารกระป๋อง เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมในปริมาณมากโดยไม่รู้ตัว ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เนื่องจากมีสารพิษต่อไตโดยตรง ควบคุมน้ำหนักให้ได้มาตรฐาน รับการตรวจสุขภาพประจำปี อย่างไรก็ตามหากพบอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป
ด้าน อย. ชวนผู้บริโภค ลดหวาน มัน เค็ม โดยเฉพาะรสเค็ม หนึ่งในปัจจัยเสี่ยงโรคไต เน้นให้เลือกผลิตภัณฑ์อาหารที่แสดงสัญลักษณ์โภชนาการ "ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice)" เพื่อให้ได้คุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมกับสุขภาพ ลดเสี่ยงโรค NCDs
ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลก หรือ WHO กำหนดให้วันพฤหัสบดีที่สองของเดือนมีนาคมของทุกปีเป็นวันไตโลก (World Kidney Day) เพื่อให้คนทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญของไตต่อสุขภาพองค์รวม และมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคไต และการป้องกันโรคอย่างเหมาะสม โดยในปีนี้ตรงกับวันที่ 11 มีนาคม 2564 ซึ่งจัดขึ้นในธีม “Living Well with Kidney Disease” สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารอย่างเหมาะสม ลดหวาน มัน เค็ม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติตต่อเรื้อรัง หรือที่เรียกว่าโรค เอ็น ซี ดี (Non-communicable diseases: NCDs) เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะไตวายเรื้อรัง หัวใจและหลอดเลือด และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารให้มองหาสัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice)” บนฉลาก เครื่องหมายนี้จะบอกว่า ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ มีปริมาณสารอาหาร เช่น น้ำตาล ไขมัน โซเดียม ที่เหมาะสมต่อสุขภาพมากกว่าเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกัน เช่น น้ำปลาทั่วไป 1 ช้อนชา จะมีโซเดียมประมาณ 450 มิลลิกรัม แต่น้ำปลามีสัญลักษณ์นี้บนฉลาก 1 ช้อนชา จะมีโซเดียมไม่เกิน 300 มิลลิกรัม เป็นต้น
ขณะนี้มีผลิตภัณฑ์อาหารที่แสดงสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพให้เลือกซื้อถึง 11 กลุ่ม เช่น กลุ่มอาหารมื้อหลัก กลุ่มเครื่องดื่ม กลุ่มอาหารกึ่งสำเร็จรูป กลุ่มนม เป็นต้น รวมแล้วกว่า 2,000 รายการ สามารถหาซื้อได้จากซุปเปอร์มาเก็ต ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าเพื่อสุขภาพ และร้านค้าทั่วไป รองเลขาธิการฯ กล่าวในตอนท้าย
เตือน คนไทยติดหวาน เสี่ยงสารพัด โรคอ้วน แนะลดน้ำตาล ดื่มน้ำเปล่าดีที่สุด
ลุงแท็กซี่ เผยชีวิตรันทด ขับรถไป ล้างไตไป แถมลูกชายยังไม่สนใจไยดี