รวบแล้ว! ไอ้โอ๋ข่มขืนยายขาขาดสั่งสอบสิบเวรปล่อยหนี เผยสุดแสบขูดหินสลัดกุญแจมือ (คลิป)

จากกรณีวันที่ 15 มี.ค. 64 ภาพจากกล้องวงจรปิดของสถานีตำรวจภูธรหนองเรือ จ.ขอนแก่น สามารถบันทึกภาพขณะที่ นายอัฉริยะ สีทา หรือ โอ๋ อายุ 24 ปี ชาวบ้าน ต.บางภาษี อ.บางเลน จ.นครปฐม ผู้ต้องสงสัยในคดีข่มขืนหญิงพิการ อายุ 79 ปี ซึ่งขาขวาขาดเหนือเข่า ภายในสำนักสงฆ์วัดป่าบ้านหนองโน ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากเจ้าตัวได้วิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ควบคุมห้องขังไปพร้อมกุญแจมือ ขณะที่เจ้าตัวอ้างว่าจะนำปัสสาวะที่เหลือจากการตรวจไปทิ้งขยะหน้าสถานีตำรวจ ห่างจากอาคารประมาณ 20 เมตร วิ่งข้ามถนนมะลิวัลย์ ไปขโมยรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำแดง หมายเลขทะเบียน งกค 498 ขอนแก่น ขับหลบหนีไปทาง อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ โดยตำรวจชุดสืบสวนได้เร่งล่าตัว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาดำเนินคดีเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย เตรียมแจ้งอีก 3 ข้อกล่าวหา พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับจากศาล ได้แก่ 1.ข่มขืนหญิงอื่นที่ไม่ใช้ภรรยาของตนเอง 2.ลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ และ 3.หลบหนีการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังเคยมีประวัติเคยต้องโทษเสพยาเสพติดมาเมื่อปี 2561 มาก่อน โดยตั้งรางวัลนำจับเป็นเงิน 10,000 บาท กับผู้ที่แจ้งเบาะแสจนสามารถจับกุมตัวได้

วันที่ 16 มี.ค. 64 ทีมข่าวได้เดินทางไปยังสำนักสงฆ์วัดป่าบ้านหนองโน ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ ที่เกิดเหตุ หลวงตานิเวศน์ อายุ 80 ปี อดีตสามีของคุณยายผู้เสียหาย บวชมา 3 พรรษา ผู้เสียหายตามมาปฏิบัติธรรมและคอยดูแลกัน พาทีมข่าวไปดูที่เกิดเหตุ พบที่เกิดเหตุเป็นที่พักสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก สร้างจากเหล็ก นายโอ๋ปีนเข้าไปภายในห้องพัก เหยียบเหล็กแล้วเข้าไปกระทำการอนาจาร

หลวงตานิเวศน์ บอกว่า ในวันเกิดเหตุ ภรรยาของอาตมาได้สวดมนต์เข้านอนตั้งแต่ช่วงค่ำ ล็อกโซ่ห้องจากด้านใน กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. นายโอ๋ได้ปีนเข้ามาข่มขืนภรรยา โดยใช้ผ้าอุดปากพร้อมพูดว่าอย่าส่งเสียงดัง และขู่ว่าจะทำร้าย จากนั้นนายโอ๋ก็ได้หยิบลูกกุญแจแล้วปีนหนีออกไป ภรรยาของอาตมาพยายามส่งเสียงร้องเรียกให้ช่วย แต่ไม่มีใครได้ยิน จึงตีกระทะที่แขวนอยู่ในห้อง ส่งเสียงร้องเรียกให้คนช่วย อาตจึงรีบเดินมาหาแต่ไม่สามารถเปิดประตูได้ เนื่องจากไม่มีกุญแจ อาตมาจึงโทรหาญาติแล้วแจ้งความ ภรรยาของอาตมาบอกว่า "ฉันถูกข่มขืน"

จนเวลาประมาณ 06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมางัดห้องช่วยเหลือ ภรรยาของอาตมาต้องนั่งร้องไห้อยู่ภายในห้องประมาณ 4 ชั่วโมง จากนั้นในช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมตัวนายโอ๋ แล้วพามาแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ แต่อาตมาไม่ได้อยู่รอดู เนื่องจากออกไปบิณฑบาต

ทั้งนี้ นายโอ๋นั้นเป็นคนงานปลูกกระชายใกล้กับสำนักสงฆ์ เพิ่งย้ายมามาทำงานได้เพียง 5 เดือน ไม่รู้ว่าอะไรดลใจที่ทำให้นายโอ๋กล้าทำร้ายคนแก่ ที่พิการขาขวาขาดเหนือเข่าจากอุบัติเหตุเมื่อประมาณ 50 ปีก่อน อาตมาไม่รู้จะพูดอย่างไรถึงเหตุการณ์นี้ แต่อาตมาเชื่อว่าผู้มีจิตใจเป็นมนุษย์ ไม่น่าทำเช่นนี้ เหตุการณ์นี้ถือเป็นเวรกรรม คาดว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนมีบาปหนา อาตมาเพียงเป็นห่วงกำลังใจของครอบครัว ได้แต่ปลอบใจกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจรับปากว่าจะจับนายโอ๋ให้ได้ใน 3 วัน แต่ถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับนายโอ๋ไม่ได้ ไม่สามาถเอาผิดทางกฎหมายได้ แต่เวรกรรมก็จะตามไปลงโทษเอง

เวลาประมาณ 17.45 น. ตำรวจชุดสืบสวนสามารถจับกุมนายอัจฉริยะ สีทา หรือ โอ๋ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับได้ที่กระท่อมในพื้นที่บ้านหนองโน ต.บ้านเม็ง พร้อมรถจักรยานยนต์ของกลางใกล้กับจุดเกิดเหตุ สำนักสงฆ์วัดป่าบ้านหนองโน 100 เมตร จากนั้น เวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พาตัวนายโอ๋มาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.หนองเรือ โดยที่นายโอ๋ไม่ตอบคำถามใด ๆ ว่าทำจริงหรือไม่ หลบหนีทำไม คิดว่าจะหนีรอดไหม

เวลาประมาณ 20.20 น. พนักงานสอบสวน สภ.หนองเรือ สอบสวนนายโอ๋เสร็จสิ้น พาเดินเข้าห้องขัง ทีมข่าวได้พยายามสอบถามนายโอ๋ เจ้าตัวบอกว่า "อยากขอโทษที่ทำผิดไป ต่อไปจะกลับตัว ตอนก่อเหตุตนทำไปเนื่องจากหน้ามืด เพราะเสพยาเสพติด เป็นอารมณ์ชั่ววูบ อยากขอโทษทุกคนที่ตนทำสิ่งที่ไม่ดีลงไป"

โดย พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 และ พ.ต.อ.ภพกร กวินโยธิน ผกก.สภ.หนองเรือ ระบุว่า เบื้องต้นนายโอ๋ยอมรับทุกข้อกล่าวหา หลังจากหลบหนีไปซ่อนอยู่ในกระท่อมใกล้กับจุดก่อเหตุข่มขืน เจ้าตัวมีพฤติการณ์ขับรถหลบซ่อนวนไปวนมาในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับตัวนายโอ๋ได้พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ขโมยไป ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้คาดว่าเวลา 09.00 น. จะมีการชี้จุดขโมยรถจักรยานยนต์ และพูดคุยกับเจ้าของรถจักรยานยนต์อีกครั้ง ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจล่าช้าในการเข้าควบคุมตัวขณะนายโอ๋วิ่งหลบหนีไปขโมยรถจักรยานยนต์

ด้านนายถาวร มาตชาลี อายุ 61 ปี เจ้าของไร่ ที่นายโอ๋เดินทางมาตัดกุญแจมือ บอกว่า ตนไม่รู้จักกับนายโอ๋เป็นการส่วนตัว โดยในวันที่ 15 มี.ค. นายโอ๋ได้เดินทางมาหลบที่ไร่ของตน จากนั้นนายโอ๋ก็ได้ตัดกุญแจมือทิ้ง ตนไม่ทราบว่านายโอ๋ตัดออกได้อย่างไร แต่สังเกตเห็นว่านายโอ๋นำกุญแจมือไปถูกับหิน

จากนั้นนายโอ๋ก็ได้สอบถามตนว่า "ผมจะหนีรอดไหม" แล้วเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ตนไม่รู้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ แต่ตนก็ได้บอกไปว่าให้นายโอ๋นำของที่ขโมยมาไปคืน แล้วไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเจรจาชดใช้ผู้เสียหายทุกคน จากนั้นในช่วงค่ำ เวลาประมาณ 19.00 น. นายโอ๋ก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์หายไป

จนกระทั่งวันนี้ในช่วงเช้า หลังจากนายโอ๋ซื้อยาเส้นแล้ว ก็ได้เดินทางมาหาตนอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตามมาจับกุมตัว แต่นายโอ๋ก็ได้หลบซ่อนไป จึงทำให้คลาดกัน อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากจะบอกนายโอ๋ว่าขอให้มอบตัวแล้วยอมรับผิด