กรณีเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ขอความเป็นธรรม โดยระบุว่า เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรม เพราะขับรถมาสอบแต่ต้องถูกล็อกล้อและโดนปรับอีก 200 บาท
ทั้งนี้มีข้อความระบุว่า "เนื่องจากวันนี้ เรามาสอบแล้วก็โดนล็อกล้อตามที่เห็น แถมยังโดนปรับอีก 200 บาท เพื่อที่จะให้ยามมาปลดล็อกล้อให้ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ไม่อนุญาตให้นักศึกษาทุกชั้นปี นำรถเข้ามาจอดในมหาวิทยาลัย ถึงแม้ว่าจะขอทำบัตร เพื่อเข้ามาจอดภายในมหาวิทยาลัยก็ไม่อนุญาต เพราะสงวนที่จอดรถไว้ให้กับคณะอาจารย์ และบุคลากรเท่านั้น เราเลยถามไปว่า หากฝนตกก็ให้นักเรียนขี่รถมอเตอร์ไซค์เข้ามาภายในมหาวิทยาลัยเท่านั้นหรือ เขาบอกว่าใช่ เพราะมันเป็นกฎของทางมหาวิทยาลัย ที่ได้ตั้งเอาไว้ถ้าอยากจะนำรถยนต์มาให้ไปจอดข้างนอกมหาวิทยาลัยที่เสียเงิน 20 บาท อยากทราบว่าเราเสียเงินค่าเทอมแล้ว แต่ทำไมไม่สามารถจอดรถภายในมหาวิทยาลัยได้”
โดยเรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นดรามาตามมา เพราะชาวโซเชียลฯ เสียงแตกเป็น 2 ฝั่ง ส่วนหนึ่งรู้สึกเห็นใจนักศึกษารายนี้ และมองว่าหากนักศึกษาจ่ายค่าเทอม ควรมีสิทธิ์เท่าเทียมกันกับคณะอาจารย์และบุคลากร แต่ก็มีบางรายได้เข้ามาอธิบายถึงเหตุผลของการห้ามนักศึกษานำรถมาจอด เนื่องจากพื้นที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ มีพื้นที่ค่อนข้างน้อย ที่จอดรถน้อย และทุกวันนี้อาจารย์บุคลากรก็ไม่ได้จอดครบทุกคัน เสียเงินจอดที่เอกชนเหมือนกัน นักศึกษามีจำนวนมากกว่ากี่เท่า หากอนุญาตให้นำมาจอดได้ ก็คงยังไม่เพียงพอเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งก็พบว่าภายในมหาวิทยาลัย มีรถจอดกันอย่างเนืองแน่น โดยรถที่จอดภายในมหาวิทยาลัยนั้น จะเป็นรถของอาจารย์และบุคคลากรที่ได้รับอนุญาต และมีสติกเกอร์จากทางมหาวิทยาลัย หากต้องการเข้ามามาติดต่อราชการ จะต้องแลกบัตรที่ป้อมยามทางเข้า
ส่วนนักศึกษาไม่อนุญาตให้นำรถยนต์มาจอดภัยในมหาวิทยาลัย อนุญาตเพียงแต่รถจักรยานยนต์เท่านั้น เนื่องจากพื้นที่ภายใมมหาวิทยาลัย แค่รถของอาจารย์บุคลากร ก็แทบจะไม่เพียงพออยู่แล้ว นักศึกษาจะต้องนำรถยนต์ไปจอดที่ของเอกชน ซึ่งอยู่ด้านหลังมหาวิทยาลัย โดยคิดคันวันละ 20 บาท
นายศักดิ์ หัวหน้ารปภ.ของมหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า รถของนักศึกษาที่เข้ามาจอดนั้น ได้แจ้งกับรปภ.ด้านหน้าว่า จะเข้ามาส่งเพื่อนแล้ววนออก ทางรปภ.จึงอนุญาตให้เข้ามา จากนั้นก็ได้ตีเนียนจอดรถภายในมหาวิทยาลัย ซึ่งรปภ.ก็เดินตรวจตราดูแลความเรียบร้อย และมาพบรถของนักศึกษา ซึ่งไม่มีสติกเกอร์ จึงได้ล็อกล้อและนักศึกษาก็ได้ไปชำระค่าปรับเรียบร้อยแล้วตนจึงปลดล็อกให้ ส่วนประเด็นที่ว่ามีการพักการเรียนนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามไปยัง นักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้โพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าว เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุตนจอดรถยนต์ที่คณะวิทยาศาสตร์ เพื่อมาสอบ จึงขับรถยนต์เข้ามาจอดในพื้นที่มหาวิทยาลัย เมื่อสอบเสร็จลงมาที่รถก็พบว่าถูกติดใบห้ามจอด พร้อมมีคำสั่งปรับเงิน 200 บาทในที่ห้ามจอด จากนั้นเมื่อจ่ายค่าปรับให้มหาวิทยาลัยแล้ว ก็มี รปภ.เข้ามาปลดล็อกล้อรถ ตนมองว่าเป็นเรื่องที่เกินเหตุ เพราะตนก็เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย จ่ายค่าเทอมครบตามกำหนด แต่กลับไม่มีสิทธิ์จอดรถ และยังเคยโดน รปภ.ไล่ให้ไปจอดในที่เอกชน
ส่วนสาเหตุที่ตนตัดสินใจออกมาโพสต์ เนื่องจากทนไม่ไหวกับเรื่องที่เกิดขึ้น และยืดเยื้อมานาน มีหลายคนโดนมาตลอด ตนมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่รุนแรงเกินไป และตนเป็นนักศึกษา การขับรถมาเรียนเพื่ออำนวยความสะดวก และรวดเร็วมากขึ้น จึงอยากให้มหาวิทยาลัยแก้ปัญหา รวมทั้งไม่ปรับเงินครั้งละ 200 บาท