เมื่อวันที่ 18 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านแสลงโทน หมู่ 1 ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือครอบครัวที่กำลังได้รับความเดือดร้อน จากลูกชายที่เสพยาจนหลอน แล้วก่อเหตุข่มขืนแม่ตัวเองขณะเมาสุราเป็นประจำ ส่วนพ่อก็แก่ชราแล้ว
วันที่ 19 มี.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่ บ้านแสลงโทน หมู่ 1 ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ บ้านหลังที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน สภาพภายในบ้านเป็นพื้นดินยังไม่ได้เทปูน มีห้องนอนจำนวน 2 ห้อง บริเวณครัวซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าห้องนอนมีสังกะสีปิดไว้
ลูกสาวคนโตของผู้เสียหาย พาทีมข่าวเข้าไปดูในห้องนอนของผู้ก่อเหตุ อยู่ด้านในสุด ภายในห้องไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า มีเพียงเสื่อ มุ้ง เก้าอี้ และอุปกรณ์การเสพยา ทั้งไฟแช็ก ยาสูบ และขวดน้ำสำหรับเสพกัญชา ซึ่งอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คน คือ พ่อวัย 67 ปี แม่ 51 ปี และลูกชาย 21 ปี ที่บ้านมีพี่น้องทั้งหมด 2 คน แต่ลูกสาวคนโตย้ายออกจากบ้านไปมีครอบครัว อาศัยอยู่ที่ บ้านหัววัว ห่างที่เกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร
นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ลูกสาวคนโตของผู้เสียหาย พี่สาวของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อ 3 วันที่แล้วช่วงเย็น ตนเพิ่งจะทราบเรื่องโดยเพื่อนส่งข้อความมาบอก ตนก็เข้าไปหาพ่อทันที แต่ไม่เจอนายเอ็ม ผู้ก่อเหตุ พ่อเล่าให้ฟังว่าเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. พ่อกลับมาที่บ้านพบว่าแม่นอนอยู่ที่พื้นในสภาพไม่ใส่กางเกง มีนายเอ็มยืนอยู่ใกล้ พอนายเอ็มเห็นพ่อ จึงเอาไม้ไล่ทุบตีพ่อ แต่พ่อวิ่งตะโกนให้ทุกคนช่วย นายเอเลยหลบหนีออกไปจากบ้าน และเมื่อวานนี้เพิ่งจะกลับมา
เมื่อวานนี้ ตนได้เข้ามาพูดคุยกับนายเอ็ม ตนมาพูดเกลี้ยกล่อมว่าจะพาไปรักษาให้หายดี นายเอ็มจึงยินยอม ขณะนี้นายเอ็มอยู่ในความดูแลของโรงพยาบาล มีอาการโวยวาย หมอต้องจับมัดแขนขา และใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่เพื่อให้นอนติดเตียงไป
ทั้งนี้ นางแดง แม่ของตนถูกนายเอ็มข่มขืนมาประมาณ 5-6 ปีแล้ว แต่ไม่เคยบอกใคร และทุกคนเพิ่งจะมาทราบเรื่อง หลังจากที่พ่อบังเอิญเข้าไปพบว่าแม่ถูกข่มขื่น เพราะแม่กลัวว่าจะถูกนายเอ็มทำร้ายร่างกาย นายเอ็มมักจะทุบตีพ่อแม่เป็นประจำ จึงต้องจำยอม ส่วนตัวไม่เคยถูกลวนลามหรือทำร้าย แต่เมื่อหลายเดือนก่อนนายเอ็มเคยพูดกับตนว่า "ขอจับนมหน่อย" พอตนได้ยินก็ดุด่าไปทำให้นายเอ็มกลัว เพราะนายเอ็มจะเกรงใจตนที่สุด อีกทั้งเคยมีพฤติกรรมแก้ผ้า สำเร็จความใคร่โชว์คนอื่นด้วย
หลังจากนี้ ตนคงจะให้แม่กับพ่ออาศัยอยู่ที่เดิม แต่นายเอ็มคงจะไม่ให้อยู่แล้ว เพราะถ้ากลับมาคงจะใช้ชีวิตวนกลับมาเหมือนเดิม คือ หากมีเงินก็จะนำไปซื้อยา อย่างไรก็ตาม ตนจะดำเนินการให้ถึงที่สุด ถึงแม้ว่าหายดี ทุกคนก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ ตนขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เห็นใจและเข้ามาช่วยเหลือ
นายดำ (นามสมมติ) อายุ 67 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุ เดินไม่ค่อยถนัด มีอาการหลังค่อม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 มี.ค. เวลาประมาณ 13.00 น. นางแดง ภรรยาของตนกำลังนอนอยู่ที่พื้นหน้าห้องนอน ส่วนนายเอ็ม ลูกชายมีอาการเมายาแล้ว ขณะนั้นตนได้ออกไปซื้อยาเส้น เมื่อตนเดินกลับที่บ้าน นายเอ็มกำลังก่อเหตุข่มขื่นนางแดง ตนมาเห็นลูกชายตกใจแล้ววิ่งหนีไป และมาทำร้ายร่างกายตนเป็นประจำ
แต่ก่อนวิ่งหนีได้ถือมีดมาขู่ ส่วนตัวไม่เคยเห็นนายเอ็มข่มขืนนางแดง เป็นครั้งแรกที่จับได้ แต่ตนเคยเห็นนายเอ็มลูบไล้ตามตัวของนายแดงมาแล้วหลายครั้ง แต่ตาของตนไม่ค่อยดี จึงมองไม่ค่อยถนัด เลยไม่แน่ใจว่าทำอะไรบ้าง
นอกจากนี้ หากนายเอ็มมีอาการเมายาจะกระทำไม่ดีใส่ตน เช่น ถือไม้ไล่ตีตน ถือมีดข่มขู่ อีกทั้งขณะที่ตนนั่งกินข้าวอยู่ นายเอ็มก็มาถุยน้ำลายใส่จานข้าว ลูกชายของตนติดยาหนัก และเป็นคนที่ไม่ดี กับแม่ก็ทำไม่ดี มักจะใช้ให้นางแดงป้อนข้าวให้เป็นประจำ อย่างไรก็ตาม บางครั้งตนก็รักนายเอ็ม แต่พอนึกถึงสิ่งที่นายเอ็มกระทำ ตนก็รับไม่ได้
หลังจากที่นายเอ็มถูกจับไปโรงพยาบาล ตนก็รู้สึกโล่งออก และคงจะไม่ไปเยี่ยม ขอให้อยู่ที่นั่นต่อไป เพราะก่อนหน้านี้ตนต้องนอนน้ำตาไหลทุกคืน และใช้ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น ทั้ง นี้ตนขอให้เจ้าหน้าที่รับนายเอ็มไปดูแลตลอดชีวิต และไม่ต้องกลับมาอีก เพราะหากนายเอ็มกลับมา ก็จะทำพฤติกรรมเหมือนเดิมอีก
นางแดง (นามสมมติ) อายุ 50 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า นายเอ็มก่อเหตุข่มขืนตนมานานกว่า 4-6 ปีแล้ว ทุกครั้งที่เมายา จะบังคับตน และลากตนไปข่มขืน ตนต่อสู้ไม่ได้ เพราะลูกชายตัวใหญ่กว่า ถึงแม้ว่าตนจะขอร้อง นายเอ็มก็ไม่เคยฟัง หลังจากที่ก่อเหตุ นายเอ็มจะรับรู้ว่าทำอะไร แต่จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ บางครั้งนายเอ็มก็บังคับให้ตนช่วยทำทุกอย่างให้ เช่น ให้ช่วยบีบยาเส้นกับยาสูบให้
ทั้งนี้ สาเหตุหลักมาจากนายเอ็มติดยา ใช้ทั้งยาสูบ ยาเส้น ยาบ้า เป็นแบบนี้มาตั้งแต่อายุ 15 ปี และทุกครั้งที่อาการกำเริบจะมารังแกตน ตอนนี้ลูกชายของตนอยู่โรงพยาบาล ซึ่งตนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับนายเอ็มติดคุกไป และขอให้ดำเนินคดีความตามกฎหมาย เพราะนายเอ็มอยู่ที่บา้นก็ไม่ได้ทำอะไร
หากนายเอ็มออกมาใช้ชีวิตข้างนอก ตนก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เพราะทั้งตนและสามีอายุเยอะมากแล้ว จึงสู้กับนายเอ็มไม่ไหว และต้องอยู่อย่างทรมาน อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่ารู้สึกสงสารลูกชาย แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ด้านนางสาวมณีวรรณ นานรัมย์ อายุ 34 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า วันที่ 16 มี.ค. นายเอ็มก่อเหตุข่มขืนแม่ และผู้เป็นพ่อกลับมาจากร้านค้าข้าไปเห็นพอดี นายเอ็มมีอาการเมายา และกิจวัตรประจำวันคือชอบช่วยตัวเอง ส่วนตัวเจอเป็นประจำ ครั้งล่าสุดที่เจอ คือช่วงบ่ายของวันที่ 16 มี.ค. ตนจะไปรับลูกสาว และเห็นนายเอ็มยืนช่วยตัวเองอยู่ข้างบ้าน พอนายเอ็มเห็นตน ก็ยืนทำต่อจนเสร็จกิจ
นอกจากนี้ นายเอ็มมักจะเปิดอวัยวะเพศของตัวเองให้คนอื่นดู ยิ่งคนอื่นมองหรือต่อว่าจะยิ่งทำให้ดู บางครั้งก็เล่นยาให้ชาวบ้านเห็น แต่เวลาปกติ ตอนที่ไม่เมาเหล้านายเอ็มก็ยกมือไหว้ทุกคนและแต่งตัวดี ส่วนการข่มขื่นแม่ ตนไม่เคยทราบมาก่อน เพราะนายเอ็มจะลากแม่เข้าไปก่อเหตุในบ้าน นายเอ็มไม่เคยก่อเหตุลวนลามคนอื่น และจะทำแค่ในบริเวณบ้าน ทุกคนเห็นเป็นประจำ แต่ทำอะไรไม่ได้ พฤติกรรมดังกล่าว ทำให้คนแถวนี้รู้สึกหวาดกลัว เพราะภายในชุมชนมีเด็กเล็กเยอะ และเกรงว่าหากเมายาหนัก จะก่อเหตุกับคนอื่น
นอกจากนี้ นายเอ็มยังเคยสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ก่อเหตุขโมยของ เช่น กระเป๋าเงิน เพื่อนำไปซื้อยามาเสพ ด้วยเหตุนี้บ้านหลังอื่นเลยมักจะปิดประตูบ้านไว้ประจำ เพื่อความปลอดภัย ตนรู้สึกกลัวมากบ้าน ทั้งนี้ ตนขอให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเช้ามาจัดการ และจับไปติดคุกนาน ๆ หรือไม่ก็รักษาให้หายขาด เพราะถ้ากลับมาแล้วดีขึ้นตนก็พอรับได้ แต่หากเป็นเหมือนเดิม ก็ไม่ควรจะกลับมาอีก