วันที่ 20 มี.ค. 64 ที่บริเวณรอบนอกสนามหลวง ฝั่งศาลฎีกา กลุ่มมวลชนราษฎร REDEM ได้นัดรวมการแสดงพลังของมวลชน โดยนัดหมายการชุมนุมตั้งแต่เวลา 18.00-21.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตู้คอนเทนเนอร์ 2 ชั้น พร้อมลวดหนามหีบเพลง มากั้นไว้ตรงบริเวณถนนราชดำเนินใน มุ่งหน้าพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่ศาลฎีกายาวจรดผ่านกลางสนามหลวงไปถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวเข้าไปของกลุ่มมวลชนที่มาในวันนี้ นอกจากนี้ บนตู้คอนเทนเนอร์ยังได้มีการนำผ้าสแลนสีเขียวมาเสริมทับความสูงอีก 1 เมตร
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการปิดการจราจรตรงบริเวณถนนราชดำเนินใน นำรั้วเหล็กมาปิดกั้นก่อนถึงพระแม่ธรณีบีบมวยผม บรรยากาศเวลา17.00น. มีกลุ่มมวลชนทยอยกันเข้ามาร่วมการชุมนุม บริเวณหลังพระแม่ธรณีบีบมวยผม โดยมีการร้องรำทำเพลง เสียดสีรัฐบาล
ต่อมาเวลา 17.35 น. พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม อ่านประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงให้ยุติการชุมนุม เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.ควบคุมโรค เวลา 17.40 น กลุ่มมวลชนได้นำรถขยายเสียงจำนวน 2 คันเข้ามาในพื้นที่พร้อมเรียกร้อง "ปล่อยเพื่อนเรา"
เมื่อเวลา 17.50 น. มวลชนได้ทยอยเดินเข้าไปชุมนุม บริเวณท้องสนามหลวง กลุ่มศิลปะปลดแอกได้ทำว่าวมาหลากหลายสี มาให้แก่มวลชนที่มาร่วมชุมนุม เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ปล่อยขึ้นบนท้องฟ้ากลางสนามหลวง
ต่อมาได้นำผ้าขาวมาให้แก่มวลชนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวข้อกฎหมายเพื่อเขียนข้อความแสดงออก ขณะเดียวกันเวลา 18.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามช่วยกันดึงตู้คอนเทนเนอร์ที่อยู่ชั้นบนลงมา กระทั่งเวลา 19.00 น กลุ่มมวลชนสามารถดึงตู้คอนเทนเนอร์ออกได้ ตำรวจได้มีการฉีดน้ำออกมาเตือนกลุ่มผู้ชุมนุม 3 รอบ เป็นเพียงน้ำเปล่า พร้อมกันนั้นมีเสียงดังคล้ายกับประทัดดังขึ้น
ทั้งนี้ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามเข้าไปภายในพื้นที่เขตหวงห้าม จากนั้นตำรวจได้ฉีดน้ำ พร้อมกับมีเสียงดังเกิดขึ้นเรื่อย ๆ มากกว่า 10 ครั้ง โดยตำรวจควบคุมฝูงชนมีการฉีดน้ำมีกลิ่น แต่ไม่ส่งผลต่อร่างกาย พร้อมประกาศให้ผู้ชุมนุมถอยออกไป และยุติการชุมนุม หากเข้าพื้นที่จะจับกุมทันที
จากนั้น 19.18 น. ผู้ชุมนุมอ้างว่าน้ำแสบตา ทำให้แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนบุรี ประกาศให้ผู้ชุมนุมเข้าไปใจกลางสนามหลวงไม่ปะทะ ระบุว่าจะชุมนุมอย่างสันติ แต่มีเสียงดังคล้ายระเบิดหลายนัดในเวลา 19.30 น. แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าเป็นอาวุธหรือไม่ จากนั้นมีการฉีดน้ำต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์ท่ามกลางสถานการณ์ที่ชุลมุน มีการขว้างปาสิ่งของ มีการประกาศใช้กระสุนยางกับผู้ฝ่าฝืน
ต่อมาเวลา 19.45 น. ตำรวจกระชับพื้นที่จนถึงพระแม่ธรณีบีบมวยผม ทำให้ผู้ชุมนุมถอยกระจัดกระจาย มีเสียงดังขึ้นและมีป้าคนหนึ่งถือป้ายขอคืนความสุขให้ประชาชน ระหว่างที่ชุดควบคุมฝูงชนกระชับพื้นที่ถึงกลางแยก เจ้าหน้าที่ประกาศต่อเนื่องให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ทันที
เวลา 20.27 น. ใกล้เคียงท้องสนามหลวง ฝั่งถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศให้ถอยกลับออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยและจะมีการนัดการชุมนุมใหม่ในภายหลัง ซึ่งมีเสียงดังขึ้นหลายครั้งต่อเนื่อง รวมถึงมีกลุ่มควันภายในพื้นที่ ซึ่งยังไม่ได้รับรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บในครั้งนี้
ส่วนบริเวณแยกคอกวัว มีการเตรียมเจ้าหน้าที่และกำลังรถควบคุมตัวไว้แล้ว พร้อมดูแลสถานการณ์กันมวลชนออกจากพื้นที่ทั้งหมด
เวลา 21.00 น. ถนนราชดำเนิน ใกล้แยกคอกวัว อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการจุดไฟเผาบริเวณแผงเหล็กกั้นใกล้ท้องสนามหลวง มีควันลอยทั่ว พร้อมมีเสียงดังขึ้น เป็นการเผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่และมวลชนผู้ชุมนุม อีกทั้งมีการรื้อต้นไม้ที่เกาะกลางถนนระหว่างนั้นด้วย
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่หน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ เมื่อเวลา 21.00 น. ว่าตั้งแต่เกิดเหตุความวุ่นวายเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามประกาศแจ้งเตือนให้ผู้ชุมนุมหยุดพฤติกรรมดังกล่าว รวมทั้งมีการประกาศให้ยุติการชุมนุม เพราะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
ซึ่งในเวลาต่อมากลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการทำลายสิ่งกีดขวางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจัดเตรียมเอาไว้ ทั้งตู้คอนเทนเนอร์ รั้วลวดหนาม ในเวลาเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้มีประกาศเตือนย้ำชัดเจนอีกครั้งว่าขอไม่ให้มีการทำลายทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ แต่ก็ไม่เป็นผล ผู้ชุมนุมยังคงเดินหน้าเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจึงได้ประกาศเตือนและเริ่มทำการฉีดน้ำ เข้าควบคุมกลุ่มผู้ร่วมชุมนุม ขณะนั้นสามารถควบคุมตัวได้ 5 ราย นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเองมีการใช้อาวุธโต้ตอบเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งประทัด ก้อนหิน หัวน็อต ลูกแก้ว และสิ่งของอื่น ๆ จนเป็นผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 6 นาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามใช้หลักความอดทนควบคู่ไปกับหลักทางกฎหมายอย่างถึงที่สุดแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาพยายามขอความร่วมมือให้มวลชนและผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเดินทางกลับบ้าน ส่วนกรณีการควบคุมตัวมวลชนที่ปรากฏในภาพเจ้าหน้าที่ชุดกระชากกลุ่มมวลชน อยากให้มองว่ากลุ่มมวลชนดังกล่าวมีการโต้ตอบและขัดขืนการจับกุมก่อน เจ้าหน้าที่จึงต้องปฏิบัติในลักษณะนั้น ยอมรับว่าปฏิบัติการผลักดันให้มวลชนออกจากพื้นที่ มีการใช้ทั้งรดน้ำ แก๊สน้ำตาแบบยิง และกระสุนยางเป็นการพิจารณาการใช้แบบเบาไปหาหนัก
เวลา 21.12 น. บริเวณหน้าหอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร มีเสียงคล้ายระเบิดใหญ่ดังสนั่น 1 ครั้ง และยังคงมีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถน้ำแรงดันสูงฉีดน้ำเพื่อทำการดับเพลิงไฟบริเวณถนน อีกทั้งเจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำสลายการชุมนุมใส่ผู้ชุมนุม ประกาศเตือนให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมสลายการชุมนุม ทุกคนวิ่งกระจายออกจากบริเวณดังกล่าว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมีการจับผู้ชุมนุมบางส่วน และเหตุการณ์สงบลง