สาวถูกแทงของลับทรุด แก๊งเมียหลวงแจงคลิปถือไม้แค่มุมภาพ พยานแฉพลิกลิ้น (คลิป)

จากกรณีนายธวัช นิตสมบูรณ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช นำ น.ส.จิรษา นิตสมบูรณ์ อายุ 21 ปี ลูกสาวของน.ส.จิราวรรณ แก้วเพชร อายุ 39 ปี ร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสื่อว่า น.ส.จิราวรรณถูกกลุ่มบุคคลในหมู่บ้านเดียวกันรุมทำร้ายอย่างโหดร้าย ป่าเถื่อน อำมหิต โดยจับแก้เปลือยล่อนจ้อน ก่อนรุมทุบตีจนกะโหลกศีรษะร้าว ร่างกายบวม ใช้ไม้ไผ่ด้ามไม้กวาดแทงทะลวงเข้าไปในอวัยวะเพศ จนอวัยวะภายในฉีกขาดนั้น

วันที่ 22 มี.ค. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่ย้อนกลับไปที่รีสอร์ตจุดเกิดเหตุ เปิดให้บริการแบบรายวัน มีจำนวนห้องพัก 25 ห้อง แยกเป็นห้องพักส่วนตัว ด้านหน้าสามารถจอดรถได้ มีผ้าม่านสำหรับปิดเพื่อความเป็นส่วนตัว ห้องจุดเกิดเหตุคือห้องหมายเลข A2 ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ไม่ไกลจากส่วนพนักงานต้อนรับของรีสอร์ต ลักษณะรีสอร์ตค่อนข้างเงียบ อยู่ริมถนนหมายเลข 4103

เจ๊หมี (นามสมมติ) อายุ 54 ปี เจ้าของรีสอร์ต พาทีมข่าวย้อนกลับไปที่ห้องจุดเกิดเหตุ สำรวจทุกซอกทุกมุมของห้อง ยืนยันว่าภายในห้องไม่ได้มีไม้กวาด ที่ตักขยะ หรือท่อนไม้ที่มีลักษณะแข็งตามที่ฝ่ายของผู้เสียหายกล่าวอ้างว่าเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ และสภาพห้องดังกล่าวก็เหมือนโรงแรมทั่วไป มีสิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ แต่ไม่มีตู้เย็น น้ำดื่มและแก้วให้บริการ พร้อมกับโต๊ะเครื่องแป้ง เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเก้าอี้ 1 ชุด พร้อมกับห้องน้ำให้บริการ 1 ห้อง

ประตูทางเข้าห้องเกิดเหตุสีขาว กลอนล็อกประตูด้านในอยู่ในสภาพเสียหาย ยังไม่ได้รับการซ่อมแซม ลูกบิดประตูหลักยังคงใช้การได้ปกติ เผื่อมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูที่เกิดเหตุ แต่หลังจากนี้เมื่อทุกอย่างคลี่คลายก็จะซ่อมแซม พร้อมเปิดให้ใช้ห้องดังกล่าวตามปกติ

เจ๊หมี กล่าวว่า วันเกิดเหตุ 21 ก.พ. เวลา 16.40 น. รถฟอร์จูนเนอร์ของนายบูรณ์ขับเข้ามาส่งคนเจ็บ จากนั้นฝ่ายผู้หญิงได้เดินเข้าไปภายในห้องคาดว่าไปทำธุระส่วนตัวและอาบน้ำ ส่วนผู้ชายได้ขับรถฟอร์จูนเนอร์ออกจากรีสอร์ตไป 10 นาที แล้วกลับเข้ามาใหม่ โดยนายบูรณ์พยายามเคาะประตูเรียกให้ฝ่ายผู้หญิงเปิดประตูให้ แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ จึงได้เดินมาแจ้งกับตนเองให้นำกุญแจไปเปิด แต่เมื่อเปิดลูกบิดแล้วพบว่ามีการล็อกจากด้านใน ทำให้เปิดจากด้านนอกไม่ได้ ตนเองจึงบอกให้กับฝ่ายชายว่าให้เรียกคนข้างในมาเปิดให้เท่านั้น เพราะเป็นการล็อกจากด้านใน

หลังจากนั้น 10-20 นาที พบว่าภรรยาของฝ่ายชายเดินทางมาพร้อมกับลูก มีปากเสียงทะเลาะกันเสียงดัง ทำนองว่าข้างในใครอยู่ เปิดประตูได้หรือไม่ ถ้าไม่เปิดจะพังประตู แต่ฝ่ายชายก็อ้างว่าไม่สามารถเปิดได้ จากนั้นได้ขึ้นรถฟอร์จูนเนอร์ขับหนีออกไป ทิ้งให้ภรรยาและลูกเคลียร์ปัญหาอยู่ที่หน้าห้องภายในรีสอร์ต จังหวะนั้นตนเองก็ได้ไปทำความสะอาดและดูแลห้องพักห้องอื่น ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้น แต่สักพักก็ได้ยินเสียงพังประตู และรีบเข้าไปที่เกิดเหตุโดย เวลาห่างไม่ถึง 5 นาที ก็พบว่านางแข้งกำลังมีลักษณะเหมือนถีบและเตะคนเจ็บที่นอนอยู่บนพื้น มีลูกชายและลูกสาวพยายามห้ามปราม บอกว่า "แม่อย่าทำเขา" ตอนนั้นตนเองก็พบว่าทางด้านของน.ส.จิราวรรณนอนอยู่บนพื้นช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ยกมือได้เล็กน้อย น้ำลายไหลออกข้างแก้ม พูดจาไม่รู้เรื่อง ตนเองพยายามถามว่ามาจากไหน คนเจ็บก็ไม่พูด จึงได้ตัดสินใจแจ้งรถกู้ภัยให้มารับตัวส่งโรงพยาบาล

ภาพจากกล้องวงจรปิด ของวันที่ 21 ก.พ. เวลา 17.24 น. เป็นช่วงเวลาที่นางแข้งและลูกได้เข้าไปพังประตู น.ส.จิรานันท์ ลูกสาวของผู้ถูกกล่าวหาเดินตรงไปที่รถกระบะ คล้ายกับไปหยิบอะไรบางอย่าง คล้ายท่อนไม้ลักษณะสีดำ เดินตรงไปที่ห้องจุดเกิดเหตุและมีนางแข้งเดินเข้าไปตามหลัง

น.ส.จิรษา ลูกสาวคนเจ็บ เปิดเผยว่า ตนเองสับสนเกี่ยวกับการให้ข้อมูลแต่ละครั้งของนางแข้ง เพราะก่อนหน้านี้ตนเองจำได้แม่นว่า มีการโทรมาเล่าให้ฟัง และยังไปป่าวประกาศให้คนในหมู่บ้านรับรู้ว่าเป็นคนลงมือทำร้ายร่างกายแม่ของตัวเอง ยังมีการเอาไม้ทิามแทงอวัยวะเพศ ตอนเองก็เห็นสภาพแม่เป็นไปตามที่นางแข้งสารภาพมาเองทั้งหมด แต่ทำไมการออกมาให้สัมภาษณ์ถึงพูดคนละแบบกับสิ่งที่ยอมรับมาก่อนหน้า อ้างว่าแม่ล้มเอง น้ำลายไหล และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ข้อมูลที่ตนเองได้รับกลับมีความขัดแย้งกัน กับการกระทำที่นางแข้งเคยทำเอาไว้ ที่สำคัญแม่ไม่ได้มีโรคประจำตัว จึงเป็นไปไม่ได้ที่แม่จะล้มลงหัวฟาดพื้น เพราะถ้าหากอ้างว่าล้มลง ทรัพย์สินของแม่ก็จะไม่เสียหาย อีกทั้งร่างกายตามตัวแม่ก็จะไม่บอบช้ำ

และในวันแรกที่ตนเองรับรู้ว่าแม่โดนทำร้าย ก็ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาล แม่ยังอาการทรงตัวดี ไม่ถึงกับต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ โดยแม่พยายามสื่อสารเท่าที่พอคุยได้ ใช้นิ้วบอกเป็นสัญญา 4 นิ้ว พร้อมกับทุบหน้าอก พูดเบา ๆ ว่า "4 คนทืบ ทืบ 4 คน ทืบทืบ" คือสิ่งเดียวที่ตนเองได้รับฟังจากปากแม่ ก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัดและอาการทรุดตัวลง

จนกระทั่งเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนชีพจรเหลือเพียงแค่ 45 หมอจึงต้องปั๊มหัวใจคืนกลับมา และล่าสุดหมอก็ยังบอกให้ทุกคนทำใจ พร้อมกับเรียกญาติให้ไปรวมตัวกัน เพราะเชื่อว่าคนเจ็บอาจจะไม่รอด ตนเองรู้สึกสงสารแม่ และอยากให้แม่ได้รับความเป็นธรรม

ตนขอโต้กลับกรณีที่นางแข้งกล่าวหาว่ามีการโทรข่มขู่จะใช้อาวุธปืนยิงว่า ตนเองเป็นเพียงแค่ชาวบ้านธรรมดา และไม่ได้มีเรื่องของอาวุธปืน ไม่มีใครโทรข่มขู่ ไม่มีใครไปก่อกวนฝั่งของนางแข้ง ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการโทรข่มขู่ว่าจะใช้อาวุธปืนยิง อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่ามีชาวบ้านหลายคนรู้เรื่องนี้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของตนเอง

รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ หรือ มศว เปิดเผยว่า ได้ดูภาพบาดแผลของคนเจ็บแล้ว มีความเห็นว่าจากลักษณะบาดแผลที่ก้น เป็นแผลเกิดจากการกดทับชัดเจน แผลนี้ไม่ใช่แผลที่ถูกกระทำ โดยผู้บาดเจ็บนอนติดเตียงมาประมาณ 1 เดือน หมดสตินอนโรงพยาบาลโดยไม่ขยับตัว นอนบนเตียงนาน ๆ โอกาสเกิดแผลกดทับบริเวณนี้มีสูง ส่วนบาดแผลที่แผ่นหลัง ด้านบนซ้ายเกือบถึงหัวไหล่ ลักษณะบาดแผลเหมือนรอยแผลกดทับ

สำหรับริ้วรอยบาดแผลกลางแผ่นหลัง น่าจะเกิดจากกระทำหรือถูกกระแทกอย่างรุนแรง แผลจะเป็นสีแดง ผ่านไปจะเป็นสีเขียวหรือม่วง และจะจางลงเป็นสีเหลืองและหายไป บาดแผลคนเจ็บที่หลังลักษณะสีม่วงและกำลังจะจางไป คาดว่าอาจถูกของแข็งไม่มีคน กระแทกมาที่แผ่นหลัง เพราะแผลกดทับมักจะเกิดที่ก้นกบสะบักจะไม่เป็นรอยที่แผ่นหลังแบบนี้

ส่วนประเด็นที่คนเจ็บ โดนด้ามไม้กวาดแทงอวัยวะเพศ สำหรับบาดแผลถูกของแข็งเข้าไปในอวัยวะเพศผู้หญิง หากใช้ไม้กวาดจะมีรอยขูดถลอก ฉีกขาด ช่องคลอดถ้าแทงลึกเข้าไปอาจมีแผลที่มดลูกจนบาดเจ็บ และอาจติดเชื้อเข้าสู่ช่องท้องได้ ขณะที่หากเป็นแผลจากการมีเพศสัมพันธ์แบบรุนแรง จะมีการปริแตกขยายของอวัยวะเพศผู้หญิง แตกต่างจากการถูกของแข็งสอดใส่ในอวัยวะเพศ แผลจะแตกต่างจากการใช้ของแข็งสออดใส่ เพราะอวัยวะเพศชายยืดหยุ่นได้ การแยกว่าถูกกระทำโดยใช้ของแข็งสอดใส่อวัยวะเพศหรือไม่ ต้องตรวจดูสภาพบาดแผลบาดแผล และตรวจ DNA ของเหลวในช่องคลอดว่ามีของคนอื่นในช่องคลอดไหมทั้งนี้ต้องดูที่สภาพบาดแผลประกอบกัน

ด้านนางแข้ง ภรรยาหลวง ผู้ถูกกล่าาวหา อ้างว่าที่ไปพังประตูทำร้าย น.ส.จิราวรรณ นั้นไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อไปถึงพยายามจะเคาะประตูเรียกเป็นเวลานานขอให้ออกมาคุยกันดี ๆ แต่ไม่มีเสียงตอบ จึงพังประตูเข้าไปก็พบว่า น.ส.จิราวรรณ นอนเปลือยกายอยู่บนพื้นตามภาพที่ปรากฏในคลิป ไม่ได้ทำร้ายใด ๆ และพร้อมจะพิสูจน์ความจริง เป็นไปได้หรือไม่ว่าเจ้าตัวอาจจะล้มเองหรือไม่ และที่ตามไปเพราะตามจากสัญญาณ GPS ของสามี

ล่าสุดตนและลูกได้เข้าพบและให้การภาคเสธว่าไปที่เกิดเหตุจริง และทำลายโทรศัพท์และนาฬิกาของน.ส.จิราวรรณ แต่ยืนยันว่าไม่ได้รุมทำร้าย เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

ด้านน.ส.จิรานันท์ หรือ ฝน อายุ 33 ปี ลูกสาวของนางแข้ง เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุตนเองเป็นหนึ่งในบุคคลที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ ยืนยันว่าหลังจากที่พยายามเคาะประตูเพื่อให้ข้างในเปิดออกมาพูดคุยกัน แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ จนกระทั่งมีการพังประตูเข้าไป วินาทีแรกที่พบเห็นคืออีกฝ่ายนอนโป๊เปลือยอยู่บนพื้น มีผ้าขนหนู 1 ตัวตกอยู่ ตอนนั้นยังไม่เริ่มถ่ายคลิป เพราะเนื่องจากคนเจ็บยังนอนโป๊เปลือยอยู่ แม่ได้บอกให้ตนเองหยิบผ้าไปคลุมจ่ายให้กับคนเจ็บ ตนเองก็ทำตาม หลังจากนั้นแม่ก็เริ่มมีอารมณ์ฉุนเฉียว บันทึกคลิปเก็บไว้เป็นหลักฐาน จังหวะนั้นยอมรับว่าแม่ควบคุมสติอารมณ์ พยายามเตะและถีบ แต่ก็ไม่โดนตัว เพราะตนเองและพี่ชายห้ามปรามดึงแม่ออกมาให้ห่าง พร้อมกับเตือนสติแม่ว่าอย่าทำร้ายคนที่เขาล้ม ตอนนั้นสภาพของนางจิราวรรณสภาพน้ำลายไหล สื่อสารอะไรไม่ได้ ตนเองถามว่าเป็นคนที่ไหน ชื่ออะไร ก็ยังไม่สามารถโต้ตอบได้

ส่วนเรื่องของการทำลายทรัพย์สินของคนเจ็บ ยอมรับว่าแม่ได้ขว้างปามือถือของคนเจ็บติดกับผนังห้อง จะถอดซิมนำไปตรวจสอบรายละเอียดการโทรเข้าออกและการรับสายที่มีการพูดคุยกับพ่อ แต่ขว้างปาไม่โดนตัวคนเจ็บ ภายในห้องทั้งพื้นและบนที่นอนไม่มีกองเลือดต ตนเองก็ยังรู้สึกงงว่าเลือดที่ติดอยู่ในมือถือมาได้อย่างไร

ทั้งนี้ ตนตั้งข้อสังเกตร่วมกับกลุ่มชาวบ้านที่อ้างว่าแม่รวมถึงตนเองและพี่น้องได้มีการทำร้ายร่างกาย ใช้ไม้กวาดหรือของแข็งฝากทุบตีด้านหลัง และนำไปแทงอวัยวะเพศ ซึ่งในวันดังกล่าวภายในห้องและที่เกิดเหตุไม่มีไม้กวาดตกอยู่แม้แต่ชิ้นเดียว ตนเองก็ไม่ได้มีการเตรียมอุปกรณ์ไปด้วย เป็นไปไม่ได้ว่าจะมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น

น.ส.จิรานันท์ ชี้แจงว่า ตามคลิปที่ปรากฏตนเองเชื่อว่าอาจเป็นมุมหักเหของกล้อง อาจเป็นลักษณะแขนหรือขาที่มองเห็นเป็นเหมือนท่อนไม้สีดำ วันดังกล่าวเจตนาของตนเองตั้งใจไปที่รถกะบะเพื่อเปิดประตูดูว่าน้องชายที่ตามไปด้วยนั่งอยู่ในรถหรือไม่ แต่หลังจากที่เปิดประตูแล้วไม่เจอ จึงได้ปิดประตูไว้เหมือนเดิม แล้วรีบเดินไปที่ห้องจุดเกิดเหตุ

นางสาวแอน (นามสมมติ) ชาวบ้านในหมู่บ้าน ที่ได้พูดคุยกับนางแข้งในวันที่ 22 ก.พ. หลังวันเกิดเหตุ เล่าว่า ในวันดังกล่าว ตนเองได้เจอกับนางแข้งและลูกน้องคนสนิท เดินทางมาที่ร้านน้ำชากลางหมู่บ้าน ซึ่งเป็นจุดรวมตัวกันของชาวบ้าน นางแข้งได้มาสอบถามว่ารู้จักนางเรียงหรือไม่ แต่ทุกคนก็ไม่คุ้นชื่อ นางแข้งได้เปิดรูปโป๊เปลือยและรูปที่สวมใส่ผ้าขุนหนู 1 ฝืนของคนเจ็บให้ชาวบ้านดู ลักษณะเหมือนประจาน ตอนนั้นตนเองเห็นก็ตกใจเหมือนกัน เพราะผู้หญิงที่นอนอยู่บนพื้นคือน.ส.จิราวรรณ ลูกค้าประจำที่มักจะมาใช้บริการที่ร้านตน

ตนเองจึงได้สอบถามว่าไปทำอะไรถึงอยู่ในสภาพดังกล่าว จำได้แม่นว่านางแข้งพูดต่อหน้าชาวบ้านกว่า 10 คนว่าเป็นคนทุบตี ตบ กระทืบ และยังใช้ไม้จิ้มแทงเข้าไปที่อวัยวะเพศ ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะกลับมาใช้งานได้อีกหรือไม่ ตนเชื่อมั่นว่ามีการทำร้ายร่างกายจริง ตนเองรู้สึกสงสารคนเจ็บอยากให้ได้รับความเป็นธรรม ส่วนเหตุผลส่วนตัวว่าระหว่างนายบูรณ์กับคนเจ็บ ตนไม่รู้มาก่อน เพิ่งจะทราบก็ตอนที่โดนทำร้ายร่างกาย ยืนยันว่าตลอดทุกครั้งที่มาใช้บริการที่ร้านตน ไม่เคยนัดใครมาเจอ ละไม่เคยโทรศัพท์พูดคุยกับใคร