กรณีเพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Kim Original โพสคลิปวิดีโอวงจรปิด ภายในห้องอาหารของโรงแรม พร้อมระบุข้อความว่า "#เล่าเรื่องจากหลังไมค์ มนุยษ์ป้ากลุ่มคนเสื้อขาว ที่เป็นข้าราชการใช่หรือไม่ ทางโรงแรมจัดที่ให้กินมื้อเช้าที่หนึ่ง แต่ฉันเป็นมนุยษ์ป้าต้องตามใจฉันไปกินอีกที่ ที่เค้าไม่ได้จัดไว้ให้"
ล่าสุดวันที่ 22 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่โรงแรมที่เกิดเหตุ โดยได้พูดคุยกับ น.ส.กาญจนา ผู้จัดการโรงแรม เปิดเผยว่า ในวันที่เกิดเหตุมีพนักงานหญิงของห้องอาหารโรงแรม แจ้งกับตนว่ามีกลุ่มลูกค้าเสื้อขาว ซึ่งเป็นข้าราชการที่เข้าพักในโรงแรม แล้วเข้าไปรับประทานอาหารในห้องอาหารของโรงแรม ซึ่งไม่ใช่อาหารที่จัดเตรียมไว้ให้ลูค้า
แต่ขณะนั้นพนักงานโรงแรมในฐานะผู้ให้บริการ ไม่สามารถที่จะไล่ลูกค้าออกจากห้องอาหารได้ จึงทำได้เพียงเดินเข้าไปเช็กกับเชฟคนทำอาหาร ซึ่งเป็นส่วนต่างของค่าอาหารที่กลุ่มลูกค้ารับประทาน เพื่อประเมินว่าจะต้องเรียกเก็บเท่าไร ซึ่งทางเชฟแจ้งราคาส่วนต่างกลับมา จำนวน 200 บาท/ท่าน ทั้งหมด 15 ท่าน จึงเดินไปแจ้งกับพนักงานที่เคาน์เตอร์ เพื่อให้ทราบว่าจะต้องคิดเงินส่วนต่างกับลูกค้าเท่าไร
นอกจากนี้ น.ส.กาญจนา ยังเผยอีกว่า ขณะเกิดเหตุทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถควบคุมได้ รวมทั้งพนักงานหญิงที่คอยต้อนรับอยู่ด้านหน้าห้องอาหารที่เกิดเหตุนั้น ได้บอกกับลูกค้ากลุ่มดังกล่าวแล้วว่า ห้องอาหารของกลุ่มลูกค้าข้าราชการต้องเป็นห้องอาหารอีกห้อง ไม่ใช่ห้องนี้ แต่หนึ่งในกลุ่มข้าราชการหญิงนั้น บอกเพียงว่า “จะทานที่นี่” แล้วเดินตรงเข้าไปในห้องอาหารทันที โดยไม่สนใจสิ่งที่พนักงานต้อนรับหน้าห้องอาหารแจ้ง
อีกทั้ง ขณะที่มีการบริการจากพนักงาน หรือตรวจสอบว่ามีสิทธิ์เข้ารับประทานที่ห้องอาหารดังกล่าว ลูกค้าจะได้รับถุงมือเพื่อสวมใส่ก่อนตักอาหาร ตามมาตรการป้องกันเชื้อโควิด-19 แต่จากคลิปวงจรปิดจะสังเกตได้ว่า ลูกค้ากลุ่มพนักงานข้าราชการนั้น ไม่มีการสวมถุงมือแต่อย่างใด
ในส่วนของการชำระค่าอาหารส่วนต่างของกลุ่มลูกค้าดังกล่าว ลูกค้ายังไม่ได้ชำระ โรงแรมพยายามติดต่อไปยังลูกค้ากลุ่มดังกล่าว แต่กลับได้รับการตอบกลับมาว่า “ทำไมฉันจะทานไม่ได้” และไม่ยอมจ่ายเงินส่วนต่าง ทำให้ทางผู้บริหารโรงแรมต้องรับผิดชอบเองทั้งหมด
ขณะเดียวกัน นายทินกร พนักงานในห้องอาหารโรงแรม เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุตนทำงานตอนเช้าในห้องอาหารของโรงแรม เห็นลูกค้ากลุ่มดังกล่าวถ่ายรูปบริเวณโรงแรม ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องอาหารที่ไม่ใช่ห้องอาหารของตัวเอง ตนรีบเดินมาต้อนรับ พร้อมกับสวัสดี ถามข้อมูลจากลูกค้าเพื่อแนะนำห้องอาหาร แต่ทันใดนั้นหนึ่งในลูกค้าก็พูดขึ้นมาว่า “ห้องอาหารฝั่งโน้นเป็นอะไร” ตนจึงแจ้งว่า ห้องอาหารฝั่งโน้น เป็นอาหารบุฟเฟต์ของลูกค้าทั่วไป แต่ในส่วนของลูกค้าที่มาเป็นกลุ่ม คือ ลูกค้าข้าราชการชุดขาวนั้น ทางโรงแรมได้จัดเตรียมอาหารไว้รองรับต่างหากแล้ว เหลือแค่เดินเข้าไปสั่งอาหารทานเท่านั้น
จากนั้น ตนจึงขอลูกค้าตรวจสอบเบอร์ห้อง แต่ลูกค้าไม่ยอมแจ้งเลขห้อง ก่อนจะหันไปพูดคุยปรึกษากัน แล้วเดินย้อนกลับไปห้องอาหารบุฟเฟต์ที่ไม่ใช่ห้องอาหารของตัวเอง กระทั่งเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ก่อนแจ้งเรื่องให้ผู้จัดการทราบ
ขณะเดียวกัน ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวยังใช้สิทธิ์ความเป็นข้าราชการ ลดราคาค่าห้องจาก 2,000 บาท เหลือเพียง 1,600 บาท อีกด้วย ซึ่งด้วยความใจดีคิดว่ามาพักเพื่อทำงานราชการจึงลดราคาให้ แต่สุดท้ายกลับเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ไม่สนใจกฎระเบียบของโรงแรมแต่อย่างใด ซ้ำไม่จ่ายเงินค่าส่วนต่างของอาหาร คนละ 200 บาทอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางด้านของผู้จัดการโรงแรม ได้เข้าลงบันทึกประจำวันและแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสุโขทัยแล้ว ภายหลังจากติดต่อไปยังลูกค้าข้าราชการเสื้อขาว มนุษย์ป้า 15 ราย แต่ถูกปฏิเสธความรับผิดชอบ และไม่ยอมชำระเงินค่าอาหารให้แก่โรงแรม
Advertisement