กรณีไทยผลักดัน ต้มยำกุ้ง เป็น มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ต่อจาก ต่อจาก โขน และ นวดไทย โดยได้มีการจัดประชุมประชาพิจารณ์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะทั้งทางตรงและทางอ้อม จากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และจัดทำข้อมูลเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พิจารณาไปแล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
ทำเอา งง! เชฟฝรั่งสอนทำ “ต้มยำกุ้ง” ใส่ซอสพริก ขิง และถั่วงอก
ทั้งนี้ จากการประชาพิจารณ์เมื่อปีที่ผ่านมา ทุกฝ่ายได้เห็นพ้องในการเสนอต้มยำกุ้ง เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ตามมาตรา 2 ของอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก ด้วยลักษณะธรรมเนียมและการแสดงออก การปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม และงานเทศกาล ตลอดจนความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล โดยต้มยำกุ้ง เป็นภูมิปัญญาการทำอาหารที่ได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นอย่างต่อเนื่องของชุมชนภาคกลางที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ ซึ่งมีวัฒนธรรมการบริโภคอาหารผ่านการสังเกตและเรียนรู้จากธรรมชาติ และนำวัตถุดิบในท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ให้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น
ที่สำคัญได้มีการนำเสนอถึง สมุนไพรไทย องค์ประกอบสำคัญของการปรุงอาหารต้มยำกุ้ง คือ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก และมะนาว ซึ่งนิยมปลูกตามพื้นที่ว่างภายในบริเวณบ้านหรือตามสวนไร่นาแบบวิถีไทย สมุนไพรเหล่านี้มีสรรพคุณช่วยบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยหรือความผิดปกติของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล ซึ่งร่างกายมักจะมีไข้ ปวดเมื่อย ครั่นเนื้อครั่นตัว การได้รับประทานต้มยำกุ้งซึ่งมีสมุนไพร จะช่วยให้เลือดลมหมุนเวียนดี และปรับสมดุลร่างกายให้ธาตุทั้งสี่เดินเป็นปกติ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด วันนี้ 23 มีนาคม 2564 จะมีการนำเสนอต่อไปยังที่ประชุมคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐบาลเพื่อการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก ซึ่งทุกฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่าต้มยำกุ้งเป็นภูมิปัญญาการทำอาหาร ที่ได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นอย่างต่อเนื่องของชุมชนภาคกลางที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ มีเอกลักษณ์โดดเด่น มีสมุนไพรไทยเป็นองค์ประกอบสำคัญและยังเป็นที่รู้จักและยอมรับของคนทั่วโลก หากต้มยำกุ้งได้รับการขึ้นทะเบียน จะส่งผลให้เกิดการสืบสานและพัฒนายกระดับอาหารไทยสู่สากลต่อไป