จากกรณีนายสราวุธ ขันเสรี หรือ เตย อายุ 25 ปี ผู้ก่อเหตุแทงเด็กปั๊มน้ำมันเสียชีวิต และยิงเพื่อนบ้านขณะนอนอยู่บนเปลจนเสียชีวิต ล่าสุด วันที่ 23 มี.ค. 64 ได้มีการคุมตัวนายเต้ยไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มเพื่อนของนายเต้ยมาร่วมดูการทำแผน จนมีปากเสียงและกระทบกระทั่งกับญาติของผู้เสียชีวิต
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แม่ไอ้คลั่งฆ่า 2 ศพร่ำไห้ขมาเหยื่อไม่รู้ลูกติดยา พยานเผยเสพยันเช้าเมายิงหัวเพื่อนบ้าน
- เปิดนาทีฆ่าโหดเด็กปั๊มฉุนทวง 40 บาท แม่กรีดร้องเห็นศพลูกช็อกเป็นเหยื่อฆาตกรต่อเนื่อง
เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สามโคก ได้มีการคุมตัวนายศราวุธ ขันเสรี หรือ เต้ย อายุ 25 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จุดแรกเดินทางไปยังหมู่ที่ 3 ต.บางกระบือ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุที่นายเต้ยจ่อยิงนางมะลิวัลย์ แสงจันทร์ หรือ อ้อย อายุ 40 ปี เสียชีวิตคาเปลญวนหน้าบ้าน และเข้าชี้จุดที่เก็บซ่อนอาวุธปืน ซึ่งนำออกมาจากห้องใต้ถุนบ้าน
ระหว่างนั้น นายจักพงษ์ มีพูล สามีผู้เสียชีวิตมายืนดูเหตุการณ์ ซึ่งมีตำรวจยืนกันรักษาความปลอดภัย ส่วนครอบครัวผู้เสียชีวิตบางส่วนพยายามจะเข้าไปถามสาเหตุของการลงมือยิง จึงทำให้บรรยากาศชุลมุนขึ้นเล็กน้อย
ต่อมาเมื่อช่วง 10.00 น. ตำรวจนำตัวนายเต้ย ผู้ต้องหา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อที่ปั๊มน้ำมันจุดที่นายเต้ยก่อเหตุ แทงเด็กปั๊มเสียชีวิต ท่ามกลางประชาชนที่มารอดูกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีแม่และครอบครัวของนายศราวุธ เด็กปั๊มที่ถูกแทงเสียชีวิต เดินทางมารอดูการทำแผนด้วย และมีการด่าทอ "ชิงหมาเกิด"
ตลอดการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนายเต้ยแทบไม่ตอบคำถามใด ๆ ก้มหน้าก้มตา บอกวิธีการลงมือก่อเหตุกับตำรวจ ไล่ตั้งแต่ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่ปั๊มมาเติมน้ำมัน 40 บาท ซึ่งตอนนั้นนายเต้ยก็ไม่จ่ายเงินเด็กปั๊ม และได้ชักมีดขู่ ขี่รถออกไป เวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที นายเต้ยก็กลับมาที่ปั๊ม และปรี่เข้าไปชกต่อยเด็กปั๊ม ใช้มีดแทงสปาต้ากระหน่ำแทงจนเด็กปั๊มวิ่งหนี กระเสือกกระสนหนีตายเข้าไปในห้องเก็บของ แต่นายเต้ยก็ยังตามมาแทงซ้ำจนเสียชีวิต และสะบัดรองเท้าเตะของตัวเองใส่ศพของผู้ตาย ก่อนขี่รถหลบหนีไป
ซึ่งหลังจากทำแผนเสร็จ ทีมข่าวได้สอบถามนายเต้ยถึงเหตุผลที่ก่อเหตุ ถามว่า "แม่ของคนตาย มาอยู่ใกล้ ๆ แล้ว อยากพูดขอโทษอะไรกับคนตายและครอบครัวเขาบ้าง" นายเต้ยบอกเพียงสั้น ๆ ว่า "ผมขอโทษ" ก่อนจะถูกนำตัวขึ้นรถตู้ตำรวจไป
โดยระหว่างที่ตำรวจคุมตัวนายเต้ยขึ้นรถ ได้มีพี่ชายของผู้ตาย พยายามจะเข้าไปในวงของตำรวจ อยากเข้าไปสอบถามนายเต้ยว่า "ฆ่าน้องชายตัวเองทำไม" แต่กลับถูกพวกกลุ่มวัยรุ่น เพื่อนของนายเต้ย ผู้ต้องหา ประมาณ 10 กว่าคนเข้ามากระชากแขน และพยายามถีบพี่ชายของผู้ตาย ก่อนที่จะมีญาติของผู้ตายตะโกนด่าไล่ กลุ่มเพื่อนผู้ต้องหาก็ได้รีบเดินหนีขึ้นท้ายรถกระบะขับออกไปจากปั๊มน้ำมัน
นางหนูกานต์ เขาจันทร์ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถ น้องชายของผู้เสียชีวิตที่ถูกแทง ได้เดินไปหาผู้ต้องหา เพื่อจะต่อยหน้า เนื่องจากมีอารมณ์โกรธแค้น แต่เพื่อนของผู้ต้องหาได้เข้าจะรุมทำร้ายน้องชายของผู้เสียชีวิต
ซึ่งตนก็เป็น 1 ในผู้ที่ถูกกลุ่มเพื่อนผู้ต้องหาใช้หมัดเหวี่ยงเข้ามาที่แขน ตอนนั้นตนกับญาติคนอื่น ๆ ได้ตะโกนขอให้อย่ามามีเรื่องกัน ไม่นานทางกลุ่มเพื่อนผู้ต้องหาได้พากันวิ่งออกไปจากปั๊มน้ำมัน ส่วนตัวรู้สึกโกรธมาก ขนาดผู้ต้องหาลงมือฆ่าผู้อื่นตายแล้วตั้ง 2 ศพในวันเดียว แต่ทางกลุ่มเพื่อนยังเข้ามาจะทำร้ายฝ่ายญาติผู้ที่สูญเสียอีก ตนอยากจะถามสักคำว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีความรู้สึกผิดกันเลยใช่ไหม
นายไพรัตน์ ขันเสรี พ่อผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า เมื่อวานที่ผ่านมาตนได้เข้าเยี่ยมลูกชายที่ สภ.แล้ว จากที่ตนได้เข้าไปสอบถาม ลูกชายยอมรับทุกอย่างว่าได้ก่อเหตุจริง แต่ไม่ยอมบอกเหตุผลในการก่อเหตุ จากที่ตนสังเกตเห็นทางลูกชายไม่ได้มีความเครียด หรือกังวลกลัวใด ๆ กินข้าวได้ตามปกติ เมื่อวานที่ผ่านมาตนได้เข้าไปพูดคุยพร้อมกับขอโทษกับญาติที่ถูกยิงแล้ว ตนยังรู้สึกอับอายในสิ่งที่ลูกชายไปก่อไว้ ที่สำคัญตนจะไม่มีการเข้าประกันตัวลูกชายเด็ดขาด
ด้านนางวิรัตน์ นักรบ แม่ผู้เสียชีวิตที่ถูกแทง กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาดูหน้าผู้ต้องหาที่ทำร้ายฆ่าลูกชายของตน ยังรู้สึกโกรธแค้นในสิ่งที่ผู้ต้องหาก่อเหตุ ถ้าเป็นไปได้อยากจะให้ผู้ต้องหาไปกราบไหว้ขอขมาต่อหน้าศพของลูกชาย อยากถามด้วยตัวเองว่า "ฆ่าลูกชายแม่ทำไม"
ที่งานศพของนางสาวมะลิวัลย์ แสงจันทร์ อายุ 40 ปี จัดขึ้นที่วัดสุทธาวาส อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีญาติและเพื่อนของผู้เสียชีวิตมาร่วมกราบศพและไว้อาลัย ช่วงหนึ่งไฟที่รูปหน้าศพมีอาการติด ๆ ดับ ๆ กระพริบไปมาอยู่ครู่หนึ่ง โดยที่ไม่มีใครสังเกต ทั้งที่ไฟบริเวณทั่วทั้งศาลายังติดส่องสว่างอยู่
หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที พ่อแม่และญาติของนายเต้ยก็เดินทางมาถึงงานศพ ทันทีที่มาถึง แม่ของนายเต้ยก็เข้าไปคุกเขาไหว้ นายจำรัส แสงจันทร์ พ่อของนางมะลิวัลย์ หลังจากนั้นพ่อแม่ของนายเต้ยก็ไปจุดธูป 1 ดอก ไหว้ศพของนางมะลิวัลย์เป็นการไหว้ขอขมาในใจ ไม่ได้กล่าวออกเสียง หลังจากนั้นพ่อแม่ของนายเต้ยก็ไปนั่งที่นั่งร่วมพิธี สีหน้าของครอบครัวนายเต้ยก็ดูกังวลและโศกเศร้ามาก
เวลา 15.00 น. มีการแต่งหน้าศพ และในช่วงเวลาถัดมา 16.00 น. เป็นพิธีรดน้ำศพ มีบรรดาเพื่อน ๆ ของลูกชาย น.ส.มะลิวัลย์ แสงจันทร์ ผู้เสียชีวิต ที่เรียนอยู่ในวัยประถมชั้น ป.5 ได้เข้ามากราบไหว้ต่อหน้าศพ พร้อมกับมอบพวงหรีดพัดลมให้กับทางเจ้าภาพ
นายจำรัส แสงจันทร์ พ่อของนางมะลิวัลย์ ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า ตาแดงกล่ำตลอดเวลา เปิดเผยว่า ตอนที่แม่ของนายเต้ยเข้ามาคุกเข่าและไหว้นั้น เขาได้กล่าวคำขอโทษจากการกระทำลูกชายของเขาว่า "ขออภัยแทนลูกชาย ขอให้อโหสิกรรมให้ด้วย" ซึ่งตนก็ได้แต่รับฟัง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร การที่พ่อแม่ของนายเต้ยมาร่วมงานศพลูกสาวนั้น ตนก็รู้สึกดีใจที่เขาทั้งคู่ไม่ปล่อยปะละเลย เพราะเขาจะไม่มาร่วมงานศพเลยก็ได้
ตนยอมรับว่าเสียใจที่สุดที่ลูกต้องมาถูกยิงตาย เพราะลูกของตนเป็นคนดีมาก ตนคงไม่ให้อภัยนายเต้ย แต่ตนไม่โกรธพ่อแม่ของนายเต้ย เพราะเขาไม่เกี่ยวอะไรด้วย ตนอยากให้นายเต้ยมากราบศพขอขมาด้วย อย่างไรก็ตาม กรณีที่ไฟหน้าศพมีการกระพริบก่อนที่ครอบครัวของเต้ยจะเดินทางมาทางมาถึงนั้น ตนคิดว่าลูกสาวก็คงจะวนเวียนอยู่แถวนี้ และรับรู้ถึงการเดินทางมาของครอบครัวเต้ย แต่ที่ผ่านมาตนก็ยังไม่เคยฝันถึงลูกสาวเลย