หนึ่งนักแสดงมากฝีมืออย่าง "
นุ่น" ดารัณ ฐิตะกวิน หรือ "
นุ่น" รุ้งทอง ร่วมทอง ที่ตอนนี้กลับมาวาดลวดลายเล่นละครทำให้แฟนคลับหายคิดถึง แถมยังเป็น 1 ใน 5 สาวแพรวปี 1992 อีกด้วย เรียกได้ว่าสวยครบเครื่องแถมยังมากฝีมืออีกด้วย โดยหลายคนทราบกันดีว่า นุ่นได้หย่าขาดกับสามีหนุ่มนอกวงการ
"เอ" เจิมจิตต์ ภูมิจิต มาเป็นเวลากว่า 10 ปี แถมมีพยานรักด้วยกันถึง 2 คน คือ
"น้องไม้" ภณ ภูมิจิตร และ
"น้องมุก" ภริม ภูมิจิต เรียกได้ว่า สาวนุ่นเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ สตรองสุดๆ โดยก่อนหน้านี้ต้องสร้างความช็อคสุดๆให้แฟนๆเพราะเมื่อช่วงเดือนที่แล้ว สาวนุ่นได้ไปตัดเต้านมทิ้ง เนื่องจากตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมที่ด้านขวา แต่เพราะกำลังใจจากลูกและการที่นุ่นเป็นคนคิดบวกทำให้ผ่านเรื่องราวเลวร้ายมาได้
"นุ่น" ดารัณ ได้ให้สัมภาษณ์กับทางทีมข่าว Apop บันเทิง 34 ในการมาร่วมงานครั้งนี้ รู้สึกเหมือนได้กลับมาบ้านอีกครั้งเพราะรู้สึกอบอุ่น พอกลับมาเจอใครหลายๆคนก็รู้สึกดีใจ แถมได้พูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบจนถึงขั้นคอแห้งเลยทีเดียว เรียกว่าเม้าท์กันน้ำลายแตกฟองก็ว่าได้ ส่วนคำนิยามว่า Forever Young ของพี่นุ่นนั่นก็คงเป็นเรื่องของใจ เพราะ
เราทุกคนมีหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบด้วยความสุข อะไรที่มีความทุกข์ตัดไปมันจะคุ้มค่ากว่า เรากลับมาก็สร้างความสุขให้กับตัวเองมันก็คุ้มค่าแล้ว มันก็จะมีชีวิตที่มีความสุขอย่างยั่งยืน ซึ่วตอนนี้เป็นแฟนๆก็ได้เห็นผลงานละครของพี่นุ่นเพิ่มมากขึ้น มีทั้งละครหลากหลายทั้งรับเชิญก็ต้องทยอยทยอยกันดู
สำหรับสุขภาพก็ตรวจพบ มะเร็งเต้านมด้านขวา ตอนแรกพอทราบก็รู้สึกตกใจ แต่พอเรามาถึงหนึ่งก็คิดว่าเราต้องเลี้บงลูก และเดินหน้าตลอดเวลา เราไม่ต้องฝืนความเข้มเเข็ง แต่เราแค่ต้องสร้างความเข้าใจ ว่าสิ่งนี้มันเป็นมากหรือน้อย แล้วจะรักษาหายหรือไม่ ส่วนเรื่องความเครียดเราก็ต้องดึงตัวเองขึ้นมาว่าอย่าเครียด เพราะตอนนี้ตัดเต้านมด้านด้านขวาออกไปแล้ว และต้องให้ยาสกัดกั้นตามมาตามหลักการแพทย์ และตอนนี้ก็ทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงกำลังใจก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เรานั้นมีเเรงก้าวเดิน รักษาใจให้ดีใจสั่งกายได้จริงๆ ส่วนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาก็ตัดทุกอย่างมันรวดเร็วเพราะเรารู้สึกว่าเราไม่รู้จะคอยทำไม ไม่มีคำว่ากลัวเลย รู้สึกว่าอยากทำอะไรก็ต้องรีบทำเพราะเราคิดว่าคนหนักกว่าเราก็มี
ส่วนกำลังใจจากทางน้องไม้ ลูกชายอายุ 14 และน้องมุกลูกสาว อายุ 13 ปี เขาก็ได้มาศึกษาและมาเรียนรู้เรื่องมะเร็งเต้านมด้วยกัน ซึ่งลูกทั้ง 2 คน ก็มาช่วยกันรักษาเยียวยากัน
ถือว่าเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ทำให้ลูกได้เรียนรู้ว่าแม่ก็ไม่ได้แข็งแรงตลอดไป ตอนนี้ลูกก็ดูแลเต็มที่ไปไหนด้วยกันเรียกว่าใช้เวลากับครอบครัวเต็มที่ ส่วนลูกสาวคนเล็กก็มีผลงานละครตำนานสมเด็จพระนเรศวร 1 เรื่อง แต่ไม่ได้เรียกว่าเข้าวงการแบบเต็มตัว เรียกว่าอยากให้เขาโตสมวัยด้วยเรียนรู้กันไป ก็หวังไว้อยากให้รักการแสดงด้วย ส่วนการชื่นชอบการแสดงลูกชายคนโตก็มีนะ ก็คงจะรอให้ทุกอย่างมันสมส่วนก่อน ส่วนความชอบของลูกสาวก็มี เพราะว่าเคยไปถ่ายแบบกับแม่ตั้งแต่เล็กแล้วก็เข้าใจการแสดงเป็นอย่างดี ตอนนี้ลูกสาวเรียนรู้เร็วกว่าก็คงเป็นจังหวะและโอกาสของเขา
ส่วนเรื่องหัวใจก็ไม่ถึงกับปิดหัวใจขนาดนั้น และเชื่อในพรหมลิขิตมากกว่า โดยที่ผ่านมาเป็นคนที่เร่งทุกอย่างในชีวิต ไม่เคยปล่อยให้ธรรมชาติ เวลาตอนนี้ก็เลยใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์มากขึ้น และ
รู้สึกว่าความเหมาะสมตอนนี้เราคือเราต้องดูแลลูกเลี้ยงลูก อาจจะไม่มีเวลาไปดูแลใครเพราะเราต้องสร้างครอบครัวให้มันมั่นคง ฉะนั้น คนที่เข้ามาไม่จำเป็นที่ต้องดูแลนุ่นคนเดียวแล้ว