จากกรณี แม่ครัวรายหนึ่งออกมาเปิดเผยเรื่องราวว่าถูกเจ้าอาวาสวัดใน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ใช้วาจาเชิงชู้สาว เพื่อจะขอร่วมเพศ ก่อนที่จะมีการเจรจาเรื่องดังกล่าวในวันที่ 22 มี.ค.64 และมีมติให้พระย้ายออกจากพื้นที่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เจ้าอาวาสล่องหนหลังคลิปว่อนขอสาวมีเซ็กซ์ ชาวบ้านยันพระดี คาดถูกปลอมเสียงใส่ร้าย
วันที่ 26 มี.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านของผู้เสียหาย นายประเสริฐ มาลีรัตน์ พ่อของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองเพิ่งรู้เรื่องวันที่ 22 มี.ค. วันที่มีการเจรจากันก่อนจะเป็นข่าว ซึ่งที่ผ่านมาลูกสาวไม่เคยเล่าอะไรให้ตนเองฟัง หลังจากที่ตนเองรู้เรื่องคือช่วงที่ลูกเขยจับได้ว่าลูกสาวคุยโทรศัพท์กับเจ้าอาวาส เล่าให้ตนเองฟังว่าถูกหลวงพ่อล้วงจับของลับ กอด หอม ครั้งที่ 1 เกิดเมื่อช่วงต้นปี ช่วงนั้นเป็นช่วงเตรียมงานผ้าป่าของวัด มีคนมาช่วยงานกันเยอะ ช่วงหนึ่งหลวงพ่อได้เรียกครูของโรงเรียน 2 คน และลูกสาวตนไปที่ห้องเก็บของในศาลาหลังใหญ่ของวัด เพื่อไปหยิบของเตรียมงานบุญ ไม้ก้านสำหรับปักต้นผ้าป่า
หลังจากเข้าไปในห้อง หลวงพ่อได้ออกอุบายให้ครู 2 คนออกไปก่อน เหลือแต่ลูกสาวตน จากนั้นก็พยายามจะลวนลาม ทั้งกอด หอม เอามือล้วงอวัยวะเพศ แล้วเอามาดม ก่อนบอกว่า "เหม็นจัง" ซึ่งลูกสาวตนก็ตอบกลับไปว่า "ยังไม่ได้อาบน้ำก็เหม็นสิ" เจ้าอาวาสยังพยายามจะข่มขืนลูกสาวตน แต่ลูกตนเองร้อง หลวงพ่อจึงยอมปล่อยตัวออกมา ต่อมาตนเองไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งครั้งล่าสุดที่มีการอัดคลิปเสียง ช่วงนั้นมาพร้อมกับลูกเขย ลูกเขยลงไปในที่นาเพื่อไล่นก ลูกสาวมีการคุยโทรศัพท์กับเจ้าอาวาส ทำนองว่าเจ้าอาวาสชวนให้ไปที่วัดเพื่อหลับนอนด้วยกัน เนื่องจากที่นาอยู่หลังวัดเพิ่ง 1 กิโลเมตร ลูกสาวตนก็ออกอุบายให้หลวงพ่อมาหาที่นา หลวงพ่อไม่ยอม กลัวถูกลวงมาให้ลูกเขยทำร้าย ช่วงนั้นลูกสาวตนเองเล่าว่าพยายามปฏิเสธ บอกว่าไม่ร่วมเพศเพราะกลัวว่าจะท้อง หลวงพ่อกลับบอกว่าท้องก็จะรับผิดชอบ จ่ายค่าเลี้ยงดูเดือนละ 3,000 บาท เพราะหลวงพ่ออยากมีลูก เป็นช่วงที่ลูกเขยมาเห็นพอดี จึงมีการอัดคลิปเสียงไว้
จากนั้นลูกก็มาหาตนที่บ้าน ก่อนจะไปแจ้งเหตุต่อเจ้าคณะทางสงฆ์ เมื่อไปพบพระครูโกศลวิหารคุณก็เล่าเรื่องราวให้ฟัง และกลับมาที่วัดของหลวงพ่อที่ก่อเหตุ ก่อนจะมีการเจรจากัน วันดังกล่าวมีตน คณะสงฆ์ เจ้าอาวาสคนก่อเหตุ ลูกสาวตน และชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งเข้ารับฟังด้วย โดยก่อนพูดคุยเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวก็รับสารภาพว่ากระทำจริง แต่ไม่มีการข่มขืน ไม่มีการร่วมเพศ
ที่ผ่านมาพระเจ้าอาวาสอยู่วัดมามากกว่า 10 ปี ไม่เคยรู้ว่ามีพฤติกรรมแบบนี้ จะได้ยินบ้างเรื่องมีสีกาเข้าออกกุฏิ แต่ไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้ เพราะตนก็นับถือกราบไหว้ หลังการเจรจาตอนแรกเจ้าอาวาสรับผิดและยอมชดใช้เงินให้ ลูกเขยตนเรียกไป 300,000 บาท แต่ตนเองห้ามไว้ และไม่ขอรับเงิน โดยขอให้จบเลิกแล้วต่อกัน ส่วนหลวงพ่อไม่ได้ไล่ แต่หากอยู่ได้ไม่อายชาวบ้านก็อยู่ ก่อนจะแยกกันไป จากนั้นเช้ารุ่งขึ้นหลวงพ่อก็หายไปจากวัดทันที ส่วนลูกสาวตนไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวัน ส่วนตัวมองว่าพระอาจารย์เหมือนมาหยามกัน เพราะก็รู้ว่าคือลูกสาวตน
ทีมข่าวเดินทางมาสำนักสงฆ์กลางป่าแห่งหนึ่ง นายพัฒน์ (นามสมมติ) ศิษย์และคนขับรถคนสนิทของเจ้าอาวาสมา เปิดใจว่า หลังจากที่มีการตกลงกับคณะสงฆ์ หลวงพ่อก็ไม่ได้ขัดขืน และรับตามที่เกิดเรื่อง หลังจากมีมติให้ออกจากวัด หลวงพ่อได้โทรหาตน เพื่ออกจากพื้นที่ในเย็นวันนั้นทันที ยไม่ได้มีการขัดขืน ระหว่างทางหลวงพ่อไม่ได้พูดอะไร นั่งนิ่งเงียบ ตนเองก็ได้แต่ร้องไห้ เพราะหลวงพ่อเป็นคนดี หลวงพ่อต้องการมาอยู่ในที่สงบก่อน หลังจากที่เคลียร์กันจบ หลวงพ่อก็ไม่คิดว่าคู่กรณีจะเอาคลิปเสียงออกมาแบบนี้ เพราะคิดว่าพูดคุยกันจบแล้ว ส่วนตัวเพิ่งรู้เรื่องหลวงพ่อพร้อมกับทุกคน ยอมรับว่าเสียดายในความดีของหลวงพ่อ สงสารหลวงพ่อ หลังรู้เรื่องตนเองไม่อยากจะเชื่อว่าเรืองนี้เกิดขึ้น
ส่วนเท่าที่ได้คุยกับหลวงพ่อ หลวงพ่อไม่ได้พูดอะไร เพียงบอกว่า "คิดเหมือนลูกเหมือนหลาน" และช่วงนั้นอาจจะเผลอตัว ชั่ววูบไป สาวคู่กรณีตนเองเคยเห็นมาทำบุญที่วัดบ่อย แต่ไม่เคยเห็นไปยุ่งเกี่ยวกับเจ้าอาวาส ส่วนเรื่องสึก หลวงพ่อยังไม่คิด บอกว่าพร้อมทำตามมติของสงฆ์หรือผลทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ตนเป็นห่วงหลวงพ่อที่มีโรคประจำตัว อีกทั้งห่วงว่าจะคิดสั้นเพราะชีวิตหนึ่งของพระไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้