สคบ.สรุปผลการพิจารณากระทะโคเรียคิง โฆษณาเกินจริง เบื้องต้นสั่งระงับการโฆษณามีผลทันที ขณะที่ตัวแทนจากบริษัท วิซาร์ด โซลูชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายกระทะโคเรียคิงในประเทศไทย ยืนยันราคาและคุณสมบัติเป็นไปตามบริษัทผู้ผลิตในเกาหลี
วันนี้ ( 17 พ.ค.2560) ที่ประชุมคณะกรรมการขายตรงและตลาดแบบตรง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) โดยมีศาสตราจารย์วีระพงษ์ บุญโญภาส เป็นประธานในการประชุม กำลังหารือถึงผลการตรวจสอบ กระทะยี่ห้อโคเรียคิง ซึ่งเริ่มประชุมตั้งแต่เวลา 13.30 น.
โดยก่อนหน้านี้ สคบ.ได้มอบหมายให้ 3 หน่วยงาน นำกระทะไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบด้วย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติหรือเอ็ทเทค จะตรวจสอบในเรื่องของวัสดุ / กรมวิทยาศาสตร์บริการ ตรวจสอบว่ามีสารพิษปนเปื้อนหรือไม่ และอาจารย์วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ตรวจสอบในเรื่องสารเคมี ซึ่
งผลของอาจารย์วีรชัยออกมาแล้วว่า ไม่ใช่กระทะหินอ่อนตามที่มีการโฆษณาแต่เป็นอัลลูมิเนียมอัลลอยหรืออัลลูมิเนียม บวกกับเหล็กเคลือบเอาไว้ซึ่งไม่ต่างกับกระทะที่เคลือบเทปลอนยี่ห้ออื่นๆ แต่ที่ทำให้อาหารไม่ติดกระทะเพราะใช้วิธีเคลือบหลายชั้นแต่ไม่ถึง 8 ชั้นตามที่มีการโฆษณา
โดยที่ประชุมได้สรุปผลการตรวจสอบว่าการตั้งราคาขาย 15,000 และ 18,000 บาท เป็นการตั้งราคาที่ไม่มีการอ้างอิงที่มา การนำราคาของต่างประเทศมาตั้ง ถือเป็นการตั้งราคาที่ face original prize และคุณสมบัติไม่เป็นไม่ตามที่โฆษณาขาย ถือเป็นการโฆษณาไม่เป็นธรรม คุณสมบัติบางอย่างไม่สามารถพิสูจน์ได้
เบื้องต้นให้หยุดโฆษณา มีผลทันที แต่ทั้งนี้ยังไม่สั่งห้ามขาย
โดยทางบริษัท วิซาร์ด โซลูชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายกระทะโคเรียคิงในประเทศไทย ได้มอบหมายให้นายวิพากษ์ ชูศักดิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของบริษัท นำเอกสารเข้าชี้แจงคุณสมบัติของสินค้า และการกำหนดราคาขาย ตามการกำหนดของบริษัทแม่ในเกาหลี ต่อ สคบ. โดยนายวิพากษ์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ยืนยันว่าการโฆษณาและการตั้งราคาขายรวมถึงโปรโมชั่นและคุณสมบัติของสินค้าเป็นไปตามเอกสารนำส่งของบริษัทแม่ ซึ่งเป็นผู้ผลิตในเกาหลี กรณีที่มีผลตรวจสอบจาก อ.วีรชัยออกมาว่าไม่พบหินอ่อน และชั้นเคลือบกระทะไม่ใช่ 8 ชั้นนั้น ก็ยืนยันคุณสมบัติตามเอกสาร ทั้งนี้อยากขอให้สื่อหยุดวิพากษ์วิจารณ์จนกว่าผลการตรวจสอบทั้งหมดจะออกมาอย่างเป็นทางการ
หากพบว่าไม่เป็นไปตามที่โฆษณา ก็พร้อมจะเรียกร้องทางบริษัทแม่ เพื่อปกป้องสิทธิประโยชน์ของคนไทย ส่วนผลการตรวจสอบนั้น อีก 2 หน่วยงาน ยังไม่ออกอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะทราบอย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้ ส่วนการเยียวยาผู้บริโภคจะมีการหารือในที่ประชุมอีกครั้งนึง