ผัวรำคาญเมียด่า จับมัดมืออุดปากเหล็กทุบหัว ก่อนโทรหาญาติลาตาย (คลิป)

กรณี พ.ต.ท.สมปอง ขำทวี สารวัตรเวร สภ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี รับแจ้งเหตุมีบุคคลเสียชีวิต ภายในร้านปะยางแห้งหนึ่ง ถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ม.3 ต.ทับคาง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วรวัชร แค้มวงศ์ ผกก.สภ.เขาย้อยทราบ แล้วรุดตรวจสอบพร้อม แพทย์เวร รพ.เขาย้อย และสมัครมูลธิสว่างสรรเพชญธรรมะสถานจังหวัดเพชรบุรี

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบศพนายวิชัย ลีกา อายุ 43 ปี ชาว อ.เขาย้อย และน.ส.ธารทิพย์ โพธิ์ทอง หรือ หน่อย อายุ 21 ปี ชาว อ.เขาย้อย นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอน สภาพศพนายวิชัย มีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณใบหน้าหายไปครึ่งซีก นอนพาดขาขวาก่ายศพ น.ส.ธารทิพย์ ที่นอนหงายและถูกลวดไม้แขวนเสื้อมัดมือไขว้หลัง ปากมีเชือกมัดปิด มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่ใบหน้า ศีรษะ และลำตัวหลายแห่ง ใกล้ ๆ ศพพบท่อเหล็กตันที่ใช้ในการเปลี่ยนยางรถยนต์ และอาวุธปืนลูกซองสั้นตกอยู่

ล่าสุดวันที่ 28 มี.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังเกิดเหตุ ภายในร้านปะยางดังกล่าว ถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ม.3 ต.ทับคาง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี โดยห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องนอนของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน มีคราบเลือดของผู้เสียชัวิตทั้ง 2 เปรอะเปื้อนตามที่นอน

สอบถามภรรยาเก่าของนายวิชัย เล่าว่า ตนได้เลิกรากับนายวิชัย ประมาณ 4-5 ปี มีบุตรชายด้วยกัน 1 คน ขณะคบหากันนายวิชัย ไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน และไม่เคยลงมือทำร้ายตน หากมีปัญหาทะเลาะกันนายวิชัย จะ แยกตัวออกไปอยู่คนเดียว แต่นายวิชัย มีนิสัยชอบหึงหวง และดื่มสุราเป็นบางครั้ง ไม่คิดว่าจะก่อเหตุรุนแรง อย่างนี้

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายวิชัย ผู้ก่อเหตุได้ ทะเลาะน.ส.ธารทิพย์ เมื่อ 2-3 วันก่อน เนื่องจากหึงหวงแฟนสาว และในช่วงเช้าได้ก่อเหตุมัด น.ส.ธารทิพย์ และใช้ลวดไม้แขวนเสื้อมัดไขว้หลัง แล้วใส่ผ้าปิดปาก แล้วใช้เหล็กเคาะยางตีที่หน้าจนเสียชีวิต แล้วหลังจากนั้นผู้ก่อเหตุใช้ปืนลูกซองยิงตัวตายตาม

นายประเสริฐ เสือสมิง เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานนี้ (27 มี.ค.64) ตอนที่เกิดเหตุตนไม่เห็นเหตุการณ์ รวมถึงไม่ได้ยินเสียงปืน เนื่องจากตนและภรรยาไปรับลูกสาวในเขตอ.เมือง จ.เพชรบุรี กระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. ตนกลับมาถึงบ้าน ตนรู้สึกเอะใจเล็กน้อย ว่ารถยนต์กระบะของผู้ตายจอดอยู่ด้านข้างร้าน ทำไมเขาถึงไมเปิดไฟหน้าร้านของเขา

ทั้งนี้ตนมาทราบข่าวว่า ทั้งคู่เสียชีวิตเวลาประมาณ 20.00 น. เนื่องจากญาติของนายวิชัย ผู้เสียชีวิต ได้มาตามหานายวิชัย ที่ร้าน เนื่องจากก่อนเกิดเหตุ นายวิชัย ได้โทรไปบอกน้องชายที่ จ.พระนาครศรีอยุธยา ว่าได้ฆ่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว แต่เขาไม่กล้ายิงตัวตาย จากนั้นนายวิชัย ก็ได้ตัดสายไป และญาติทั้ง 2 คน จึงมาตามหาวิชัย ที่ร้านดังกล่าว กระทั่งมาพบว่าทั้งคู่เสียชีวิต

ก่อนหน้านี้ประมาณเดือน พ.ย.63 ตนเคยเห็นนายวิชัย หนีกลับไปยังบ้านเกิดที่ จ.กาญจนบุรี แล้วถูกกักตัวเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เหตุการณ์ครั้งนั้นตนก็ไม่รู้ว่าวิชัย เขาทะเลาะกับแฟนสาวเรื่องอะไร เขาถึงหนีออกจากบ้าน ส่วนเรื่องหึงหวงตนก็ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน เพราะตนเห็นแต่ทั้งคู่อยู่ที่ร้าน

สำหรับปมก่อเหตุครั้งนี้ ตนคาดว่าน่าจะมาจากปัญหาสะสมของทั้ง 2 คน เท่าที่ตนทราบเวลาเพื่อน ๆ ของนายวิชัย มายืมอุปกรณ์ภายในร้าน น.ส.ธารทิพย์ จะชอบบ่นให้นายวิชัย ที่ชอบให้เพื่อน ๆ ยืนของ จนทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกัน และช่วงหลังมานี้เพื่อน ๆ ของนายวิชัย จะไม่ค่อยเข้ามาหาวิชัยที่ร้าน ส่วนตัวแล้วคิดว่านายวิชัย วางแผนก่อเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากว่าก่อนจะเกิดเหตุ 2 วัน นายวิชัย ได้นำลูกชายอายุ 9 ขวบ ซึ่งเป็นลูกติดภรรยาเก่า ให้มานอนที่บ้านของตน ทั้งที่ปกติแล้วจะนอนที่ร้านกับนายวิชัย ตนจึงคาดว่าวิชัยเตรียมการก่อเหตุมาแล้ว

ในเวลาประมาณ 13.00 น. ของเมื่อวานนี้ นายวิชัยได้เดินร้องไห้เข้ามาหาตนที่บ้าน แต่ไม่มีแฟนสาวของเขามาด้วย ซึ่งนายวิชัยได้เดินเข้ามาหาตน พร้อมกับบอกว่า "ขอโทษด้วยนะพี่ ผมไม่รู้จะพูดให้เมียเข้าใจอย่างไร ที่เมียผมด่าหมาพี่ ตีหมาพี่" เพราะที่ผ่านมาน.ส.หน่อย ชอบเข้ามาตีหมาของตน ตนจึงคิดว่านายวิชัย คงเข้ามาขอโทษ ก่อนที่จะกลับไปยิงตัวตาย

สำหรับนายวิชัย เขาเป็นคนนิสัยดีมาก เป็นคนชอบช่วยเหลือผู้คน มีอุบัติเหตุที่ไหนที่เขาสามามารถไปช่วยเหลือได้ นายวิชัย จะไปช่วยเหลือตลอด ส่วนน.ส.หน่อย แฟนสาวของนายวิชัย ตนไม่ค่อยได้สุงสิง จึงไม่รู้นิสัยใจ เหตุที่เกิดขึ้นตนยอมรับว่าเสียใจกับนายวิชัยมาก เขามีบุญคุณกับตนมาก ที่ตนมาเช่าร้านอยู่ได้ก็เพราะเขาช่วยเหลือ

ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับนายทุม คุ้มวง คนสนิทน.ส.ธารทิพย์ ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ช่วงสายของเมื่อวานนี้ น.ส.หน่อย ผู้ตาย ได้เดินมาที่บ้านของตน ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุ 200 เมตร จากนั้นได้บอกตนว่า มีเพื่อนของนายวิชัย มาขอยืมถังแก๊ส ทำให้น.ส.หน่อยไม่พอใจ และพูดกับสามีว่า "ถ้ารักเพื่อนก็ไปอยู่กับเพื่อน" และน.ส.หน่อย ยังเล่าใฟ้ตนฟังอีกว่า วันที่ 26 มี.ค.64 ที่ผ่านมา ได้ทะเลาะกับนายวิชัยสามี กรณีที่นายวิชัย ขอเงินหลักหมื่นบาทเพื่อที่จะไปช่วยเหลือเพื่อน เรื่องค่าผ่อนรถมอเตอร์ไซค์

หลังจากที่น.ส.หน่อย มาพูดคุยกับตนในช่วงสาย เขาก็เดินกลับบ้านตามปกติ และตนมาได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 1 นัด เวลาประมาณ 13.00 น. เหตุที่เกิดขึ้นตนคาดว่าน่าจะมาจากฝ่ายชายมีปัญหาสะสม และนายวิชัย ก็กดดันที่แฟนสาวห้ามทำในหลาย ๆ อย่าง ซึ่งนายวิชัยเป็นคนที่รักเพื่อนฝูงมาก เพื่อน ๆ จะชอบมาเล่นที่ร้านวิชัย เป็นประจำ แต่พักหลังมากก็ไม่มีใครหล้ามาหา เนื่องจากแฟนสาว ชอบบ่นให้นายวิชัยและเพื่อน ๆ

สำหรับน.ส.หน่อย ที่ผ่านมาเขาจะมานั่งระบายให้ตนฟังแทบทุกวัน เรื่องเกี่ยวกับนายวิชัย ชอบให้เพื่อนยืมสิ่งของในบ้าน ส่วนเรื่องชู้สาวตนไม่รู้ว่าฝ่ายหญิงมีผู้ชายคนอื่นหรือไม่ ด้วยความที่ฝ่ายหญิงยังเป็นเด็กวัยรุ่น ตนก็เห็นบ้างที่เขาจะชอบคุยโทรศัพท์ แต่ไม่รู้ว่าคุยกับใคร เหตุที่เกิดขึ้นตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะทั่ง 2 คนก็เหมือนเป็นลูกหลาน ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือน น.ส.หน่อย เคยบ่นให้นายวิชัย จนนายวิชัยพูดประโยคหนึ่งว่า "ถ้าเกิดยังเป็นอย่างนี้ ก็ต้องตายกันทั้ง 2 คนนี่แหละ"

สำหรับน.ส.หน่อย ผู้เสียชีวิต เป็นคนนิสัยเอาแต่ใจ อยากได้อะไรก็ต้องได้ ชอบสั่งนายวิชัย ส่วนทางด้านนายวิชัย ก็ชอบช่วยเหลือเพื่อน และเป็นคนที่ชอบดื่มสุรา อย่างไรก็ตาม ก่อนที่น.ส.หน่อย จะเดินกลับบ้าน และถูกฆาตกรรมเสียชีวิต น.ส.หน่อย ได้พูดประโยคหนึ่งว่า "ลุง เดี๋ยวหนูจะกลับบ้านหนองนกออกแล้วนะ (บ้านเกิด)" ซึ่งเมื่อวานนี้ ตนก็ยังเอะใจคล้ายเป็นลางสังหรณ์ กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว

เวลา 13.00 น. ครอบครัวและญาติของนายวิชัย ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ พร้อมกับจุดธูปคนละ 1 ดอก ให้วิญญาณของนายวิชัยกลับบ้าน โดยนางสุภาวิณี เพชรดำ พี่สาวของนายวิชัย ขณะจุดธูปบอกน้องชาย ได้ร้องไห้เสียใจ พร้อมกับพูดว่า "กลับบ้านเรานะ พี่น้องรออยู่ที่บ้าน พี่ขออโหสิกรรมทุกสิ่งทุกอย่าง" จากนั้นพี่สาวนายวิชัย ได้ไปปักธูป 1 ดอก ที่บริเวณข้างบ้านของผู้ตาย

พี่สาวของนายวิชัยผู้ตาย เปิดเผยว่า ปกติแล้วตนไม่ค่อยได้ติดต่อนายวิชัย เพราะตนก็ต่างมีครอบครัวเป็นของตัวเอง กรณีที่น.ส.หน่อย เขาชอบกดดันน้องชายของตนนั้น ตนไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน แต่ตนก็พอทราบว่าน้องชายและแฟนสาวทะเลาะกันเป็นประจำเพราะน้องชาย เวลาโทรศัพท์มาหาตน เขาจะเล่าให้ตนฟังว่า แฟนสาวงอนบ่อย แต่ไม่รู้ว่ารายละเอียดลึก ๆ ทะเลาะกันเรื่องอะไร ส่วนตัวรักทั้งน้องชายทั้งน้องสะใภ้ ตนเคยเจอหน้าฝ่ายหญิงไม่กี่ครั้ง ก็เห็นเขาพูดจาดี ในเมื่อเขาตัดสินใจก่อเหตุแบบนี้ ตนก็ขอให้เขาทั้งคู่ไปสู่ภพภูมิที่ดี

นายจันทร์ใด ลีกา อายุ 42 ปี น้องชายของนายวิชัย ผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 12.30 น. นายวิชัย พี่ชายของตน ได้โทรศัพท์มาหาตนจำนวน 3 สาย ซึ่งตนอาศัยอยู่ใน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยนายวิชัย ได้พูดในสายด้วยน้ำเสียงที่ร้องห่มร้องไห้ว่า "ผมฆ่าเมียตายแล้ว แต่ไม่กล้าฆ่าตัวตาย ผมขออะไรสักอย่างได้ไหม ขอฝากลูกผมหน่อย และถ้าผมตายให้เอาศพผมไปเผาที่บ้านด้วย" จากนั้นน้องชาย ก็ร้องไห้เสียงสะอื้นเข้ามาในสาย และตัดสายไป ตอนนั้นตนยังคิดว่าน้องชายพูดเล่น ๆ เท่านั้น

จากนั้นตนได้โทรให้คนรู้จักที่อาศัยอยู่ใกล้ร้านของพี่ชาย ให้มาดูที่ร้านจนมาพบศพพี่ชายและพี่สะใภ้ นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องนอน หลังจากทราบว่าพี่ชายก่อเหตุฆ่าแฟนสาว และฆ่าตัวตายตาม ตนรู้สึกเสียใจมาก ไม่คิดว่าพี่ชายจะกล้าก่อเหตุจริง ตนไม่รู้ปมเหตุมาจากเรื่องอะไร พี่ชายไม่เคยบอกตนไว้ ส่วนเรื่องที่พี่ชายหึงหวง ประเด็นนี้ตนก็ยังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด

สำหรับพี่ชายตนเป็นคนนิสัยดี ก่อนหน้าจะคบกับน.ส.หน่อย พี่ชายมีภรรยามาแล้ว 1 คน เขาก็ไม่เคยตบตีภรรยา ก่อนหน้านี้พี่ชายเคยจะก่อเหตุฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง เหตุที่เกิดขึ้นตนคิดว่ามีส่วนที่พี่ชายเครียดจากปัญหาโควิด+19 เพราะที่ร้านไม่ค่อยมีลูกค้า ซึ่งพี่ชายจะต้องส่งค่าผ่อนรถ เดือนละ 10,000 ส่งบัตรเคดิต และส่งค่าเช่าร้านเดือนละ 5,000 จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่ชายเครียด

ในวันพรุ่งนี้ (29 มี.ค.64) ตนจะรับศพพี่ชายไปประกอบพิธีทางศานาที่ จ.กาญจนบุรี เนื่องจากวันนี้ยังรับศพไม่ได้ เพราะแพทย์ยังผ่าชันสูตรไม่เสร็จ ตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน.ส.หน่อย ตนไม่คิดว่าจะเกิดเหตุขึ้น

ด้านครอบครัวของน.ส.ธารทิพย์ ผู้เสียชีวิต เวลาประมาณ 14.00 น. ของวันนี้ ได้เดินทางมายัง สภ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี โดยทางครอบครัวปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ เนื่องจากยังอยู่ในสภาพวะที่เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากนั้นทีมข่าวเดินทางมายัง บ้านของ น.ส.ธารทิพย์ โพธิ์ทอง อายุ 21 ปี อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ทางครอบครัวยังไม่ได้ไปรับศพของผู้ตาย เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนผ่าชั้นสูตรที่ รพ.พระตอมเกล้า จ.เพชรบุรี แต่ที่บ้านของผู้ตายมีการจัดตั้งโต๊ะ เก้าอี้ เพื่อจัดงานศพไว้แล้ว

ทั้งนี้ทางครอบครัวผู้ตายยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ทีมข่าวแต่อย่างใด โดยให้ข้อมูลสั้น ๆ ว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางครอบครัวไม่ติดใจสาเหตุการตายแต่อย่างใด และสำหรับน.ส.ธารทิพย์ คบหากับนายวิชัย ได้เป็นเวลา 5 ปี โดยไม่ได้แต่งงานและจดทะเบียนสมรสกัน