จากกรณีเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 64 เวลา 15.50 น. เกิดเหตุพลุตะไลในงานงานฌาปนกิจศพที่เมรุเผาศพ ของวัดหน้าพระธาตุ หมู่ 1 ตำบลตะคุ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ตกใส่ศีรษะเด็กหญิงณัฐชา หรือ น้องมินท์ อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.3 ขณะกำลังเดินเเถวออกจากโรงเรียน ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ผู้บาดเจ็บสภาพนอนหงายสลบอยู่บนพื้นปูน มีเลือดไหลนอง เจ้าหน้าที่จึงรีบปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลปักธงชัย และส่งต่อไปโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ท่ามกลางความตกใจของนักเรียน และคณะครูด้วยความเป็นห่วง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เป็นตายเท่ากัน! พลุงานศพหล่นใส่หัวเด็ก 9 ขวบโคม่า ยายฉุนเอาเรื่องคนจุด
ล่าสุด วันที่ 30 มี.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่โรงเรียนระยะทางห่างจากเมรุเผาศพ สถานที่จุดบั้งไฟ 600 เมตร โดยจุดเกิดเหตุที่เด็กโดนบั้งไฟ อยู่บริเวณประตูของโรงเรียน พบคราบเลือดเด็กอยู่ที่พื้น รวมถึงยังพบคราบเขม่าดินปืนของพลุบั้งไฟ
นายหนูจันทร์ พุษฎีดอน อายุ 67 ปี เจ้าภาพงานศพ เป็นลูกเขยของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า คุณเเม่อายุ 90 ปี ได้เสียชีวิตด้วยโรคชรา ตั้งเเต่วันที่ 25 มี.ค. 64 มีการจัดงานศพที่บ้านในพื้นที่ หมู่ 3 ต.ตะคุ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา
โดยวันเกิดเหตุ 29 มี.ค. ได้เคลื่อนศพออกจากบ้านในเวลา 08.00 น. ไปยังเมรุเผาศพ อยู่ห่างจากโรงเรียน 600 เมตร จากนั้นก็ทำพิธีสงฆ์ เริ่มทำพิธีประชุมเพลิงเวลา 15.30 น. มีการจุดพลุบั้งไฟ 5 ดอก ตามความเชื่อของบรรพบุรุษในครอบครัว เพื่อเป็นการส่งดวงวิญญาณ โดยหลานชายของตนเป็นผู้จุด ส่วนพลุดบั้งไฟหลานก็เป็นคนซื้อมาจากต่างจังหวัด
จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.50 น. มีชาวบ้านวิ่งมาบอกว่าบั้งไฟที่จุดไปโดนเด็ก ตนเองก็ตกใจ ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เเบบนี้ ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากเกิดเหตุได้เข้าไปขอโทษครอบครัวเด็กแล้ว ยืนยันว่าจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่
นายจำลอง ผู้จุดพลุบั้งไฟตะไล เล่าว่า เมื่อวันที่ 29 มี.ค. มีการจัดงานศพให้กับคุณยายวัย 90 ปี ที่เสียชีวิตด้วยโรคชราที่ วัดหน้าพระธาตุ อ.ปักธงชัย ซึ่งเมรุกับวัดอยู่กันคนละที่ โดยมีโรงเรียนอยู่ตรงกลาง
ซึ่งได้ซื้อพลุบั้งไฟตะไลมาจำนวน 6 อัน เพื่อแสดงความไว้อาลัยให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว แต่จุดติดเพียงแค่ 4 อัน ไม่คิดว่าพลุไฟจะไปตกใส่ศีรษะเด็กจนอาการสาหัส อาจมาจากการที่ทิศทางลมเปลี่ยนด้วย ซึ่งตนได้มาขอโทษทางครอบครัวเด็กแล้ว และไปรับทราบข้อกล่าวหากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนจะรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น
พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผกก.สภ.ปักธงชัย เปิดเผยว่า วันนี้ได้เรียกตัวผู้จุดคือ นายนนทกร พรมเกตุ อายุ 35 ปี เป็นหลานของเจ้าภาพงานศพมาสอบปากคำแล้ว โดยนายนนทกรยังอยู่ในอาการเสียใจ
ตรวจสอบพบว่าเป็นบั้งไฟขนาดเล็ก มีการผลิตอยู่ในพื้นที่จังหวัดอื่น เพิ่งนำมาจุดในพื้นที่เป็นครั้งเเรก เป็นการจุดโดยไม่ได้ขออนุญาต เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และข้อหาจุดพลุ บั้งไฟ ตะไล โคมลอย โดยไม่ได้รับอนุญาต
นายถิรายุ ปิดตาละเเพ ผู้อำนวยการโรงเรียนอาจวิทยา เปิดเผยว่า เมื่อวานก่อนเกิดเหตุ เด็กนักเรียนที่บาดเจ็บเลิกเรียนในเวลา 15.30 น. ก็มีการเข้าเเถวปฏิบัติกิจกรรมอยู่ภายในโรงเรียนเป็นเวลา 20 นาที ก่อนที่เวลา 15.50 น. จะเดินเเถวกลับบ้าน โดยจังหวะที่เด็กพร้อมกับเพื่อนรวม 3 คน เดินถึงบริเวณหน้าประตูโรงเรียน บั้งไฟได้ตกใส่กลางศีรษะ ทำให้มีเด็กได้รับบาดเจ็บ 1 คน สร้างความตกใจให้กับครูเเละนักเรียนเป็นอย่างมาก
ซึ่งหลังจากนี้ คงต้องฝากถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ในการหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ส่วนทางโรงเรียนหลังจากนี้ หากมีงานฌาปณกิจศพอีก คงต้องปล่อยนักเรียนกลับบ้านเร็วกว่าปกติ เพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาการจุดพลุ
นายนิรุต อายุ 41 ปี พ่อ และนางพัชรี แม่ อายุ 34 ปี รวมไปถึงญาติพี่น้องได้กันจับกลุ่มพูดคุย และเป็นห่วงอาการของลูกสาว 100 ปี ให้คุ้มครองปกปักรักษาให้หายโดยเร็ว
นางพัชรี เล่าทั้งน้ำตาว่าลูกสาวคนเดียวของตน หลังจากเกิดอุบัติเหตุถูกพลุบั้งไฟตะไลในงานศพตกใส่ศีรษะจนอาการสาหัส รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราช แพทย์กำลังให้การช่วยเหลือ ตนเองยังรับกับเหตุการณ์นี้ไม่ได้ ซึ่งทางคนที่จุดพลุบั้งไฟตะไลทั้ง 2 คนรวมไปถึงญาติก็ได้มาขมากับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะเป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดเรื่องเลวร้ายแบบนี้
โดยอาการจากผ่าได้ 2 ชั่วโมง ได้มีการใช้เครื่องช่วยหายใจพักรักษาตัวอาการยังน่าเป็นห่วง ซึ่งตนได้พูดคุยกับคนจุดพลุบั้งไฟตะไลแล้ว ยอมรับผิดทุกอย่าง และจะรับผิดชอบทุกอย่าง ตนขอฝากถึงผู้ที่จะจุดพลุบั้งไฟตะไลในงานศพขอให้ยกเลิก เพราะไม่อยากเห็นข่าวแบบนี้อีก