กรณีสำนักงานพุทธศาสนา จ.บุรีรัมย์ พร้อมเจ้าคณะตำบลละเวี้ย และตำรวจ สภ.ประโคนชัย บุกจับสึกพระก้องเกียรติ อายุ 51 ปี หลังถูกร้องเรียนว่าทำหญิงวัย 26 ปี ตั้งท้อง 4 เดือน และไม่รับผิดชอบ โดยที่เจ้าตัวอ้างฝ่ายหญิงนำเมนูอาหารเพลที่เรียกว่า "ปูหลน" มาถวาย เมื่อฉันเข้าไปกลับทำให้อวัยวะเพศแข็งตัว คล้ายถูกวางยาปลุกเซ็กซ์จนคุมสติไม่ได้ และยอมรับว่ามีเพศสัมพันธ์กันจริง
ล่าสุดวันที่ 30 มี.ค.64 หลังจากเจ้าหน้าที่จับพระก้องเกียรติ สึกแล้ว หรือปัจจุบัน คือ นายก้องเกียรติ เนาว์ประโคน อายุ 51 ปี ชาว อ.ประโคนชัย ได้กลับมาที่สำนักเดิมอีกครั้ง พร้อมระบุว่า ขณะนี้ตนจะขอไปรักษาโรคประจำตัวก่อน คือ โรคไส้เลื่อน ยังไม่คิดจะทำอย่างไรกับชีวิต หากชาวบ้านจะให้ออกจากที่นี่ ถือว่าไม่ให้ความเป็นธรรม เพราะตนเป็นคนไทย จะอยู่ที่ไหนก็ได้ ส่วนจะให้กลับไปหาหญิงสาวคนดังกล่าวหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่คิดขอไปรักษาตัวก่อน
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ในหมู่บ้านดังกล่าว พบว่าชาวบ้านต่างโล่งอกที่เมนู "ปูหลน" ทำให้เรื่องพระแดงขึ้นมา เพราะที่ผ่านมามักจะเห็นพระรูปนี้ใส่กางเกง สวมหมวกปากเป็ดออกไปกับเด็กวัยรุ่น โดยไม่สนใจสายตาชาวบ้าน บางครั้งมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวในหมู่บ้านหน้าตาเฉย
นางศรัญญา เนาว์ประโคน อายุ 50 ปี น้องสาวของนายก้องเกียรติ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ไม่ทราบเรื่องจนกระทั่งเห็นในทีวี ก็รู้สึกตกใจมาก ต่อมาน้องสาวอีกคนที่ทำงานอยู่กรุงเทพฯ รีบโทรศัพท์มาคุยและให้ครอบครัวทำใจ เพราะเป็นวิบากกรรมของพี่ชายที่เคยทำเรื่องไม่ดีมาหลายเรื่อง
ทั้งนี้ที่ผ่านมา ตนไม่ค่อยได้เดินทางไปหาพระพี่ชาย เพราะพระพี่ชายเป็นคนแรง ๆ ตนจึงไม่อยากคุยด้วย แต่หลังจากนี้ตนก็คงจะต้องเดินทางไปเยี่ยมพี่ชาย ที่โรงพยาบาล เพราะเข้าไปรักษาอาการเครียดและโรคประจำตัว ส่วนเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตนก็ขอปล่อยให้ไปตามเวรตามกรรม
ด้านนางน้อย สาระศรี อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.ละเวี้ย อ.ประโคนชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนยอมรับว่าชาวบ้านไม่เคยสนใจสำนักแห่งนี้ เพราะพระไม่เคยออกจากสำนักเลย และไม่เคยสนใจใคร ชาวบ้านไม่คิดว่าตรงนี้คือวัดอีกด้วย
ส่วนกรณีที่อดีตพระก้องเกียรติ เคยไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิง ที่ผ่านมาตนก็ได้ยินข่าวว่าทำสาวหลายคนท้อง บางคนคลอดออกมาแล้ว บางคนก็ปิดข่าวเป็นความลับ แต่เท่าที่ตนทราบลูกคนเล็กของนายก้องเกียรติ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล หลังจากนี้ก็คงหมดสภาพความเป็นพระแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้แม้จะเสียหายแต่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะหลังจากนี้พระพุทธศาสนาจะไม่ต้องมัวหมองจากพฤติกรรมลักษณะที่ไม่เหมาะสม